ASTVผู้จัดการรายวัน - ชาวไทย-ต่างชาติร่วมสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ที่สนามหลวงเนืองแน่น ขณะที่ กทม.ขยายการเล่นน้ำสงกรานต์ ถ.สีลม ถึงวันนี้ สน.ชนะสงคราม จัดกำลัง 500 นายคุมเข้ม ถ.ข้าวสาร ย้ำไม่ประมาท ส่วนต่างจังหวัดอีสานคึก ตร.บุรีรัมย์จับ 3 สาวเต้นโชว์หวิว หาดใหญ่ค้าขายคึกคัก หาดหัวหินปักธงแดง ห้ามลงเล่นน้ำทะเลเหตุคลื่นลมแรง อุตุฯ เตือนภาคใต้รับมือฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง บขส.เพิ่มเที่ยวรถรับคนกลับกรุง คาด 15 เม.ย.คนเดินทางมากสุด
บรรยากาศการร่วมกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ บริเวณท้องสนามหลวงวานนี้ (14 เม.ย.) มีประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางมาร่วมกิจกรรมในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง แม้อากาศจะค่อนข้างร้อนระอุ โดยประชาชนและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ร่วมสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ ที่ได้อันเชิญมาไว้บริเวณท้องสนามหลวง นอกจากนี้ ยังมีซุ้มสรงน้ำพระ 9 วัด เป็นที่สนใจของประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่างมาก
ด้าน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการจัดงานสงกรานต์ในพื้นที่ถนนสีลม จัดตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ ภาพรวมเป็นที่น่าพอใจ มีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มาร่วมกิจกรรมเล่นน้ำสงกรานต์มากกว่าปีที่ผ่านมา คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 1 แสนคนต่อวัน ส่งผลต่อการจับจ่ายใช้สอยบนถนนสีลม มีความคึกคักมากขึ้น ช่วง 3 วันที่ผ่านมา พบมีผู้กระทำความผิดจำนวนลดลง โดยเป็นคดีการลักทรัพย์ จำนวน 4 คดี และกระทำผิดฝ่าฝืนจำหน่ายเครื่องแอลกอฮอล์ จำนวน 2 คดี
อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานครได้ขยายเวลาการจัดงานสงกรานต์ถนนสีลม และมาตรการรักษาความปลอดภัย ออกไปอีกจนถึงวันพุธที่ 15 เมษายน จากกำหนดเดิมจัดถึงวันที่ 14 เมษายนนี้ เท่านั้น เนื่องจากยังมีประชาชนเข้ามาเล่นน้ำเป็นจำนวนมาก โดยจะมีการปิดถนนให้เล่นน้ำตั้งแต่เวลา 12.00-21.00 น.แต่จะไม่มีกิจกรรมบนเวที และอุโมงค์น้ำรักสีลม
สำหรับบรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์ใน กทม.โดยรวม เมื่อวานนี้ยังเป็นไปอย่างคึกคัก นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติหลั่งไหลมาอย่างต่อเนื่อง โดยประชาชนให้ความร่วมมืองดเล่นแป้ง แต่งกายสุภาพ ตามที่กรุงเทพมหานครได้ขอความร่วมมือเพื่อให้การเล่นน้ำสงกรานต์ปลอดแป้ง ปลอดแอลกอฮอล์ ปลอดโป๊ และปลอดภัย เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยเทศกาลสงกรานต์ปี 2558 ของกรุงเทพมหานครทั้ง 6 จุด ยังพร้อมให้บริการอยู่ถึง 15 เมษายนนี้ โดยเฉพาะทีมงานช่างยนต์จากกองโรงงานช่างกล คอยให้บริการแก้ไขรถยนต์ที่มีปัญหาทั้งวัน
นายไมตรี อินทุสุต รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การเดินทางกลับเข้ากรุงเทพมหานครของประชาชนช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องต้องเพิ่มการตรวจวัดแอลกอฮอล์และสารเสพติดตามสถานีขนส่งผู้โดยสาร รถโดยสาร รถตู้ เน้นย้ำการปฏิบัติตามกฎระเบียบของกรมการขนส่งทางบก ขณะที่จังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายทะเล 23 จังหวัด เน้นการตรวจตราการบรรทุกของเรือ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเช่นกัน พร้อมระวังคลื่นลมแรง จากพายุฤดูร้อน ที่เริ่มเคลื่อนลงสู่พื้นที่ภาคใต้
*สน.ชนะสงครามจัดกำลังคุมเข้ม ถ.ข้าวสาร
พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐผล ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม เปิดเผยกรณีมาตรารักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบถนนข้าวสาร ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจชนะสงคราม แบ่งกำลังออกเป็น 2 ผลัด เริ่มตรวจตราพื้นที่ผลัดแรกตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. และผลัดที่สองตั้งแต่ 16.00 น. ไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ ยอดกำลังทั้งหมดรวมถึงอาสาสมัครจากหน่วยงานต่างๆ มีกว่าผลัดละ 500 คน โดยคาดว่านักท่องเที่ยวจะเข้ามาจนเต็มพื้นที่ จะใช้มาตราการเดียวกันกับช่วงเช้า เน้นการตรวจตราพื้นที่ถนนข้าวสารและถนนรามบุตรี โดยจะมีจุดตรวจค้นอาวุธ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และแป้ง รวมถึงสิ่งอื่นๆ ที่อาจจะนำมาใช้เป็นอาวุธได้ ส่วนรอบๆ บริเวณได้ตั้งจุดป้องกันและเฝ้าระวังเหตุอีก 8 จุด ทั้งนี้ ในด้านการข่าวยังไม่มีการรายงานการเฝ้าระวังใดๆ เข้ามาเป็นพิเศษ แต่ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่จะไม่ประมาท
ทั้งนี้ ถ.ข้าวสาร จะเปิดให้เล่นน้ำสงกรานต์ไปจนถึงเวลาประมาณ 22.00 น. หลังจากนั้นจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนเคลียร์พื้นที่ ให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางกลับบ้าน ในถนนราชดำเนิน
*ตร.บุรีรัมย์จับ 3 สาวเต้นโชว์หวิวสงกรานต์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนก่อนเช้าวันที่ 14 เม.ย. พ.ต.อ.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.ท.สาธิต สถิตถาวร สารวัตรจราจร สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร เข้าทำการจับกุมหญิงสาว 3 คน ประกอบไปด้วย น.ส.ติยาภร เพื่อไทย อายุ 23 ปี , น.ส.จันทิมา แก้วดี อายุ 20 ปี และ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ จ.อุบลราชธานี และ จ.สุรินทร์ ที่บริเวณถนนเสด็จนิวัฒน์ หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 1 ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ทั้ง 3 สาว ได้แต่งกายหล่อแหลมไม่สุภาพ ทั้งมีพฤติกรรมเต้นท่าทางยั่วยวนวาบหวิว ซึ่งเป็นการกระทำผิดตามกฎหมาย และไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ที่สำคัญไม่ให้ความเคารพสถานที่หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ประชาชนชาวบุรีรัมย์สักการะบูชา ซึ่งทั้ง 3 คน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตักเตือนและจับเปรียบเทียบปรับไปแล้ว แต่กลับไม่สำนึกยังทำผิดซ้ำอีก จึงได้จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเบื้องต้นได้ถูกแจ้งข้อหา “กระทำการอันควรขายหน้าต่อธารกำนัล”
เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ทำการตรวจยึดรถยนต์ 4 คัน ที่มีการดัดแปลงสภาพ และจับกุมเจ้าของรถทั้ง 4 ราย ประกอบด้วย นายบุญรักษ์ มะลิซ้อน อายุ 31 ปี , นายเอกสิทธิ์ มะลิซ้อน อายุ 37 ปี , นายยุทธพงษ์ กรยุทธพิพัฒน์ อายุ 38 ปี และนายอิทธิฤทธิ์ ศักดิ์ศรีกลม อายุ 20 ปี เนื่องจากมีการดัดแปลงสภาพรถใส่เครื่องเสียงเสียงดังเกินกว่ากฎหมายกำหนด สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่บุคคลอื่น ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุม ได้มีวัยรุ่นชาย 2 คน คือ นายภัคพล แสงวรรณ์ อายุ 23 ปี และนายอัมรินทร์ สุขแดง อายุ 29 ปี ใช้วาจาดูหมิ่น และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีด้วย
ต่อมา พล.ต.ต.สุวรรณ เอกโพธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.อ.ประยุทธ์ โพธิ์แก้วกุล รองผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ได้เดินทางมาตรวจดูรถยนต์ ที่มีการดัดแปลงสภาพด้วยการใส่เครื่องเสียงเสียงดังเกินกว่ากฎหมายกกำหนดที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึด พร้อมทั้งได้ฝากให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดจับกุมกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมดังกล่าวด้วย รวมทั้งขอให้ประชาชนเล่นน้ำสงกรานต์ตามประเพณีไทยๆ อีกด้วย
*สงกรานต์นครพนมเงียบเหงา "ถนนข้าวปุ้น" ริมโขงลมแรง
