ASTVผู้จัดการรายวัน-บิ๊กยูฟันมาเลย์ ยกเลิกนัดชี้แจงสื่อไม่มีกำหนด พีอาร์แจงเหตุ บริษัทในมาเลเซียถูกตำรวจเข้าตรวจค้น ตำรวจเตรียมทำหนังสือถึงตำรวจสากลมาเลเซียช่วยติดตามตัว 3 ผู้ต้องหา ดีเอสไอพบมีอีก 3-4 บริษัททำธุรกิจหลอกลวงคล้ายยูฟัน ด้านบีน่าพูลี่ฯ เจ้าของบางกอก มารีน่า หอบหลักฐานพบตำรวจ ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยูฟัน ลั่นเตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหายด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (22 เม.ย.) บริษัทยูฟัน สโตร์ จำกัด ได้เชิญสื่อมวลชน เพื่อเดินทางไปยังมาเลเซีย ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD 311 เวลา 07.10 น. โดยได้นัดพร้อมกันที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อเดินทางไปสัมภาษณ์ ดาโต๊ะ แดเนียล เท ประธานบริหารกลุ่ม ยูฟัน กรุ๊ป ประเทศมาเลเซีย เกี่ยวกับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นกับธุรกิจในไทย รวมถึงข้อเท็จจริงในการดำเนินธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม การเดินทางได้มีการยกเลิกแบบกระทันหัน โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์บริษัท ยูฟัน แจ้งกับสื่อมวลชนเพื่อยกเลิกการเดินทาง โดยให้เหตุผลว่า บริษัทได้ถูกทางการมาเลเซียเข้าตรวจสอบเอกสารของบริษัท จึงต้องเลื่อนการชี้แจงออกไปอย่างไม่มีกำหนด
พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในการติดตามผู้ต้องหา ตำรวจได้ทำหนังสือประสานตำรวจสากลมาเลเซีย เพื่อขอให้ติดตามตัวผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย 3 คนแล้ว
ทั้งนี้ ล่าสุดสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 5 คน เข้ามอบตัว 1 คน มีผู้เสียหายมาแจ้งความจนถึงเมื่อวันที่ 21 เม.ย. รวม 131 คน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 43 ล้านบาท ในจำนวนมีผู้เสียหายสูงสุดถึง 18 ล้านบาทอยู่จ.กาญจนบุรี และยังมีกลุ่มประชาชนและข้าราชการจากจังหวัดต่างๆทยอยเข้าแจ้งความที่ บก. ปคบ. หลังได้รับความเสียหายจากการทำธุรกิจกับยูฟัน
พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล ผู้บัญชาการสำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า จากการขยายผลตรวจสอบพบว่ามีอีก 3-4 บริษัท ที่มีพฤติกรรมการกำหนดสกุลเงินและรูปแบบการหลอกลวงที่คล้ายกับยูฟัน ซึ่งจะมีการติดตามต่อไป และกำลังจะขยายผลเอาผิดกับหัวหน้าทีมที่ได้รับผลประโยชน์ โดยคาดว่าจะมีการออกหมายจับเพิ่มอีกหลาย 10 ราย ส่วนทรัพย์สินที่ยึดมาได้จากเครือข่ายยูฟัน มูลค่ากว่า 400 ล้านบาทนั้น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จะนำทรัพย์สินทั้งหมดเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการธุรกรรมในเดือนพ.ค.นี้ และปัจจุบันอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ นายไพรัตน์ จันทร์ชัยแก้ว ที่ปรึกษาโครงการบางกอก มารีน่า รีสอร์ท แอนด์ สปา บริษัท บีน่าพูลี่ไทยแลนด์ จำกัด นำเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการทำธุรกิจของบริษัท ยื่นต่อพลตำรวจโทสุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีของบริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด
