เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้มีกลุ่มผู้เสียหายจากคดีแชร์ลูกโซ่ บริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด จำนวน 5 ราย ประกอบด้วยประชาชน และนายทหารระดับสูง เดินทางเข้าแจ้งความกับ พล.ต.ท.สุวิระทรงเมตตา ผู้ช่วยผบ.ตร. และ พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รองผบก.ปคบ. หลังถูกผู้บริหารและผู้ถือหุ้นในบริษัทหลอกให้นำเงินไปร่วมลงทุน
หนึ่งในผู้เสียหายซึ่งเป็นนายทหารรายหนึ่ง (ขอสงวนชื่อ นามสกุล ) เปิดเผยว่า ตนเป็นนายทหารภายในค่ายทหารแห่งหนึ่งใน จ.อยุธยา เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มตัวแทนจาก บ.ยูฟัน เข้ามาในค่าย โดยมีวิทยากรบรรยายชักชวนให้เข้าเป็นสมาชิก ซึ่งผู้บังคับบัญชาของตนระดับพ.อ.พิเศษ ก็ร่วมลงทุนด้วย พวกตนจึงค่อนข้างไว้ใจเนื่องจากเห็นว่า ผู้บังคับบัญชายังสมัครเลย ตนจึงตัดสินใจสมัครโดยเสียเงินค่าสมัคร ในราคา 105,000 บาท โดยวิทยากรได้อ้างว่า แพ็กเก็จที่ตนสมัครนั้น เพียงแค่อยู่เฉย ๆ ก็จะได้เงินปันผลจากการที่ค่ายูโทเค่นเพิ่มขึ้น แต่เมื่อกลับบ้านมาเปิดอินเตอร์เน็ตเพื่อหาข้อมูล พบเว็บไซต์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่ ตนจึงเขัาไปอ่านพบว่า มีการพูดถึงบริษัทดังกล่าวรวมทั้งวิธีการหลอกลวงเหมือนกับที่วิทยากรชักชวน จึงคิดว่าน่าจะถูกหลอก ได้พยายามทวงถามไปยังบริษัทแต่กลับไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน ประกอบกับเมื่อไม่นานมานี้ตนเห็นข่าวการจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งเป็นผู้บริหารและผู้ถือหุ้นในบริษัทยูฟันจึงตัดสินใจชวนเพื่อนมาแจ้งความ นอกจากนี้เชื่อว่ามีนายทหารอีกหลายรายที่ตกเป็นเหยื่อแต่ไม่กล้ามาแจ้งความเพราะกลัวเสียหายและเสียชื่อเสียง
ผู้เสียหายอีกราย (ขอสงวนชื่อ นามสกุล ) กล่าวว่า เดิมตนทำธุรกิจขายตรงและเห็นว่าการลงทุนกับบริษัทยูฟันฯ ได้รับเงินดีจึงลงทุนไป 210,000 บาท ตั้งแต่เดือนพ.ค.57 ต่อมาทราบว่า บริษัทยูฟันฯมีลักษณะธุรกิจแชร์ลูกโซ่ จึงได้พยายามขายยูโทเค่นเมื่อ 2-3 วัน ที่ผ่านมาแต่ก็ขายไม่ได้ จึงได้สอบถามเพื่อนชาวมาเลเซีย เพราะเห็นว่าสำนักงานใหญ่บ.ยูฟัน ตั้งอยู่ที่นั้น เพื่อนได้บอกว่า ธนาคารแห่งชาติมาเลเชียประกาศเตือนประชาชนเมื่อ 1 ปี ที่ผ่านมาว่า หากใครลงทุนในบ.ยูฟัน ทางธนาคารจะไม่รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งขัดแย้งกับสิ่งที่ผู้บริหารระดับสูงของยูฟัน อ้างว่ามีการเปิดบริการกว่า 80 ประเทศ ตนจึงตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความ
ด้าน พล.ต.ท.สุวิระ กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้เสียหายพบว่าทางบ.ยูฟัน มีการอ้างถึงนายทหารระดับสูงที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ทำให้มีผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกเพิ่มขึ้น จากแนวทางการสืบสวนทราบว่า นายอาทิตย์ ปานแก้ว ผู้บริหารในบริษัทยูฟันพร้อบเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดี ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนนั้นพบว่า แท้จริงแล้วชื่อจริง คือ นาย จางเจี้ยน ชาวจีน และประกอบธุรกิจลักษณะคล้ายแชร์ลูกโซ่ กระทั่งมีหมายจับจากทางการจีนในข้อหาฉ้อโกง จึงหลบหนีไปพำนักอยู่ที่ประเทศมาเลเซียโดยเปลี่ยนชื่อเป็น นายแจ็กกี้ และร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิดบริษัทที่มีลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่ กระทั่งถูกทางการมาเลเซียออกหมายจับในข้อหาฉ้อโกงเช่นกัน ก่อนจะหลบหนีเข้ามายังประเทศไทย เมื่อปี 2552 และมีภรรยาเป็นคนไทยพร้อมศัลยกรรมเปลี่ยนหน้าตาและชื่อ เป็นนายอาทิตย์ ปานแก้ว โดยขณะนี้ตนได้ประสานข้อมูลกับตำรวจมาเลเซียเพื่อตรวจสอบความแน่ชัดแล้ว
ด้านพ.ต.อ.อังกูร กล่าวว่า ปคบ.จะมีการเปิดศูนย์เฉพาะกิจรับร้องทุกข์เกี่ยวกับบ.ยูฟัน เพื่อรองรับผู้เสียหายที่จะเข้ามาแจ้งความ นอกจากนี้ยังสามารถโทรแจ้งความเบื้องต้นได้ที่สายด่วน 1599 ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของตร.ได้ตลอด 24 ชม. เบื้องต้นมีประชาชนมาแจ้งความแล้วกว่า 90 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 35 ล้านบาท โดยยืนยันว่าประชาชนควรเร่งมาแจ้งความไม่ต้องห่วงว่า จะเป็นผู้ต้องหาเนื่องจากเจ้าหน้าที่ดูเจตนาเป็นหลัก หากไม่มีเจตนาในการฉ้อโกงเงินของผู้อื่นก็ไม่มีทางโดนตั้งข้อหาแน่นอน เพียงแต่ถูกกันเป็นผู้เสียหายและพยานเท่านั้น หากผู้บริหารบ.ยูฟัน ต้องการเข้ามอบตัว เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์เจ้าหน้าที่มีความยินดีอย่างยิ่ง และจะอำนวยความสะดวกให้เต็มที่
หนึ่งในผู้เสียหายซึ่งเป็นนายทหารรายหนึ่ง (ขอสงวนชื่อ นามสกุล ) เปิดเผยว่า ตนเป็นนายทหารภายในค่ายทหารแห่งหนึ่งใน จ.อยุธยา เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มตัวแทนจาก บ.ยูฟัน เข้ามาในค่าย โดยมีวิทยากรบรรยายชักชวนให้เข้าเป็นสมาชิก ซึ่งผู้บังคับบัญชาของตนระดับพ.อ.พิเศษ ก็ร่วมลงทุนด้วย พวกตนจึงค่อนข้างไว้ใจเนื่องจากเห็นว่า ผู้บังคับบัญชายังสมัครเลย ตนจึงตัดสินใจสมัครโดยเสียเงินค่าสมัคร ในราคา 105,000 บาท โดยวิทยากรได้อ้างว่า แพ็กเก็จที่ตนสมัครนั้น เพียงแค่อยู่เฉย ๆ ก็จะได้เงินปันผลจากการที่ค่ายูโทเค่นเพิ่มขึ้น แต่เมื่อกลับบ้านมาเปิดอินเตอร์เน็ตเพื่อหาข้อมูล พบเว็บไซต์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่ ตนจึงเขัาไปอ่านพบว่า มีการพูดถึงบริษัทดังกล่าวรวมทั้งวิธีการหลอกลวงเหมือนกับที่วิทยากรชักชวน จึงคิดว่าน่าจะถูกหลอก ได้พยายามทวงถามไปยังบริษัทแต่กลับไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน ประกอบกับเมื่อไม่นานมานี้ตนเห็นข่าวการจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งเป็นผู้บริหารและผู้ถือหุ้นในบริษัทยูฟันจึงตัดสินใจชวนเพื่อนมาแจ้งความ นอกจากนี้เชื่อว่ามีนายทหารอีกหลายรายที่ตกเป็นเหยื่อแต่ไม่กล้ามาแจ้งความเพราะกลัวเสียหายและเสียชื่อเสียง
ผู้เสียหายอีกราย (ขอสงวนชื่อ นามสกุล ) กล่าวว่า เดิมตนทำธุรกิจขายตรงและเห็นว่าการลงทุนกับบริษัทยูฟันฯ ได้รับเงินดีจึงลงทุนไป 210,000 บาท ตั้งแต่เดือนพ.ค.57 ต่อมาทราบว่า บริษัทยูฟันฯมีลักษณะธุรกิจแชร์ลูกโซ่ จึงได้พยายามขายยูโทเค่นเมื่อ 2-3 วัน ที่ผ่านมาแต่ก็ขายไม่ได้ จึงได้สอบถามเพื่อนชาวมาเลเซีย เพราะเห็นว่าสำนักงานใหญ่บ.ยูฟัน ตั้งอยู่ที่นั้น เพื่อนได้บอกว่า ธนาคารแห่งชาติมาเลเชียประกาศเตือนประชาชนเมื่อ 1 ปี ที่ผ่านมาว่า หากใครลงทุนในบ.ยูฟัน ทางธนาคารจะไม่รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งขัดแย้งกับสิ่งที่ผู้บริหารระดับสูงของยูฟัน อ้างว่ามีการเปิดบริการกว่า 80 ประเทศ ตนจึงตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความ
ด้าน พล.ต.ท.สุวิระ กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้เสียหายพบว่าทางบ.ยูฟัน มีการอ้างถึงนายทหารระดับสูงที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ทำให้มีผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกเพิ่มขึ้น จากแนวทางการสืบสวนทราบว่า นายอาทิตย์ ปานแก้ว ผู้บริหารในบริษัทยูฟันพร้อบเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดี ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนนั้นพบว่า แท้จริงแล้วชื่อจริง คือ นาย จางเจี้ยน ชาวจีน และประกอบธุรกิจลักษณะคล้ายแชร์ลูกโซ่ กระทั่งมีหมายจับจากทางการจีนในข้อหาฉ้อโกง จึงหลบหนีไปพำนักอยู่ที่ประเทศมาเลเซียโดยเปลี่ยนชื่อเป็น นายแจ็กกี้ และร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิดบริษัทที่มีลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่ กระทั่งถูกทางการมาเลเซียออกหมายจับในข้อหาฉ้อโกงเช่นกัน ก่อนจะหลบหนีเข้ามายังประเทศไทย เมื่อปี 2552 และมีภรรยาเป็นคนไทยพร้อมศัลยกรรมเปลี่ยนหน้าตาและชื่อ เป็นนายอาทิตย์ ปานแก้ว โดยขณะนี้ตนได้ประสานข้อมูลกับตำรวจมาเลเซียเพื่อตรวจสอบความแน่ชัดแล้ว
ด้านพ.ต.อ.อังกูร กล่าวว่า ปคบ.จะมีการเปิดศูนย์เฉพาะกิจรับร้องทุกข์เกี่ยวกับบ.ยูฟัน เพื่อรองรับผู้เสียหายที่จะเข้ามาแจ้งความ นอกจากนี้ยังสามารถโทรแจ้งความเบื้องต้นได้ที่สายด่วน 1599 ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของตร.ได้ตลอด 24 ชม. เบื้องต้นมีประชาชนมาแจ้งความแล้วกว่า 90 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 35 ล้านบาท โดยยืนยันว่าประชาชนควรเร่งมาแจ้งความไม่ต้องห่วงว่า จะเป็นผู้ต้องหาเนื่องจากเจ้าหน้าที่ดูเจตนาเป็นหลัก หากไม่มีเจตนาในการฉ้อโกงเงินของผู้อื่นก็ไม่มีทางโดนตั้งข้อหาแน่นอน เพียงแต่ถูกกันเป็นผู้เสียหายและพยานเท่านั้น หากผู้บริหารบ.ยูฟัน ต้องการเข้ามอบตัว เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์เจ้าหน้าที่มีความยินดีอย่างยิ่ง และจะอำนวยความสะดวกให้เต็มที่