ที่ จ.นครพนม บรรยากาศสงกรานต์ถนนข้าวปุ้นยังคงพบว่าเงียบเหงา มีประชาชน นักท่องเที่ยว ออกมาเล่นน้ำสงกรานต์ น้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยงานเริ่มตั้งแต่ช่วงเย็นเมื่อวานที่ผ่านมา มีนายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยข้าราชการ เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ประชาชน นักท่องเที่ยว ทำเปิดประเพณีสงกรานต์นครพนม รื่นรมย์บุญปีใหม่ไทย-ลาว และถนนข้าวปุ้น ประจำปี 2558 ขึ้น ตลอดแนวถนนสุนทรวิจิตรริมฝั่งแม่น้ำโขง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้เที่ยวเล่นน้ำสงกรานต์
สำหรับในปีนี้สภาพอากาศแปรรวน ภาคเช้ามีสภาพอากาศหนาวเย็น แต่ในช่วงสายกลับมีลมแรง และเริ่มหนาวเย็นทำให้ประชาชน นักท่องเที่ยว เล่นน้ำน้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา บวกกับทางรัฐบาลได้มีการออกระเบียบ ไม่ให้มีการนำถังน้ำบรรทุกขึ้นรถ เล่นน้ำสงกรานต์ ทำให้ตามถนนสายต่างๆ ที่มีการเล่นน้ำทุกปี ไม่คึกคัก
รวมถึงบริเวณถนนข้าวปุ้น เรียบริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่มีการย้ายจุดเล่นน้ำไป บริเวณหน้าตลาดอินโดจีน และห้ามไม่ให้มีรถผ่าน ทำให้บริเวณเล่นน้ำสงกรานต์ ถนนข้าวปุ้น ที่เคยจัดทุกปี เงียบเหงา มีคนเล่นน้ำน้อย ไม่คึกคักเหมือนทุกปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจ ค้าขายซบเซาด้วย
*ย่านการค้าเมืองหาดใหญ่คึกคัก
บรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วkนนี้ (14 เม.ย.) กลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังสิ้นสุดงานหาดใหญ่มิดไนท์สงกรานต์ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่เทศบาลนครหาดใหญ่ได้เปิดพื้นที่บริเวณการจัดงานทั้งถนนเสน่หานุสรณ์ ถนนธรรมนูญวิถี และถนนนิพัทธ์อุทิศ 3 ให้รถสัญจรได้ตามปกติ ขณะที่บรรยากาศการท่องเที่ยวในภาพรวมตามย่านการค้าต่างๆ ใน อ.หาดใหญ่ ยังคงคึกคัก เช่น ที่ตลาดกิมหยง ห้างสรรพสินค้าต่างๆ แม้ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย บางส่วนจะทยอยเดินทางกลับกันตั้งแต่ช่วงเช้า แต่ยังมีอีกจำนวนมากที่อยู่เที่ยวต่อ และออกไปช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้าของใช้ ของกิน ของฝาก รวมไปถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวทั้ง โรงแรม ห้างร้าน และร้านอาหาร รวมทั้งรถตุ๊กตุ๊ก ยังมีนักท่องเที่ยวใช้บริการอย่างเนืองแน่น
ขณะที่ยังนักท่องเที่ยวอีกส่วนหนึ่งเดินทางไปทำบุญตามวัดต่างๆ ใน อ.หาดใหญ่ และออกไปท่องเที่ยวต่อตามจังหวัดท่องเที่ยวในฝั่งอันดามันอีกด้วย
*ททท.พังงาคาดเงินสะพัดกว่า 120 ล้าน
แหล่งท่องเที่ยวแทบทุกแห่งในจังหวัดพังงา โดยเฉพาะชายทะเลหาดบางสัก หาดเขาหลัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเฉพาะคนไทยต่างพาครอบครัวเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนอย่างต่อเนื่องในวันครอบครัวช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยหลายครอบครัวยังอาศัยช่วงเวลาที่ดีนี้ออกไปทานอาหารนอกบ้านร่วมกัน เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีภายในครอบครัว ส่งผลให้ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร และแผงลอยต่างมีรายได้เพิ่มขึ้นจากยอดขายให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติขณะที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็ยังคงพักผ่อนอยู่ในพื้นที่จังหวัดพังงาอยู่ ทำให้โรงแรม และ รีสอร์ทจำนวนไม่น้อย ยังมีนักท่องเที่ยวอยู่เป็นจำนวนมาก
นางสาวลัดดาวัลย์ ช่วยชาติ หัวศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยงจังหวัดพังงา กล่าวว่า เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ยังคงคึกคักเหมือนเช่นทุกปี มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาพักผ่อนที่จังหวัดพังงาเป็นจำนวนมาก โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยจะนิยมมาเป็นหมู่คณะ เป็นครอบครัว ในขณะที่ชายหาดบางสักในช่วงวันครอบครัวช่วงเทศกาลสงกรานต์จะคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวไทยต่างพาครอบครัวมาเล่นน้ำทะเล ทานอาหารบริเวณชายหาดกันอย่างเนืองแน่น โดยในปีนี้คาดว่าจะมีเงินสะพัดในช่วงวันสงกรานต์กว่า 120 ล้านบาท
