xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“วีระ สมความคิด” เปิดใจแฉขบวนการอำมหิต ลอบฆ่าพระป่า หวังฮุบผืนดิน!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายวีระ สมความคิด
ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - จากกรณีที่ “นายวีระ สมความคิด” ออกมาโพสต์เฟชบุ๊กแฉอดีตสมุนนักการเมืองขั้วอำนาจเก่าไล่เผาป่า ยิงปืนใส่สถานปฏิบัติธรรม “สวนเมตตาธรรม” อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เพื่อขับไล่พระอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมออกนอกพื้นที่ จะได้เข้ายึดครองผืนป่า จากนั้นยังเรียกร้องให้ คสช. คุ้มกัน “พระกิตติศักดิ์” เพราะเกรงว่าจะถูกฆ่าเหมือน “พระสุพจน์” นั้น

เพื่อให้เรื่องนี้กระจ่างมากขึ้น นายวีระได้ให้สัมภาษณ์พิเศษแก่ “ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ พร้อม “แฉ” ต้นตอของผู้พยายามยึดครองป่า และเงื่อนงำของการตายของพระสุพจน์ที่ถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหดชนิดที่คุณจะต้องอึ้ง!

** เห็นคุณวีระโพสต์เฟซบุ๊กบอกว่ามีสมุนของนักการเมืองขั้วอำนาจเก่าไล่เผาป่า พยายามขับไล่พระอนุรักษ์ออกจากสถานปฏิบัติธรรม “สวนเมตตาธรรม” และห่วงว่าพระกิตติศักดิ์จะถูกฆ่าเหมือนพระสุพจน์ ข้อเท็จจริงเรื่องนี้เป็นอย่างไร

 คืออย่างนี้เรื่องนี้สืบเนื่องมาจากกรณี พระสุพจน์ สุวโจ ที่ถูกฆาตกรรมอย่างเหี้ยมโหดที่สวนเมตตาธรรม ซึ่งเป็นสถานปฏิบัติธรรมที่ อ.ฝาง จ. เชียงใหม่ เมื่อประมาณสิบกว่าปีที่แล้ว ผมเพิ่งมีโอกาสไปที่สวนเมตตาธรรมเมื่อตอนปีใหม่ที่ผ่านมา ได้พบพระกิตติศักดิ์ กิตติโสภโณ ที่ท่านเป็นประธานสงฆ์อยู่ที่นี่ พอไปสอบถามและไปเก็บข้อมูล จึงพบว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำสลับซับซ้อนหลายเรื่อง

  เรื่องเริ่มตั้งแต่ของพระอาจารย์สิงห์ทน นราสโภ ซึ่งอดีตเคยเป็นเลขานุการของสมเด็จพระสังฆราช และท่านต้องลาสิกขาออกมา ตอนที่เกิดปัญหาเรื่องการแย่งตำแหน่งพระสังฆราชกันนานแล้ว 30 กว่าปี และท่านออกมาเป็นฆราวาส และได้มีครอบครัว จากนั้นกลับมาบวชใหม่ตอนอายุมากแล้ว ตรงนั้นท่านเคยไปได้ที่แห่งหนึ่งเป็นสถานปฏิบัติธรรม ซึ่งตรงนี้คือสวนเมตตาธรรม เมื่อก่อนเป็นที่ ส.ป.ก. และท่านไปได้ที่มา และไปลงลิ้นจี่พันธุ์ดีเอาไว้ มันก็มีปัญหาเรื่องความขัดแย้งระหว่างหุ้นส่วน หรือคนที่ไปร่วมบุกเบิกสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้

เรียกว่าเรื่องนี้มันมีเงื่อนงำอยู่ของคนที่เคยร่วมกันก่อตั้ง และภายหลังมาก็อ้างว่า เขาเป็นเจ้าหนี้เงินในการซื้อวัสดุมาก่อสร้างสวนเมตตาธรรม เพราะเขาเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้าง จึงอยากจะมาขอแบ่งส่วนใช่ไหมครับ เลยมีการฟ้องร้องกัน ทีนี้พระอาจารย์สิงห์ทนได้มอบที่ดินตรงนี้ให้มูลนิธิเมตตาธรรมรักษ์ ที่อาจารย์กิตติศักดิ์กับพระสุพจน์ดูแลอยู่ ก็เลยส่งพระสุพจน์ไปอยู่ว่าจะให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม พอชุดนี้เข้าไปอยู่ ก็มีปัญหาความขัดแย้ง

