xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กจิน”รุกเรียกเชื่อมั่นการบินคืน แย้มไตรมาส3-4ดันลงทุน 5แสนล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-“ประจิน”โอดผลงาน6 เดือนไม่เข้าเป้า โดยเฉพาะรถไฟฟ้าและสุวรรณภูมิเฟส 2 ยอมรับปัญหาการบินเป็นเรื่องใหญ่ ต้องเร่งแก้เพื่อเรียกความเชื่อมั่นคืน ยันไตรมาส 3และ 4 ดันงบลงทุนออกไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้าน พร้อมสั่งร.ฟ.ท.ทำแผนเปลี่ยนรถจักรดีเซลเป็นรถไฟฟ้าทั่วประเทศภายในปี 75

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แถลงผลงานรอบ 6 เดือนของกระทรวงคมนาคมวานนี้ (22เม.ย.) ว่า ยังไม่พอใจในผลงาน เพราะมีหลายโครงการที่ล่าช้ากว่าแผน และมีแนวโน้มที่จะชะลอออกไป เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า และการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 เนื่องจากยังมีข้อติดขัดในการดำเนินตามระเบียบขั้นตอน เช่น กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง การศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) การศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) รวมทั้งการเวนคืนที่ดิน ซึ่งจะเร่งรัดกระบวนการให้กระชับมากขึ้น

ทั้งนี้ ยอมรับว่า การกำกับดูแลกรมการบินพลเรือน (บพ.) ต้องเร่งแก้ปัญหาครั้งใหญ่ เพื่อเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับมาอีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีความเชื่อมั่นต่อกิจการการบินของไทย และเชื่อว่าไทยมีศักยภาพสูงมากในการเป็นศูนย์กลางการบินในอาเซียนและเอเชีย แต่กลับมีความผิดพลาดเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่า ในช่วงไตรมาส 3-4 การขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานคมนาคมจะก้าวหน้าและมีรูปธรรมที่ชัดเจนมากขึ้น โดยจะมีงบลงทุนรวมประมาณ 5 แสนล้านบาทที่จะออกประกวดราคาเช่น รถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง , มอเตอร์เวย์ 3 เส้นทาง , รับมอบรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ในเดือนก.ค. , รับมอบรถไฟฟ้าสายสีม่วงปลายปี 2558 และเปิดเดินรถต้นปี 2559 , คัดเลือกผู้เดินรถสายสีน้ำเงินต่อขยาย สีเขียวเหนือและเขียวใต้ , แก้ปัญหาหนี้สินการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) รับมอบรถจักร 20 คัน , ความร่วมมือรถไฟไทย-จีน และเริ่มสำรวจออกแบบความร่วมมือรถไฟไทย-ญี่ปุ่น 2 เส้นทาง วงเงินรวม 1 ล้านล้านบาท จะเห็นความชัดเจนในเดือนส.ค.

สำหรับโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 คาดว่าจะได้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประมาณเดือนม.ค.-ก.พ.ที่ผ่านมา แต่งานมีความซับซ้อนมาก จึงต้องทบทวนรายละเอียดใหม่ให้ชัดเจน และเตรียมที่จะเสนอโครงการใน 2 ช่องทาง เพื่อความรวดเร็ว คือ ให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เสนอไปยังคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) และเสนอมาที่กระทรวงคมนาคม เพื่อพิจารณาร่วมกับคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ส่วนแหล่งเงินลงทุนนั้นมีความชัดเจนแล้วว่าส่วนหนึ่งจะใช้เงินรายได้ของAOT และอีกส่วนหนึ่งคือการกู้เงินจากสถาบันการเงิน ขณะที่แนวทางการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน คงต้องชะลอออกไปก่อน

พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า ได้ให้นโยบายร.ฟ.ท.ทำแผนการนำรถไฟฟ้ามาใช้ทดแทนรถจักรดีเซล โดยตั้งเป้าให้รถไฟดีเซลหมดไปในปี 2575 เพื่อลดการใช้พลังงานที่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม โดยรถไฟไทย-จีนจะใช้รถไฟฟ้า ซึ่งนำเข้าไฟฟ้าจากลาว ซึ่งหากปรับหมดทั้งประเทศ จะใช้พลังงานไฟฟ้าสำหรับรถไฟประมาณ 1-2% หรือ 500 เมกกะวัตต์ จากการใช้พลังงานไฟฟ้าทั่งประเทศ 26,000 เมกกะวัตต์ โดยจะมีการสร้างแหล่งผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสง ,พลังงานลมในเส้นทางสายอีสานซึ่งจะไม่กระทบกับการใช้ไฟฟ้าในประเทสแน่นอน ทั้งนี้จะเริ่มนำร่องโครงการรถไฟเส้นทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ เชื่อมกับมาเลเซีย ใช้รถไฟฟ้าในปี 2560
กำลังโหลดความคิดเห็น