*หาดหัวหินคลื่นแรงห้ามลงเล่นน้ำ
บรรยากาศที่ชายหาดหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ยังคงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางมาพักผ่อนในวันหยุดเนื่องในเทศกาลสงกรานต์กันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ที่บริเวณชายหาดมีการขึ้นธงสีแดง เพื่อประกาศเตือนไม่ให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำอย่างเด็ดขาด เนื่องจากสภาพคลื่นลมแรงกว่าปกติ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวหัวหินยังได้จัดกำลังลงพื้นที่ชายหาดหัวหินตลอดแนว เพื่อขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการชายหาด ม้าเช่าชายหาด เจ็ตสกี ห่วงยาง ร้านค้า และโรงแรม ในการช่วยกันเฝ้าระวัง แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้ลงเล่นน้ำทะเล โดยเฉพาะครอบครัวมีที่เด็กเล็ก ขอให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่ให้ออกไปเล่นน้ำนอกสายตา รวมทั้งขอให้ผู้ประกอบการช่วยกันสอดส่องดูแลนักท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง
พร้อมกันนี้ ได้ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวเล่นน้ำอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงน้ำขึ้น-น้ำลง ซึ่งจะแรงดูดของคลื่นซัดออกจากชายฝั่ง จึงไม่ควรลงไปเล่นน้ำลึกมากนัก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย หลังจากเมื่อวันที่ 13 เม.ย.) มีนักท่องเที่ยวจมน้ำทะเลเสียชีวิต 3 ราย
ขณะที่นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้สั่งปรับแผนดูแลนักท่องเที่ยวทางน้ำ โดยได้สั่งการให้มีการเพิ่มเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำตลอดแนวชายหาด ตั้งแต่หัวหิน ถึงอำเภอบางสะพานน้อย พร้อมจัดชุดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนบริเวณชายหาดและในทะเล รวมทั้งประสานให้เรือเจ็ตสกี บานานาโบ๊ต ให้มาร่วมดูแลนักท่องเที่ยว
*อุตุฯ เตือนภาคใต้รับมือฝนฟ้าคะนอง
กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ลมตะวันออกกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากลักษณะอากาศดังกล่าว รวมถึงอยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย
*บขส.เพิ่มเที่ยวรถรับคนกลับกรุง
นายนพรัตน์ การุณยะวนิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารการเดินรถ รักษาการแทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวถึงแผนรองรับการเดินทางกลับของประชาชนจากเทศกาลสงกรานต์ ว่า ตั้งแต่วันที่ 14-19 เมษายนนี้ ได้จัดเสริมเที่ยวรถทุกเส้นทางเช่นขามา คือ จากเดิม 6,000 เที่ยว ให้เพิ่มอีก 1,000 เที่ยว ยกเว้นวันที่ 15 เมษายน จะเพิ่มอีก 1,500 เที่ยว เนื่องจากคาดว่าจะเป็นวันที่มีประชาชนเดินทางมากที่สุด โดยคาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 150,000 คน ส่วนความปลอดภัยเรื่องคนขับรถ ต้องแวะจุดตรวจตามที่กระทรวงคมนาคมกำหนดในแต่ละเส้นทาง ทั้งนี้ มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องรถโดยสารไม่เพียงพอ
รักษาการแทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. กล่าวด้วยว่า ภาพรวมปีนี้มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็น กว่า 700,000 คน จากปีที่แล้วที่มีกว่า 610,000 คน แต่ไม่มีการตกค้าง นอกจากนี้ ได้ขอความร่วมมือองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ให้นำรถมารอรับที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร เพื่อระบายผู้โดยสารได้ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว ขณะที่รถแท็กซี่ได้ตรวจสอบประวัติ และทุกคันต้องให้บริการประชาชนทั้งหมดโดยไม่เลือกว่าระยะสั้น หรือระยะยาว.