นอกจากนี้ยังมีขบวนการค้ายาเสพติดเป็นของเจ้าแม่คนหนึ่ง ตอนนี้ถูกจับแล้ว เขาเป็นคนพื้นที่แหละ เขาเป็นหุ้นส่วน เขาก็เป็นคนร่วมก่อตั้งในวัด และเขาค้ายา ตอนนี้เขาติดคุกอยู่ รายใหญ่ด้วยนะ ถูกจับหลายปีแล้ว ชื่อดังมาก และภายหลังสามีเขามาดำเนินการต่อ ในการที่ว่าจะมาเรียกร้องเอาที่ดินวัด คือเขาอยากฮุบที่ดินวัดทั้งหมด เพื่อใช้เป็นที่พักยา อันนี้เป็นข้อมูลลึกเลย เพราะว่าข้างหลังสวนเมตตาธรรมนี้ติดกับป่าทึบ มันเดินไม่กี่กิโลฯ มันก็เข้าเขตพม่า และเข้าเขตอิทธิพลของขุนส่าเลย จุดนี้มันเป็นจุดที่เขาเดินยามานานแล้ว เพราะอย่างนั้นเขาถึงไม่ค่อยอยากให้พระเข้าไปอยู่ ตรงนี้เป็นข้อมูลที่ลึกมาก แต่หน่วยงานความมั่นคงเขารู้นะ ไม่ใช่เขาไม่รู้ หน่วยงานความมั่นคงเขาก็รู้ว่า จุดนี้เป็นจุดที่ล่อแหลมมาก ตรงนี้เลยเป็นที่มาที่ไปที่จะมีการพยายามขัดขวางพระที่เข้ามาอยู่ พยายามจะไล่ให้พระออกไป

           นอกจากนั้นยังมีอีกประเด็นคือ มีนายทุนอีกราย ซึ่งเขาทำสวนส้มอยู่เหนือขึ้นไปอีกหน่อยหนึ่ง เขามีสวนส้มเป็นร้อยไร่เลย เขาอยากได้ที่แปลงนี้ แต่เท่าที่ผมรู้ เจ้าของสวนส้มก็เป็นเครือข่ายที่สนับสนุนไทยรักไทย และนักการเมืองท้องถิ่น เขาเคยลง ส.ส.ด้วย ตอนหลังน้องชายเขาก็ลง ส.ส.ด้วยนะ คือตัวพี่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น และตัวน้องชายก็ได้เป็น ส.ส.ของพรรคไทยรักไทย พูดง่ายๆ ว่าเขาก็พยายามไล่พระพวกนี้ออกให้หมดเหมือนกัน

แล้วหลายเรื่องยังเกี่ยวกับเรื่องนักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งตอนนั้นเป็นเครือข่ายเดียวกับขั้วอำนาจเก่า เนื่องจากพระอาจารย์กิตติศักดิ์ หรือพระสุพจน์ที่ถูกฆ่าตายไปแล้ว ท่านเป็นพระหนุ่มรุ่นใหม่ หัวก้าวหน้า ลูกศิษย์ท่านพระพุทธทาส พูดง่ายๆ ท่าน มีแนวคิดค่อนข้างตรงข้ามกับขั้วอำนาจเก่า หลายครั้งท่านวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการเมือง ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจถึงกับออกปากที่จะให้จัดการกับพระกลุ่มนี้ที่ไปอยู่ที่นั่น

ดังนั้นสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ จึงโดนหลายกลุ่มพยายามขับไล่ที่ อยากให้จัดการพระที่อยู่ในที่ดินแห่งนี้ เพราะมันเป็นผืนดินที่ใครๆ ก็อยากได้ สถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้จึงโดนยิงประจำ กลางคืนก็เอาปืนมาไล่ยิง

** เห็นบอกว่าพระกิตติศักดิ์ กิตติโสภโณ ซึ่งตอนนี้อยู่ที่สวนเมตตาธรรมก็ถูกไล่ที่และถูกลอบยิงตลอด ช่วยเล่าถึงกรณีพระกิตติศักดิ์ให้ฟังหน่อย

พระกิตติศักดิ์ท่านเป็นนักสู้ บวชมาหลายสิบปีแล้ว ถ้าผมจำไม่ผิด เมื่อก่อนท่านจะอยู่กรุงเทพฯ ท่านเคยทำโครงการช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสในกรุงเทพฯ อยู่ที่วัดบางไส้ไก่ ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่สวนเมตตาธรรม

