ASTVผู้จัดการรายวัน - รมว.คมนาคม แจง ผลเจรจาลงนาม MOU JCAB ราบรื่นบินเข้าญี่ปุ่น เม.ย.- พ.ค. ไร้ปัญหา มีแค่ 2 เที่ยวบินที่ติดขัดทางเทคนิคของสายการบินเอง
วานนี้ (12 เม.ย.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากผลการเจรจาและลงนามใน MOU ระหว่างกรมการบินพลเรือนของไทย และ Japan Civil Aviation Bureau (JCAB) ของญี่ปุ่น ทำให้การบินรับส่งผู้โดยสารระหว่างสองประเทศ เป็นไปด้วยความราบรื่น ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะครอบคลุมตลอดเดือนเมษายนจนถึงพฤษภาคม อย่างไรก็ตาม จากการติดตามผลการปฏิบัติการบินระหว่างประเทศทั้งสอง ตั้งแต่ช่วงที่ MOU มีผลบังคับใช้ พบว่า มีเหตุขัดข้องเพียง 2 กรณี ซึ่งเป็นผลเชิงเทคนิคของสายการบินเอง
“มีการยกเลิกเที่ยวบินไปญี่ปุ่น 2 เที่ยวบิน คือ เที่ยวบินของเอเชี่ยนแอร์ เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2558 เวลา 01.30 น. และของนกสกูต เมื่อคืนวันที่ 11 เมษายน 2558 เวลา 23.15 น. ซึ่งเกิดจากปัญหาทางเทคนิคของสายการบินเอง”
ทั้งนี้ ปัญหาของแต่ละกรณีคือ 1) สายการบินเอเชี่ยนแอร์ เกิดจากการตรวจทบทวนใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ ของกรมการบินพลเรือน พบว่า มีปัญหาในระบบการปฏิบัติการบิน ระบบควบคุมเวลาบินและเวลาพักผ่อนของนักบิน และการบำรุงรักษา ซึ่งกรมการบินพลเรือนได้ให้บริษัทแก้ไขข้อบกพร่อง และบริษัทได้ดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อวันศุกร์ เวลาประมาณ 17.00 น. ซึ่งกรมการบินพลเรือนได้ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ให้ทาง JCAB ทันที แต่พ้นเวลาทำการของ JCAB แล้ว จึงไม่มีเจ้าหน้าที่พิจารณา ต้องรอวันเปิดทำการถัดไปในวันจันทร์ที่ 13 เมษายน
เหตุการณ์ที่สอง สายการบินนกสกูต เกิดจากการที่นกสกูต ยื่นคำขอให้สกูต ของสิงคโปร์มาบินรับขนแทน ซึ่งได้รับอนุญาตแล้วแต่ทางสกูตไม่สามารถหาเครื่องบินและลูกเรือมาบินได้ทัน จึงจำเป็นต้องยกเลิกเที่ยวบิน
“ดังนั้น ปัญหาการยกเลิกเที่ยวบินทั้งสองไม่ได้เกิดจาก JCAB แต่อย่างได้ เป็นปัญหาเชิงเทคนิคเฉพาะกรณี ส่วนเที่ยวบินอื่นยังทำการบินตามปกติ”
วานนี้ (12 เม.ย.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากผลการเจรจาและลงนามใน MOU ระหว่างกรมการบินพลเรือนของไทย และ Japan Civil Aviation Bureau (JCAB) ของญี่ปุ่น ทำให้การบินรับส่งผู้โดยสารระหว่างสองประเทศ เป็นไปด้วยความราบรื่น ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะครอบคลุมตลอดเดือนเมษายนจนถึงพฤษภาคม อย่างไรก็ตาม จากการติดตามผลการปฏิบัติการบินระหว่างประเทศทั้งสอง ตั้งแต่ช่วงที่ MOU มีผลบังคับใช้ พบว่า มีเหตุขัดข้องเพียง 2 กรณี ซึ่งเป็นผลเชิงเทคนิคของสายการบินเอง
“มีการยกเลิกเที่ยวบินไปญี่ปุ่น 2 เที่ยวบิน คือ เที่ยวบินของเอเชี่ยนแอร์ เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2558 เวลา 01.30 น. และของนกสกูต เมื่อคืนวันที่ 11 เมษายน 2558 เวลา 23.15 น. ซึ่งเกิดจากปัญหาทางเทคนิคของสายการบินเอง”
ทั้งนี้ ปัญหาของแต่ละกรณีคือ 1) สายการบินเอเชี่ยนแอร์ เกิดจากการตรวจทบทวนใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ ของกรมการบินพลเรือน พบว่า มีปัญหาในระบบการปฏิบัติการบิน ระบบควบคุมเวลาบินและเวลาพักผ่อนของนักบิน และการบำรุงรักษา ซึ่งกรมการบินพลเรือนได้ให้บริษัทแก้ไขข้อบกพร่อง และบริษัทได้ดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อวันศุกร์ เวลาประมาณ 17.00 น. ซึ่งกรมการบินพลเรือนได้ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ให้ทาง JCAB ทันที แต่พ้นเวลาทำการของ JCAB แล้ว จึงไม่มีเจ้าหน้าที่พิจารณา ต้องรอวันเปิดทำการถัดไปในวันจันทร์ที่ 13 เมษายน
เหตุการณ์ที่สอง สายการบินนกสกูต เกิดจากการที่นกสกูต ยื่นคำขอให้สกูต ของสิงคโปร์มาบินรับขนแทน ซึ่งได้รับอนุญาตแล้วแต่ทางสกูตไม่สามารถหาเครื่องบินและลูกเรือมาบินได้ทัน จึงจำเป็นต้องยกเลิกเที่ยวบิน
“ดังนั้น ปัญหาการยกเลิกเที่ยวบินทั้งสองไม่ได้เกิดจาก JCAB แต่อย่างได้ เป็นปัญหาเชิงเทคนิคเฉพาะกรณี ส่วนเที่ยวบินอื่นยังทำการบินตามปกติ”