บรรยากาศการร่วมกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ บริเวณท้องสนามหลวงวานนี้ (14 เม.ย.) มีประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางมาร่วมกิจกรรมในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง แม้อากาศจะค่อนข้างร้อนระอุ โดยประชาชนและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ร่วมสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ ที่ได้อันเชิญมาไว้บริเวณท้องสนามหลวง นอกจากนี้ ยังมีซุ้มสรงน้ำพระ 9 วัด เป็นที่สนใจของประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่างมาก
ด้าน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการจัดงานสงกรานต์ในพื้นที่ถนนสีลม จัดตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ ภาพรวมเป็นที่น่าพอใจ มีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มาร่วมกิจกรรมเล่นน้ำสงกรานต์มากกว่าปีที่ผ่านมา คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 1 แสนคนต่อวัน ส่งผลต่อการจับจ่ายใช้สอยบนถนนสีลม มีความคึกคักมากขึ้น ช่วง 3 วันที่ผ่านมา พบมีผู้กระทำความผิดจำนวนลดลง โดยเป็นคดีการลักทรัพย์ จำนวน 4 คดี และกระทำผิดฝ่าฝืนจำหน่ายเครื่องแอลกอฮอล์ จำนวน 2 คดี
อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานครได้ขยายเวลาการจัดงานสงกรานต์ถนนสีลม และมาตรการรักษาความปลอดภัย ออกไปอีกจนถึงวันพุธที่ 15 เมษายน จากกำหนดเดิมจัดถึงวันที่ 14 เมษายนนี้ เท่านั้น เนื่องจากยังมีประชาชนเข้ามาเล่นน้ำเป็นจำนวนมาก โดยจะมีการปิดถนนให้เล่นน้ำตั้งแต่เวลา 12.00-21.00 น.แต่จะไม่มีกิจกรรมบนเวที และอุโมงค์น้ำรักสีลม
สำหรับบรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์ใน กทม.โดยรวม เมื่อวานนี้ยังเป็นไปอย่างคึกคัก นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติหลั่งไหลมาอย่างต่อเนื่อง โดยประชาชนให้ความร่วมมืองดเล่นแป้ง แต่งกายสุภาพ ตามที่กรุงเทพมหานครได้ขอความร่วมมือเพื่อให้การเล่นน้ำสงกรานต์ปลอดแป้ง ปลอดแอลกอฮอล์ ปลอดโป๊ และปลอดภัย เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยเทศกาลสงกรานต์ปี 2558 ของกรุงเทพมหานครทั้ง 6 จุด ยังพร้อมให้บริการอยู่ถึง 15 เมษายนนี้ โดยเฉพาะทีมงานช่างยนต์จากกองโรงงานช่างกล คอยให้บริการแก้ไขรถยนต์ที่มีปัญหาทั้งวัน
นายไมตรี อินทุสุต รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การเดินทางกลับเข้ากรุงเทพมหานครของประชาชนช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องต้องเพิ่มการตรวจวัดแอลกอฮอล์และสารเสพติดตามสถานีขนส่งผู้โดยสาร รถโดยสาร รถตู้ เน้นย้ำการปฏิบัติตามกฎระเบียบของกรมการขนส่งทางบก ขณะที่จังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายทะเล 23 จังหวัด เน้นการตรวจตราการบรรทุกของเรือ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเช่นกัน พร้อมระวังคลื่นลมแรง จากพายุฤดูร้อน ที่เริ่มเคลื่อนลงสู่พื้นที่ภาคใต้
*สน.ชนะสงครามจัดกำลังคุมเข้ม ถ.ข้าวสาร
พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐผล ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม เปิดเผยกรณีมาตรารักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบถนนข้าวสาร ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจชนะสงคราม แบ่งกำลังออกเป็น 2 ผลัด เริ่มตรวจตราพื้นที่ผลัดแรกตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. และผลัดที่สองตั้งแต่ 16.00 น. ไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ ยอดกำลังทั้งหมดรวมถึงอาสาสมัครจากหน่วยงานต่างๆ มีกว่าผลัดละ 500 คน โดยคาดว่านักท่องเที่ยวจะเข้ามาจนเต็มพื้นที่ จะใช้มาตราการเดียวกันกับช่วงเช้า เน้นการตรวจตราพื้นที่ถนนข้าวสารและถนนรามบุตรี โดยจะมีจุดตรวจค้นอาวุธ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และแป้ง รวมถึงสิ่งอื่นๆ ที่อาจจะนำมาใช้เป็นอาวุธได้ ส่วนรอบๆ บริเวณได้ตั้งจุดป้องกันและเฝ้าระวังเหตุอีก 8 จุด ทั้งนี้ ในด้านการข่าวยังไม่มีการรายงานการเฝ้าระวังใดๆ เข้ามาเป็นพิเศษ แต่ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่จะไม่ประมาท
ทั้งนี้ ถ.ข้าวสาร จะเปิดให้เล่นน้ำสงกรานต์ไปจนถึงเวลาประมาณ 22.00 น. หลังจากนั้นจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนเคลียร์พื้นที่ ให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางกลับบ้าน ในถนนราชดำเนิน
*ตร.บุรีรัมย์จับ 3 สาวเต้นโชว์หวิวสงกรานต์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนก่อนเช้าวันที่ 14 เม.ย. พ.ต.อ.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.ท.สาธิต สถิตถาวร สารวัตรจราจร สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร เข้าทำการจับกุมหญิงสาว 3 คน ประกอบไปด้วย น.ส.ติยาภร เพื่อไทย อายุ 23 ปี , น.ส.จันทิมา แก้วดี อายุ 20 ปี และ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ จ.อุบลราชธานี และ จ.สุรินทร์ ที่บริเวณถนนเสด็จนิวัฒน์ หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 1 ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ทั้ง 3 สาว ได้แต่งกายหล่อแหลมไม่สุภาพ ทั้งมีพฤติกรรมเต้นท่าทางยั่วยวนวาบหวิว ซึ่งเป็นการกระทำผิดตามกฎหมาย และไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ที่สำคัญไม่ให้ความเคารพสถานที่หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ประชาชนชาวบุรีรัมย์สักการะบูชา ซึ่งทั้ง 3 คน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตักเตือนและจับเปรียบเทียบปรับไปแล้ว แต่กลับไม่สำนึกยังทำผิดซ้ำอีก จึงได้จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเบื้องต้นได้ถูกแจ้งข้อหา “กระทำการอันควรขายหน้าต่อธารกำนัล”
เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ทำการตรวจยึดรถยนต์ 4 คัน ที่มีการดัดแปลงสภาพ และจับกุมเจ้าของรถทั้ง 4 ราย ประกอบด้วย นายบุญรักษ์ มะลิซ้อน อายุ 31 ปี , นายเอกสิทธิ์ มะลิซ้อน อายุ 37 ปี , นายยุทธพงษ์ กรยุทธพิพัฒน์ อายุ 38 ปี และนายอิทธิฤทธิ์ ศักดิ์ศรีกลม อายุ 20 ปี เนื่องจากมีการดัดแปลงสภาพรถใส่เครื่องเสียงเสียงดังเกินกว่ากฎหมายกำหนด สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่บุคคลอื่น ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุม ได้มีวัยรุ่นชาย 2 คน คือ นายภัคพล แสงวรรณ์ อายุ 23 ปี และนายอัมรินทร์ สุขแดง อายุ 29 ปี ใช้วาจาดูหมิ่น และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีด้วย
ต่อมา พล.ต.ต.สุวรรณ เอกโพธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.อ.ประยุทธ์ โพธิ์แก้วกุล รองผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ได้เดินทางมาตรวจดูรถยนต์ ที่มีการดัดแปลงสภาพด้วยการใส่เครื่องเสียงเสียงดังเกินกว่ากฎหมายกกำหนดที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึด พร้อมทั้งได้ฝากให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดจับกุมกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมดังกล่าวด้วย รวมทั้งขอให้ประชาชนเล่นน้ำสงกรานต์ตามประเพณีไทยๆ อีกด้วย
*สงกรานต์นครพนมเงียบเหงา "ถนนข้าวปุ้น" ริมโขงลมแรง
ที่ จ.นครพนม บรรยากาศสงกรานต์ถนนข้าวปุ้นยังคงพบว่าเงียบเหงา มีประชาชน นักท่องเที่ยว ออกมาเล่นน้ำสงกรานต์ น้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยงานเริ่มตั้งแต่ช่วงเย็นเมื่อวานที่ผ่านมา มีนายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยข้าราชการ เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ประชาชน นักท่องเที่ยว ทำเปิดประเพณีสงกรานต์นครพนม รื่นรมย์บุญปีใหม่ไทย-ลาว และถนนข้าวปุ้น ประจำปี 2558 ขึ้น ตลอดแนวถนนสุนทรวิจิตรริมฝั่งแม่น้ำโขง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้เที่ยวเล่นน้ำสงกรานต์
สำหรับในปีนี้สภาพอากาศแปรรวน ภาคเช้ามีสภาพอากาศหนาวเย็น แต่ในช่วงสายกลับมีลมแรง และเริ่มหนาวเย็นทำให้ประชาชน นักท่องเที่ยว เล่นน้ำน้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา บวกกับทางรัฐบาลได้มีการออกระเบียบ ไม่ให้มีการนำถังน้ำบรรทุกขึ้นรถ เล่นน้ำสงกรานต์ ทำให้ตามถนนสายต่างๆ ที่มีการเล่นน้ำทุกปี ไม่คึกคัก
รวมถึงบริเวณถนนข้าวปุ้น เรียบริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่มีการย้ายจุดเล่นน้ำไป บริเวณหน้าตลาดอินโดจีน และห้ามไม่ให้มีรถผ่าน ทำให้บริเวณเล่นน้ำสงกรานต์ ถนนข้าวปุ้น ที่เคยจัดทุกปี เงียบเหงา มีคนเล่นน้ำน้อย ไม่คึกคักเหมือนทุกปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจ ค้าขายซบเซาด้วย
*ย่านการค้าเมืองหาดใหญ่คึกคัก
บรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วkนนี้ (14 เม.ย.) กลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังสิ้นสุดงานหาดใหญ่มิดไนท์สงกรานต์ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่เทศบาลนครหาดใหญ่ได้เปิดพื้นที่บริเวณการจัดงานทั้งถนนเสน่หานุสรณ์ ถนนธรรมนูญวิถี และถนนนิพัทธ์อุทิศ 3 ให้รถสัญจรได้ตามปกติ ขณะที่บรรยากาศการท่องเที่ยวในภาพรวมตามย่านการค้าต่างๆ ใน อ.หาดใหญ่ ยังคงคึกคัก เช่น ที่ตลาดกิมหยง ห้างสรรพสินค้าต่างๆ แม้ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย บางส่วนจะทยอยเดินทางกลับกันตั้งแต่ช่วงเช้า แต่ยังมีอีกจำนวนมากที่อยู่เที่ยวต่อ และออกไปช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้าของใช้ ของกิน ของฝาก รวมไปถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวทั้ง โรงแรม ห้างร้าน และร้านอาหาร รวมทั้งรถตุ๊กตุ๊ก ยังมีนักท่องเที่ยวใช้บริการอย่างเนืองแน่น
ขณะที่ยังนักท่องเที่ยวอีกส่วนหนึ่งเดินทางไปทำบุญตามวัดต่างๆ ใน อ.หาดใหญ่ และออกไปท่องเที่ยวต่อตามจังหวัดท่องเที่ยวในฝั่งอันดามันอีกด้วย
*ททท.พังงาคาดเงินสะพัดกว่า 120 ล้าน
แหล่งท่องเที่ยวแทบทุกแห่งในจังหวัดพังงา โดยเฉพาะชายทะเลหาดบางสัก หาดเขาหลัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเฉพาะคนไทยต่างพาครอบครัวเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนอย่างต่อเนื่องในวันครอบครัวช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยหลายครอบครัวยังอาศัยช่วงเวลาที่ดีนี้ออกไปทานอาหารนอกบ้านร่วมกัน เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีภายในครอบครัว ส่งผลให้ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร และแผงลอยต่างมีรายได้เพิ่มขึ้นจากยอดขายให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติขณะที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็ยังคงพักผ่อนอยู่ในพื้นที่จังหวัดพังงาอยู่ ทำให้โรงแรม และ รีสอร์ทจำนวนไม่น้อย ยังมีนักท่องเที่ยวอยู่เป็นจำนวนมาก
นางสาวลัดดาวัลย์ ช่วยชาติ หัวศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยงจังหวัดพังงา กล่าวว่า เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ยังคงคึกคักเหมือนเช่นทุกปี มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาพักผ่อนที่จังหวัดพังงาเป็นจำนวนมาก โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยจะนิยมมาเป็นหมู่คณะ เป็นครอบครัว ในขณะที่ชายหาดบางสักในช่วงวันครอบครัวช่วงเทศกาลสงกรานต์จะคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวไทยต่างพาครอบครัวมาเล่นน้ำทะเล ทานอาหารบริเวณชายหาดกันอย่างเนืองแน่น โดยในปีนี้คาดว่าจะมีเงินสะพัดในช่วงวันสงกรานต์กว่า 120 ล้านบาท