จากความเห็นของผม พระกิตติศักดิ์เป็นพระที่ไม่กลัว และท่านสู้ ตรงนี้แหละเลยเป็นจุดที่ทำให้ชาวบ้านรอบๆ นั้นไม่ค่อยชอบท่าน อาจเป็นเพราะท่านมีแรงกดดันจากเพื่อนท่าน คือ พระสุพจน์ที่ถูกฆ่าอย่างอยุติธรรม และไม่มีใครที่จะช่วยให้ความเป็นธรรมได้ ดังนั้นท่านต้องพึ่งตัวเอง ต้องป้องกันตัวเองและระวังตัวเองตลอด ฉะนั้นเวลาที่มีใครเข้าไปที่วัด ถ้าเข้าไปในลักษณะไม่เป็นมิตรกับท่าน ท่านจะไม่เป็นมิตรด้วย คือท่านต้องระวังตัวเอง อย่างเช่น คนที่ชอบลักลอบเข้าไปขโมยของในวัด ไปตัดไม้ ไปจับสัตว์ ท่านก็จะแจ้งตำรวจจับดำเนินคดี ดังนั้นเลยถูกพวกกลุ่มนายทุนไปยุยงชาวบ้านให้เกลียดชังท่าน ไปกล่าวหาท่านต่างๆ นานา ว่า ท่านไม่บิณฑบาต ทั้งที่ความจริงท่านอาพาธเป็นรูมาตอยด์ เดินไม่ค่อยได้ หัวเข่าท่านเสีย ทำให้ทุกวันนี้ มีญาติท่านไปอยู่ดูแลและอยู่เป็นเพื่อนท่าน เนื่องจากท่านอยู่ที่นี่องค์เดียว ไม่มีใครกล้าไปอยู่กับท่าน

ที่ผ่านมาท่านโดนลอบยิงประจำ ท่านถึงต้องเลี้ยงหมาดุ เลี้ยงหมาพันธุ์บางแก้วตั้งหลายตัว ตอนกลางคืนท่านก็จะปล่อยหมา ถ้าใครเข้าไปในวัด ก็จะเสร็จ คิดว่าถ้าไม่อาศัยหมาพวกนี้ท่านคงแย่ไปแล้วแหละ

บางคนโจมตีพระกิตติศักดิ์ บอกว่าท่านมีอาวุธ ทั้งที่ท่านเอาไว้ป้องกันตัวเอง บางคนก็ไปโจมตีว่าเป็นพระไม่ต้องกลัวตาย ไม่ต้องมีอาวุธ ไม่ต้องมีใครมาดูแล ใครอยากฆ่าก็ให้เขาฆ่าไป เขามองอย่างนั้น ถ้าเห็นเป็นจริงในสมัยนี้ ก็จะเห็นพระถูกฆ่าเยอะแยะไป คนที่มันไม่กลัวบาปกลัวกรรมทุกวันนี้มันก็มีมากขึ้น คราวนี้ถ้าพระท่านจะต้องมารอให้กฎหมายบ้านเมืองไปดูแลท่าน ถามว่าทุกวันนี้ดูแลท่านได้ไหม แล้วที่บอกท่านไม่บิณฑบาต อยากบอกว่าการที่พระอาพาธแล้วบิณฑบาตไม่ได้ จะต้องขาดจากความเป็นพระเลยหรือ

คุณต้องไปดูว่า ทำไมท่านไม่บิณฑบาต ทำไมท่านไม่ชรับกิจนิมนต์ เพราะชาวบ้านแถวนั้นไม่นิมนต์เอง เพราะว่าผู้มีอิทธิพลไปสั่งหมดเลยว่า ห้ามมายุ่งกับวัดนี้ ห้ามใส่บาตรวัดนี้ ผมถามอย่างนี้แล้วท่านจะไปบิณฑบาตกับใคร แล้วตอนออกมาบิณฑบาต ใครจะดูแลชีวิตให้ท่าน เพราะเดินออกมาเขาก็โดนลอบยิงแล้ว คือต้องดูตรงนี้ด้วย

   แล้วถ้าเปรียบกับพระทั่วไปที่ทุกวันนี้ควรต้องปาราชิกเต็มวัดเต็มประเทศอยู่ทุกวันนี้ แต่ทำไมไม่เห็นมีองค์กรศาสนาไหนไปจัดการเลย แล้วควรไปดูว่าพระกิตติศักดิ์ท่านเป็นพระแบบไหน ท่านสอนธรรมะ ท่านเป็นพระค่อนข้างที่จะสนใจปัญหาบ้านเมือง ร่วมแสดงความคิดเห็น จึงมีคนไม่ค่อยชอบว่าเป็นพระที่มายุ่งอะไรแสดงความคิดเห็นทางการเมือง แต่ผมมองว่าพระแบบกิตติศักดิ์นั้นยังทำประโยชน์ให้แก่สังคม ยังประโยชน์ให้แก่พระศาสนา

