เอเจนซีส์ – อาฟเตอร์ช็อกระดับรุนแรงหลายต่อหลายครั้งยังตามเขย่าเนปาลเมื่อวันอาทิตย์ (26 เม.ย.) สร้างความหวาดผวาแก่ผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงยิ่งในวันเสาร์ (25) ซึ่งได้ผลาญชีวิตผู้คนไปกว่า 2,500 คน และกระตุ้นให้เกิดเหตุหิมะถล่มใหญ่ เข้าใส่บริเวณที่ตั้งค่ายสำหรับผู้ปีนยอดเขาเอเวอเรสต์ ขณะเดียวกับ ที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามขุดหาผู้รอดชีวิตและร่างไร้วิญญาณใต้ซากอาคารในเมืองหลวงกาฐมาณฑุ
ชาวเมืองกาฐมาณฑุที่ยังอยู่ในอาการหวาดกลัว และจำนวนมากถูกบังคับให้ออกมาพักแรมกันนอกอาคารซึ่งหักพังเสียหาย ต้องพากันอกสั่นขวัญแขนเป็นระยะๆ จากอาฟเตอร์ช็อก หรือแผ่นดินไหวตาม ซึ่งเกิดขึ้นอีกหลายครั้ง โดยครั้งรุนแรงที่สุดนั้นวัดได้ 6.7 ในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ หลังจากที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ระดับ 7.8 ในวันเสาร์ อันถือเป็นครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1934 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8,500 ราย
อาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นรู้สึกได้ถึงกรุงนิวเดลีของอินเดีย กระทั่งทางการต้องสั่งระงับการให้บริการรถไฟใต้ดิน
ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินแห่งชาติของเนปาล ซึ่งตั้งฐานอยู่ในกรุงกาฐมาณฑุ รายงานในคืนวันอาทิตย์ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวคราวนี้ เฉพาะในเนปาลอยู่ที่ 2,430 คน และบาดเจ็บกว่า 6,000 คน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ในอินเดีย ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตในเขตประเทศนั้น 67 คน และสื่อมวลชนภาครัฐของจีนให้ตัวเลขว่า ในเขตปกครองตนเองทิเบตของแดนมังกร มีผู้เสียชีวิตไป 18 คน
ทางด้านนักปีนเขาซึ่งกำลังรอกันอยู่ที่บริเวณค่ายฐานเชิงเขาเอเวอเรสต์ รายงานว่า อาฟเตอร์ช็อกที่เกิดตามมาหลายๆ ครั้งในวันอาทิตย์ (26) ได้ทำให้เกิดเหตุหิมะถล่มใหญ่ในบริเวณยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกแห่งนี้ขึ้นมาอีก หลังจากที่เฮลิคอปเตอร์หลายลำเพิ่งขนย้ายผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน เดินทางไปสู่ที่ปลอดภัย พวกเขาประสบเคราะห์เมื่อตอนที่กำแพงหิมะมหึมาอันเกิดจากการกระตุ้นของแผ่นดินไหวใหญ่ ได้ไหลลงมาถล่มค่ายฐานแห่งนี้ในวันเสาร์ (25) ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 18 คน โดยที่คนหนึ่งในจำนวนนี้ คือ แดน เฟรดินเบิร์ก ผู้บริหารของบริษัท กูเกิล
ภัยพิบัติครั้งที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเอเวอเรสต์คราวนี้ บังเกิดขึ้นมาเกือบๆ 1 ปี พอดีหลังจากที่เกิดเหตุหิมะถล่มใหญ่ซึ่งสังหารผู้นำทางชาวเชอร์ปาไป 16 คน และจากความเสียหายร้ายแรงที่เกิดขึ้นใหม่ๆ นี้กำลังบังคับให้ต้องระงับฤดูไต่เขาในปีนี้ไปเลย ถึงแม้มีนักปีนเขาราว 800 คนมารวมตัวกันอยู่ในช่วงเริ่มต้นของฤดู
ในเวลาที่รัฐบาลเนปาลยังโกลาหลกับโศกนาฏกรรมร้ายแรงนี้ อินเดียได้ส่งเครื่องบินทหาร พร้อมอุปกรณ์การแพทย์และเจ้าหน้าที่ทีมรับมือภัยพิบัติแห่งชาติ 285 คนเดินทางสู่เนปาล ขณะที่จีนส่งทีมปฏิบัติการฉุกเฉิน 60 คนพร้อมสุนัขดมกลิ่น ปากีสถานจัดส่งเครื่องบิน ซี-130 จำนวน 4 ลำ พร้อมโรงพยาบาลเคลื่อนที่รองรับผู้บาดเจ็บ 30 คน ทีมค้นหาและกู้ภัย และอุปกรณ์บรรเทาทุกข์ และสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศส่งทีมรับมือภัยพิบัติไปสมทบ