*หาดหัวหินคลื่นแรงห้ามลงเล่นน้ำ
บรรยากาศที่ชายหาดหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ยังคงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางมาพักผ่อนในวันหยุดเนื่องในเทศกาลสงกรานต์กันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ที่บริเวณชายหาดมีการขึ้นธงสีแดง เพื่อประกาศเตือนไม่ให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำอย่างเด็ดขาด เนื่องจากสภาพคลื่นลมแรงกว่าปกติ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวหัวหินยังได้จัดกำลังลงพื้นที่ชายหาดหัวหินตลอดแนว เพื่อขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการชายหาด ม้าเช่าชายหาด เจ็ตสกี ห่วงยาง ร้านค้า และโรงแรม ในการช่วยกันเฝ้าระวัง แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้ลงเล่นน้ำทะเล โดยเฉพาะครอบครัวมีที่เด็กเล็ก ขอให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่ให้ออกไปเล่นน้ำนอกสายตา รวมทั้งขอให้ผู้ประกอบการช่วยกันสอดส่องดูแลนักท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง
พร้อมกันนี้ ได้ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวเล่นน้ำอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงน้ำขึ้น-น้ำลง ซึ่งจะแรงดูดของคลื่นซัดออกจากชายฝั่ง จึงไม่ควรลงไปเล่นน้ำลึกมากนัก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย หลังจากเมื่อวันที่ 13 เม.ย.) มีนักท่องเที่ยวจมน้ำทะเลเสียชีวิต 3 ราย
ขณะที่นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้สั่งปรับแผนดูแลนักท่องเที่ยวทางน้ำ โดยได้สั่งการให้มีการเพิ่มเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำตลอดแนวชายหาด ตั้งแต่หัวหิน ถึงอำเภอบางสะพานน้อย พร้อมจัดชุดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนบริเวณชายหาดและในทะเล รวมทั้งประสานให้เรือเจ็ตสกี บานานาโบ๊ต ให้มาร่วมดูแลนักท่องเที่ยว
*อุตุฯ เตือนภาคใต้รับมือฝนฟ้าคะนอง
กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ลมตะวันออกกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากลักษณะอากาศดังกล่าว รวมถึงอยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย
*บขส.เพิ่มเที่ยวรถรับคนกลับกรุง
นายนพรัตน์ การุณยะวนิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารการเดินรถ รักษาการแทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวถึงแผนรองรับการเดินทางกลับของประชาชนจากเทศกาลสงกรานต์ ว่า ตั้งแต่วันที่ 14-19 เมษายนนี้ ได้จัดเสริมเที่ยวรถทุกเส้นทางเช่นขามา คือ จากเดิม 6,000 เที่ยว ให้เพิ่มอีก 1,000 เที่ยว ยกเว้นวันที่ 15 เมษายน จะเพิ่มอีก 1,500 เที่ยว เนื่องจากคาดว่าจะเป็นวันที่มีประชาชนเดินทางมากที่สุด โดยคาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 150,000 คน ส่วนความปลอดภัยเรื่องคนขับรถ ต้องแวะจุดตรวจตามที่กระทรวงคมนาคมกำหนดในแต่ละเส้นทาง ทั้งนี้ มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องรถโดยสารไม่เพียงพอ
รักษาการแทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. กล่าวด้วยว่า ภาพรวมปีนี้มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็น กว่า 700,000 คน จากปีที่แล้วที่มีกว่า 610,000 คน แต่ไม่มีการตกค้าง นอกจากนี้ ได้ขอความร่วมมือองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ให้นำรถมารอรับที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร เพื่อระบายผู้โดยสารได้ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว ขณะที่รถแท็กซี่ได้ตรวจสอบประวัติ และทุกคันต้องให้บริการประชาชนทั้งหมดโดยไม่เลือกว่าระยะสั้น หรือระยะยาว.