 ผมชื่นชมพระกิตติศักดิ์ ในฐานะที่ผมเคยบวชมา และได้สัมผัสท่าน ผมชื่นชมว่าท่านเป็นพระที่ไม่ใช่ว่าเอาตัวรอด ไม่ใช่พอบวชมาวันๆ ก็ไม่สนใจสังคมเลย ไม่สนใจเอาแต่ตัวรอด คือนั่งภาวนาให้ตัวเองบรรลุธรรมแต่เพียงผู้เดียว และสังคมประเทศชาติจะเดือดร้อนอย่างไรก็ช่าง ตัวเองขอให้ใครเอาเงินมาถวาย เอาข้าวมาให้กิน ก็อยู่ไปวันๆ เห็นชาวบ้านเขาจะเดือดร้อนฉิบหาย ก็ไม่กล้าที่จะไปสอนไปสั่งเขา อย่างนี้ผมถือว่าไม่ใช่ พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนอย่างนั้น พระก็ต้องอยู่กับสังคม พระก็ต้องเป็นที่พึ่งให้สังคม ต้องสอนชาวบ้านให้รู้ผิดรู้ชอบ ต้องกล้าพูดไง ถ้าไม่กล้าพูดเกรงใจชาวบ้าน แล้วปล่อยเขาอยากทำอะไรก็ทำ กูกลัวตาย กูไม่อยู่ กูอยู่ไม่ได้ กูก็ไปอยู่ที่อื่น แล้วอย่างนี้ชาวบ้านจะมีใครเป็นที่พึ่ง ผมถามหน่อย ถ้าเกิดไม่มีท่าน ป่าหมด ใครจะเป็นที่พึ่ง พระที่มีอุดมการณ์ พระที่เสียสละ กล้าปกป้องรักษาผืนป่า แล้วเราไม่ส่งเสริม แต่พระที่ทำลายป่า พระที่ไปสร้างถาวรวัตถุดูดเงิน หลอกคนอะไรอย่างนี้กลับไม่มีใครว่า ผมอยากจะฝากให้ประชาชนช่วยกันคิดตรงนี้ด้วย

            แต่ถ้าวันใดผมรู้ว่าพระกิตติศักดิ์ไม่ดีจริง ผมนี่แหละจะเป็นคนแรกที่จะจัดการท่านเอง ไม่ใช่ว่าพอผมชื่นชมท่าน แล้วผมจะต้องไปยืนข้างท่านแบบหัวปักหัวปำ ผมมีเหตุผล แต่ตอนนี้ผมชื่นชมตรงที่ว่าท่านรักษาสมบัติของชาติ ท่านกล้าที่จะต่อสู้ กล้าที่จะพูด กล้าที่จะปกป้อง ซึ่งตรงนี้ผมว่าหาได้ยากมาก

** แล้วกรณีที่พระสุพจน์ สุวโจ ถูกยิงตายที่สวนเมตตาธรรมเมื่อหลายปีก่อนล่ะ คุณวีระเห็นเงื่อนงำอะไรไหม

 กรณีพระสุพจน์เป็นเรื่องน่าเศร้าใจมาก ต้องเล่าก่อนว่าวันเกิดเหตุ ท่านอยู่ที่วัดองค์เดียว วันนั้นศพท่านถูกเอามาทิ้งอยู่ข้างๆ ทาง คือ อยู่ในสวนเมตตาธรรมนั่นแหละ แต่อยู่ใกล้ๆ ทาง เพื่อให้คนผ่านมาเห็น มันเป็นการวางแผนกัน จากร่องรอยท่านอยู่ที่กุฏิริมลำธาร ถ้าไปจะเห็นกุฏิ จะต้องเดินเข้าไปลึก คือมันเป็นไปไม่ได้ บางคนบอกว่าท่านออกมาไล่พวกที่ไปลักลอบตัดไม้ไผ่ ซึ่งตอนที่ท่านถูกฆ่านั้น น้ำกำลังหลาก มันเป็นลำธารเสียงดังมาก เพราะมันเป็นโขดหิน ไม่มีทางได้ยินเสียงใครจะมาตัดไม้ได้ ผมเชื่อว่าท่านถูกจี้ออกมา ถูกคุมตัวออกมาจากกุฏิ เนื่องจากกุฏิท่านอยู่ลึกเข้าไปในป่า พอถูกพาออกมาแล้วก็ถูกฆ่า จากสภาพศพท่านถูกฟัน ถูกแทงยับเยินหมดเลย เรียกว่าสภาพศพแย่มาก และจีวรหลุดลุ่ยเลย