หน่วยงานบรรเทาทุกข์ เผยว่า โรงพยาบาลต่างๆ ในเมืองหลวงของเนปาล อยู่ในสภาพขาดแคลนอุปกรณ์การแพทย์อย่างหนัก และเจ้าหน้าที่ต้องตั้งเต็นท์รักษาพยาบาลภายนอก เนื่องจากทั้งสถานที่ภายในไม่พอรองรับ และเพื่อความปลอดภัยกรณีที่เกิดอาฟเตอร์ช็อกรุนแรง
ปีเตอร์ ออยลี จากองค์การเซฟ เดอะ ชิลเดรน เผยว่า โรงพยาบาลในกาฐมาณฑุ แวลลีย์ ขาดแคลนทั้งห้องเก็บศพและอุปกรณ์ พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลเนปาลเร่งตัดสินใจและสั่งการให้กองทัพสนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็น
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสุชิล คอยราลา กำลังเดินทางกลับจากต่างประเทศและจะปราศรัยกับชาวเนปาลทันทีที่เดินทางถึง
ทหารและหน่วยกู้ภัยเนปาลทำงานตลอดคืนวันเสาร์ (25) เพื่อเปิดทางเข้าสู่อาคารมากมายที่พังทลายในกาฐมานฑุ เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตและร่างผู้เสียชีวิต
คามาล ซิงห์ บัม โฆษกสำนักงานตำรวจเนปาล เผยว่า ได้ระดมทรัพยากรการค้นหาและกู้ภัยทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน ขณะที่สภากาชาดแสดงความเป็นห่วงหมู่บ้านห่างไกลที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวทางตะวันตกเฉียงเหนือของกาฐมาณฑุ
เครือข่ายโทรศัพท์ไร้สายของเนปาลใช้การได้เป็นบางพื้นที่ แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ในเมืองหลวงไม่มีไฟฟ้าใช้
หนึ่งในสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองที่ถูกธรณีพิโรธคือ หอธราหารสูง 60 เมตรที่สร้างขึ้นในปี 1832 เพื่อถวายแด่ราชินีเนปาล และเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว โดยตำรวจเผยว่า มีผู้ติดอยู่ใต้ซากหอถึง 200 คน
อิรีนา โบโกวา ผู้อำนวยการยูเนสโก แถลงว่า ยูเนสโกพร้อมช่วยเหลือเนปาลปฏิสังขรณ์สถานที่ประวัติศาสตร์หลายแห่งในกาฐมาณฑุ แวลลีย์ที่เสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งนี้
ผู้คนในเมืองหลวงเนปาลนับหมื่นๆ ต้องนอนกลางถนนท่ามกลางอากาศหนาวเย็นและฝนตก ซ้ำร้ายยังมีการพยากรณ์อากาศว่า ฝนจะตกในกาฐมาณฑุ ซึ่งแน่นอนว่า จะทำให้ชะตากรรมของผู้ประสบภัยเหล่านี้เลวร้ายลงหลายเท่า
แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 80 ปี ในเนเปาลครั้งนี้มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองโภครา ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 และเกิดขึ้นช่วงเที่ยงวันเสาร์ในฤดูการท่องเที่ยวของปี ซึ่งเชื่อว่า มีนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 300,000 คน เดินทางสู่เนปาล เพื่อชื่นชมสถานที่ที่ได้รับยกย่องเป็นมรดกโลก รวมถึงเดินป่าและปีนเขา
รายงานระบุว่า มีนักปีนเขาและไกด์ชาวเชอร์ปาเกือบ 1,000 คน อยู่บนเอเวอเรสต์ตอนที่หิมะและก้อนหินระลอกแรกถล่มลงมา ภาพจากนักปีนเขาที่เผยแพร่ในสื่อสังคมเผยให้เห็นเต็นท์ และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ในค่ายฐานที่เชิงเขาราบเป็นหน้ากลอง
เฮลิคอปเตอร์เพิ่งเข้าไปอพยพผู้บาดเจ็บบนเอเวอเรสต์ได้เมื่อเช้าวันอาทิตย์ หลังจากท้องฟ้าโปร่งและสภาพอากาศเป็นใจ นักปีนเขาจำนวนมากที่ปลอดภัยดีเลือกที่จะเดินลงเขาเอง แทนการรอเฮลิคอปเตอร์กลับขึ้นไปรับ เนื่องจากเกรงว่า อาจต้องติดอยู่นานหลายวัน
เนปาลและประเทศอื่นๆ ที่ตั้งอยู่ในแถบเทือกเขาหิมาลัย เป็นพื้นที่ที่มีแนวโน้มสูงในการเกิดแผ่นดินไหว เนื่องจากการชนปะทะกันระหว่างแผ่นเปลือกโลกอินเดีย และแผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย