xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ตร.ปัดข่าวจับผู้ต้องหาวางบึ้มพารากอน ย้ำให้เวลาทีมสืบสวนทำงานเต็มที่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.
ผบ.ตร.ปฏิเสธข่าวจับผู้ต้องหาคดีระเบิด 2 ลูก บริเวณทางเชื่อมสถานีบีทีเอสสยามกับห้างสรรพสินค้าพารากอน แต่มีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องหรือรู้เบาะแสมาสอบปากคำ ย้ำไม่ได้กำหนดเวลาทีมสืบสวนว่าต้องจับคนร้ายได้เมื่อใด เพราะมองว่าการพิสูจน์ทราบว่าใครเป็นผู้กระทำผิดสำคัญกว่า กำชับคดีนี้ละเอียดอ่อนการทำงานต้องรอบคอบรัดกุม ยืนยันคดีที่เกิดตำรวจไม่ได้หละหลวม

วันนี้(6 ก.พ.)ที่กองบัญชาการศึกษา(บช.ศ.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวถึงคดีระเบิดที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ว่า ขณะนี้มีหลายกระแสข่าวว่าจับกุมคนนั้นคนนี้ ตนไม่เคยได้รับรายงาน หากเป็นเรื่องจริงตนต้องเป็นคนแรกที่ทราบ ตอนนี้ยืนยันว่าไม่มีจับกุมใคร ขณะนี้ทุกคนทำงานด้วยความตั้งใจทุ่มเทเพื่อจับกุมคนร้ายให้ได้

"คดีที่เกิดขึ้นความรู้สึกส่วนตัวไม่กำหนดเวลาว่าต้องช้าหรือเร็ว เพียงแต่ทำอะไรให้มันรอบคอบ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทุกอย่างต้องตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริงกล่าวหาว่าคนนั้นคนนี้น่าจะมีส่วนคงไม่ได้ อย่างเช่นมีข่าวว่าเป็นคนของคนนั้นคนนี้ผมก็ไม่เคยได้รับรายงาน หรือปรากฎเหตุอย่างนั้น อาจมีการเรียก หรือเชิญ มาสอบสวน อาจมีการเชิญผู้เกี่ยวหรือหรือคนมีส่วนที่จะต่อไปถึงความเป็นมาเป็นไปมาสอบบ้างก็เท่านั้นตามปกติของการสืบสวนสอบสวน ที่ต้องเชิญคนที่อาจรู้เห็น เกี่ยวข้อง หรือให้เบาะแสได้บ้างมาให้ข้อมูล แต่ยังไม่ตอบว่าเชิญกลุ่มไหนมาบ้าง อย่างเจอแท็กซี่ก็เชิญแท็กซี่มาสอบ เจอใครที่น่าจะรู้เห็นเราก็ขอความร่วมมือ" ผบ.ตร.กล่าว

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อว่า ทหารและตำรวจทำงานร่วมกันตลอด ในการเชิญคนต่างๆ มาขอความร่วมมือ บางครั้งต้องใช้อำนาจตามกฎหมายพิเศษของทหารเชิญตัวมาสอบ แต่อย่างไรก็ตามต้องอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง ยุติธรรม เป็นธรรมไม่กลั่นแกล้งใคร และไม่เคยกดดันผู้ใต้บังคับบัญชาว่าจะต้องจับได้ภายใน 3 วัน 5 วัน และผู้บังคับบัญชาทุกท่านก็ไม่กดดัน เพียงแต่ย้ำว่าต้องทำตามพยานหลักฐาน ข้อเท็จจริง และเป็นไปตามกฎหมาย

"บางครั้งการจับได้หรือไม่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่เราต้องพิสูจน์ทราบให้รู้ว่าใครคือผู้กระทำความผิดนั้นสำคัญกว่า หมายความว่าต้องดำเนินการออกหมายจับให้ได้ บางครั้งมีออกหมายจับหลายๆคนแล้วผู้ต้องหาหนีไปต่างประเทศก็จับไม่ได้ แล้วจะให้ทำอย่างไร อย่างกรณีนี้หากเป็นแบบนั้นอีกก็แล้วแต่ ผมไม่รู้สึกกดดันจากกระแสสังคม หรือจากสื่อ หรือจากใครก็ตามที่ว่าต้องจับได้วันนั้นวันนี้ อย่านับวัน" ผบ.ตร.กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูจากกล้องวงจรปิดคนร้ายบุคลิกลักษณะคล้ายคนในเครื่องแบบ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า อันนี้ต้องถามฝ่ายสืบสวน อย่างไรก็ตามไม่ว่าใครทำผิดต้องจับกุม ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ต้องตามหลักฐานที่ปรากฎแน่ชัด ทั้งนี้ ทั้งนั้นขณะนี้มีมาตรการในการเฝ้าระวังดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มข้น ทำมาต่อเนื่องนับแต่มีสถานการณ์ความไม่สงบในต่างประเทศ จึงมีการดูแลชาวต่างชาติที่มาจากประเทศคู่ขัดแย้ง รวมถึงคนไทยด้วย มีแผนอยู่แล้ว ยืนยันว่าเหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความหละหลวม เพียงแต่ที่ผ่านมามีการผ่อนกำลังเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบเพื่อไม่ให้กระทบบรรยากาศการท่องเที่ยวเท่านั้น เป็นเรื่องธรรมดาที่คนจ้องกระทำหาโอกาสเสมอ เหตุที่เกิดอยู่ที่จิตสำนึกคนที่ทำว่าเพื่อประโยชน์อะไร ทำแล้วประเทศชาติเสียหาย อย่างไรก็ตามตำรวจสันติบาลเกาะติดการข่าวร่วมกับฝ่ายมั่นคงต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องขณะนี้ไม่พบสัญญาณที่น่ากังวล

ด้าน พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. กล่าวว่า ขณะนี้แนวทางการสืบสวนมีความคืบหน้าพอสมควร โดยสั่งการให้ชุดสืบสวนดำเนินการตรวจสอบบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และนำเหตุการที่มีการระเบิดในพื้นที่ความรับผิดชอบของบช.น.ตั้งแต่ปี53 จำนวน 21 ครั้ง มาเปรียบเทียบและตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง ส่วนการตรวจสอบเหตุการณ์ระเบิดที่มีนบุรี พบว่ามีความแตกต่างหลายเหตุ แต่มีบางกรณีที่มีส่วนคล้ายกับเหตุการระเบิดหน้าห้างสรรพสินค้าพารากอน คือการประกอบระเบิด แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนกรณีนำตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำนั้น ไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ เพราะการนำตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำเพิ่มเติมถือว่าเป็นเรื่องปกติ ระหว่างเดียวกันได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเร่งติดตามหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุที่มีนบุรี เพื่อขอหมายศาลอนุมัติหมายจับ หากตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้วพบว่ามีผู้เกี่ยวข้อง ทางเจ้าหน้าที่จะเชิญตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม
กำลังโหลดความคิดเห็น