  ผมรู้สึกว่ามันไม่ธรรมดา มันทำอย่างเป็นขบวนการ และข้อมูลลึกๆ เท่าที่ผมได้อย่างไม่เป็นทางการ คือ มีคนในเครื่องแบบเข้าไปเกี่ยวข้องกับการฆ่า ซึ่งก็คือ พวกตำรวจนั่นแหละ ส่วนประเด็นว่าตำรวจจะลงมือเอง หรือว่าจะให้นักฆ่าจากที่อื่นมาลงมือ เราก็ไม่รู้ แต่คนที่กล้าฆ่าพระในผ้าเหลืองได้ ถือว่ามันอำมหิตโหดเหี้ยม ถ้ามันไม่ใช่ชาวพุทธก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร เรียกว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าสลดมาก

 พอเห็นเงื่อนงำเหล่านี้แล้ว คุณวีระมองว่ามีวิธีไหนที่น่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้บ้าง

 ต้องให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบทั้งหมด เข้าไปดูว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไร ปัญหาเกี่ยวกับวัด การได้มาถูกต้องตามกฎหมายไหม ตอนนี้วัดอยู่ในสถานะอย่างไร มีเอกสารสิทธิถูกต้องแค่ไหน อย่างนี้ก็ควรทำให้ถูกต้อง ถ้าเขามีสิทธิของเขาก็ให้เขามีสิทธิตามนั้น เหมือนกับคนอื่น เท่าที่ผมดู ทางสวนเมตตาธรรมมีเอกสารสิทธิบางส่วน พระท่านยืนยันว่า เอกสารสิทธิของท่านมีครบ และมีมานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทั้งหมด เพราะว่าการที่ท่านดูแล ท่านดูแลนอกจากเขตพื้นที่ด้วยคือ รักษาป่าไว้หมดไม่ให้ใครเข้าไปบุกรุก ซึ่งตรงนี้ตอนหลังมาทางการรู้สึกจะมาเอาคืน แต่การเอาคืนก็ต้องขอย้ำว่า เอาคืนแล้วต้องมีปัญญาดูแลนะ นี่ย้ำเลย มีปัญญาดูแลรักษาให้เหมือนกับพระดูแล ไม่ใช่เอากลับคืนไป เสร็จแล้วก็เอาไปขายต่อ ปล่อยให้มีการบุกรุก อย่างนี้ไม่ได้นะ

ผมเคยเจอกรณีที่พระเข้าไปดูแลวัดตามโครงการของนายทุน คือ พระเป็นลูกน้องนายทุน บวชใหม่ไม่กี่พรรษา แต่นายทุนส่งเข้าไปยึดวัดเก่า ซึ่งเป็นต้นน้ำลำ ธารสวย ยึดเสร็จแล้วก็ปล่อยให้นายทุน เห็นไหมว่ากรณีอย่างนี้ก็มี คือเราต้องดูเป็นกรณีไปว่าพระดีก็มี  พระที่ไปอยู่ป่าแล้วต้องการรักษาป่าก็มีเยอะ แต่พระที่เข้าไปอยู่ในวัดป่า แล้วต้องการที่จะเปลี่ยนวัดมาเป็นรีสอร์ต เพื่อให้มาเป็นของนายทุน มันก็มีอยู่ คือเราต้องดูเป็นรายละเอียด จะไปเหมารวมว่าพระที่รักษาป่าเลวหมดก็ไม่ใช่ ผมถึงอยากให้ดูเป็นเรื่องๆ ไป