นายไพรัตน์กล่าวว่า บริษัทบีน่าพูลี่ ได้ทำโครงการบางกอก มารีนา ที่อ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ โดยบริษัท ยูฟัน ได้ติดต่อเข้าซื้อหุ้นโครงการ 29% เป็นเงินประมาณ 17 ล้านบาท และจากนั้นได้ขอซื้อรีสอร์ทในโครงการเพิ่มอีก 100 ยูนิต มูลค่า 150 ล้านบาท เพื่อนำไปขายต่อเอง โดยนำชื่อบริษัทไปแอบอ้าง ทำให้บริษัทต้องขอซื้อหุ้นคืน เนื่องจากได้รับความเสียหาย และได้แจ้งความกับตำรวจแล้ว โดยขอยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท ยูฟัน และได้เตรียมที่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (22 เม.ย.) บริษัทยูฟัน สโตร์ จำกัด ได้เชิญสื่อมวลชน เพื่อเดินทางไปยังมาเลเซีย ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD 311 เวลา 07.10 น. โดยได้นัดพร้อมกันที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อเดินทางไปสัมภาษณ์ ดาโต๊ะ แดเนียล เท ประธานบริหารกลุ่ม ยูฟัน กรุ๊ป ประเทศมาเลเซีย เกี่ยวกับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นกับธุรกิจในไทย รวมถึงข้อเท็จจริงในการดำเนินธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม การเดินทางได้มีการยกเลิกแบบกระทันหัน โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์บริษัท ยูฟัน แจ้งกับสื่อมวลชนเพื่อยกเลิกการเดินทาง โดยให้เหตุผลว่า บริษัทได้ถูกทางการมาเลเซียเข้าตรวจสอบเอกสารของบริษัท จึงต้องเลื่อนการชี้แจงออกไปอย่างไม่มีกำหนด
พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในการติดตามผู้ต้องหา ตำรวจได้ทำหนังสือประสานตำรวจสากลมาเลเซีย เพื่อขอให้ติดตามตัวผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย 3 คนแล้ว
ทั้งนี้ ล่าสุดสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 5 คน เข้ามอบตัว 1 คน มีผู้เสียหายมาแจ้งความจนถึงเมื่อวันที่ 21 เม.ย. รวม 131 คน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 43 ล้านบาท ในจำนวนมีผู้เสียหายสูงสุดถึง 18 ล้านบาทอยู่จ.กาญจนบุรี และยังมีกลุ่มประชาชนและข้าราชการจากจังหวัดต่างๆทยอยเข้าแจ้งความที่ บก. ปคบ. หลังได้รับความเสียหายจากการทำธุรกิจกับยูฟัน
พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล ผู้บัญชาการสำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า จากการขยายผลตรวจสอบพบว่ามีอีก 3-4 บริษัท ที่มีพฤติกรรมการกำหนดสกุลเงินและรูปแบบการหลอกลวงที่คล้ายกับยูฟัน ซึ่งจะมีการติดตามต่อไป และกำลังจะขยายผลเอาผิดกับหัวหน้าทีมที่ได้รับผลประโยชน์ โดยคาดว่าจะมีการออกหมายจับเพิ่มอีกหลาย 10 ราย ส่วนทรัพย์สินที่ยึดมาได้จากเครือข่ายยูฟัน มูลค่ากว่า 400 ล้านบาทนั้น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จะนำทรัพย์สินทั้งหมดเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการธุรกรรมในเดือนพ.ค.นี้ และปัจจุบันอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ นายไพรัตน์ จันทร์ชัยแก้ว ที่ปรึกษาโครงการบางกอก มารีน่า รีสอร์ท แอนด์ สปา บริษัท บีน่าพูลี่ไทยแลนด์ จำกัด นำเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการทำธุรกิจของบริษัท ยื่นต่อพลตำรวจโทสุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีของบริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด
นายไพรัตน์กล่าวว่า บริษัทบีน่าพูลี่ ได้ทำโครงการบางกอก มารีนา ที่อ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ โดยบริษัท ยูฟัน ได้ติดต่อเข้าซื้อหุ้นโครงการ 29% เป็นเงินประมาณ 17 ล้านบาท และจากนั้นได้ขอซื้อรีสอร์ทในโครงการเพิ่มอีก 100 ยูนิต มูลค่า 150 ล้านบาท เพื่อนำไปขายต่อเอง โดยนำชื่อบริษัทไปแอบอ้าง ทำให้บริษัทต้องขอซื้อหุ้นคืน เนื่องจากได้รับความเสียหาย และได้แจ้งความกับตำรวจแล้ว โดยขอยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท ยูฟัน และได้เตรียมที่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายด้วย