 ตอนนี้ผมเสนอเลยว่า   พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรใช้มาตรา 44  ให้มันเด็ดขาดกับพวกนี้ ซึ่งเมื่อก่อนกฎหมายมีอยู่แล้วแหละ แต่เจ้าหน้าที่รัฐไม่มีใครกล้า ดังนั้น คสช.ก็ทำเรื่องพวกนี้สิครับ อย่ามารังแกพวกประชาชนที่เขาจะออกมาปกป้องรักษาประโยชน์ ผมก็เคยโดนจับมาแล้ว แต่พวกอิทธิพลพวกนี้ทำไมคุณไม่ไปจัดการ ใช้มาตรา 44 จัดการกับมาเฟียพวกนี้ พวกค้ายาใหญ่ๆ พวกผู้มีอิทธิพลในท้องที่ที่ไม่มีตำรวจ ผู้ว่าฯ กล้าทำ เอาอำนาจคุณประยุทธ์คนเดียว ที่คุณบอกคุณรับผิดชอบคนเดียว รีบดำเนินการเรื่องพวกนี้ซะ ถ้าคุณไปจัดการกับพวกมีอิทธิพลพวกนี้ ทำแล้วจะมีแต่คนสรรเสริญ

แล้วที่หลายวัดที่ทำแล้วไม่ถูกต้อง ผมว่าอย่าไปเกรงใจว่าเป็นพระ เข้าไปตรวจให้ดี อันไหนผิดก็ว่าไปตามผิด พระที่อยู่แล้วไม่ได้ปฏิบัติธรรม ไม่ได้รักษาป่าจริงๆ แต่อยู่เพื่อต้องการจะฮุบไปให้นายทุน ฮุบไปเป็นสมบัติส่วนตัว เสร็จแล้วพอได้กรรมสิทธิ์ ตัวเองก็สึกออกมาครอบครอง อย่างนี้ก็ควรจัดการซะ แล้วเอาที่ป่าสาธารณะ ที่ป่าสงวนแห่งชาติกลับคืนมา

** แล้วหลังจากนี้ คุณวีระวางแผนจะดำเนินการกับเรื่องนี้อย่างไรต่อไป

 ผมก็จะจับตาดูอยู่ตลอดนะ เรื่องนี้ผมคงไม่ปล่อย และอยากจะดูด้วยว่า กรณีการสังหารพระสุพจน์เมื่อไรจะจับคนร้ายได้ นี่มันผ่านเข้ามา 10 ปีแล้ว เหลืออีก10 ปีอายุความหมด

ก็ต้องจัดการว่าเมื่อไรจะจับคนร้ายได้ ป่านนี้ทำไมจับไม่ได้ ร่องรอยชัดขนาดนี้ และปรากฏว่าเรื่องนี้คนมีสี คือตำรวจตอนนั้นไปทำลายหลักฐานทั้งหมดเอง ผมมีหลักฐานนะ ไม่ใช่ผมพูดลอยๆ ตำรวจนั่นแหละรู้ดีและทำลายหลักฐาน ถ้าตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องแล้ว ไม่มีทางหรอกที่จะจับได้ เพราะว่าเขารู้ว่าต้องทำอย่างไรจึงจะทำลายพยานหลักฐานที่สำคัญได้

 ผมอยากบอกคนทำผิดในเรื่องนี้ว่ากฎหมายบ้านเมืองมีนะ คุณทำผิดกฎหมาย คุณอยากจะเพิ่มข้อหาใหม่ๆ ขึ้นไปเรื่อยๆ ก็ไม่เป็นไร และนอกจากกฎหมายบ้านเมือง กฎแห่งกรรมก็มี และคนที่เขาไม่ปล่อยก็มี ไม่ใช่ว่าคุณจะใหญ่ค้ำฟ้า คุณไม่ได้ใหญ่ค้ำฟ้าหรอก ไม่มีใครเขากลัวหรอก บอกตรงๆ คุณก็ไม่ได้จะใหญ่โต อย่าคิดว่าทุกคนจะกลัวคุณหมด อย่างน้อยพระกิตติศักดิ์ก็ไม่ได้กลัวคุณ
ดังนั้นผมจะใช้กฎหมายในการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา ถ้าผมพบความจริงเมื่อไร คนร้ายก็ควรต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อย่าลืมนะครับว่าอายุความยังเหลืออยู่ ทุกคนต้องการต่อสู้เพื่อความถูกต้อง อย่างน้อยก็เพื่อความเป็นธรรมกับตัวเขาเอง คงไม่มีใครยอมหรอกครับที่จะถูกรังแกอยู่ฝ่ายเดียว


นายวีระ สมความคิด สอบถามเงื่อนงำกับพระกิตติศักดิ์ กิตติโสภโณ
กุฎิพระสุพจน์ สุวโจ เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่
สถูปบรรจุอัฐของพระสุพจน์
บริเวณกุฎิพระสุพจน์
พระสุพจน์
พระกิตติศักดิ์
กำลังโหลดความคิดเห็น