ผมเห็นคนที่ต่อต้านระบอบทักษิณหลายคนมีความเห็นในเชิงสนับสนุนนายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหรแห่งสำนักสุขิโต ที่อ้างนิมิตสื่อสารกับฤาษีเกวลัน แห่งเขาหิมาลัย (ใครยืนยันได้บ้างว่ามีตัวตนจริง) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นนายกรัฐมนตรีอีก 2-3 ปี ยังดีที่พล.อ.ประยุทธ์จะออกมาปฏิเสธและยืนยันจะอยู่ตามโรดแม็ปที่วางไว้เท่านั้น
เราคงไม่ปฏิเสธหรอกครับว่าคนที่สนับสนุนรัฐประหารนั้นมาจากการต่อต้านรัฐบาลของระบอบทักษิณไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยของทักษิณเอง สมัคร สมชาย จนมาถึงยิ่งลักษณ์ เพราะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเหล่านั้นใช้อำนาจอย่างฉ้อฉล
แต่เราก็ไม่ควรเอาการเกลียดรัฐบาลของระบอบทักษิณที่มาจากการเลือกตั้งจนกลายเป็นการต่อต้านระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นระบอบที่ให้อำนาจของประชาชนเป็นใหญ่ เราควรจะหวงแหนอำนาจของเราแทนที่จะเอาอำนาจของเราไปมอบให้คณะใดคณะหนึ่ง
ดังในพระราชหัตถเลขาสละราชย์ของรัชกาลที่ 7 ที่ว่า “ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่สละอำนาจ
อันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิมให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใด โดยเฉพาะ เพื่อใช้อำนาจนั้นโดยสิทธิขาด และโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของประชาราษฎร”
ไม่ปฏิเสธหรอกครับว่า การเข้ามายึดอำนาจของคณะรัฐประหารเป็นทางออกเดียวของวิกฤตการเมืองในช่วง 1 ปีก่อนหน้านี้ ถ้าทหารไม่ออกมาการเมืองไทยก็มาถึงทางตันเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ประชาชนที่ออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลที่ไม่ชอบธรรมก็จะถูกกองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนรัฐบาลในขณะนั้นทำร้ายจนเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกมาก การออกมายับยั้งวิกฤตของทหารจึงเป็นเรื่องจำเป็นและเป็นสิ่งที่น่าชมเชย เป็นทางออกเดียวของบ้านเราที่ไม่จำเป็นต้องฟังเสียงนกเสียงกาจากต่างประเทศ
แต่ความจำเป็นในการเข้ามาจัดการกับปัญหาในประเทศของคณะรัฐประหารควรมีห้วงเวลาที่จำกัดพอเหมาะพอควรกับการแก้ปัญหาประเทศให้ลุล่วงแล้วรีบคืนอำนาจนั้นมาสู่ประชาชน ดังนั้น การประกาศว่าจะอยู่ในอำนาจตามโรดแม็ปที่วางไว้เท่านั้นจึงเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
อย่างน้อยเราก็เห็นความพยายามที่จะจัดการกับเครือข่ายคนเสื้อแดงที่ใช้อาวุธสงคราม เครือข่ายที่สนับสนุนการเงินคนเสื้อแดงดีกว่ายุคสมัยการรัฐประหารของบิ๊กบังและรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ที่ไม่ได้เข้ามาแก้ปัญหาอะไรเลย แต่ไม่ได้หมายความว่าอำนาจเบ็ดเสร็จแบบนี้ควรจะคงอยู่ตลอดไป เพราะอำนาจเผด็จการนั้นถ้าอยู่ในมือของใครนานจนเกินไปก็เป็นอันตรายต่อประชาชน
แม้ว่าเราจะเกลียดรัฐบาลของทักษิณและระบอบทักษิณเพียงใดก็ตาม แต่สิ่งที่เราจะต้องมีก็คือ การเชื่อมั่นในอำนาจของประชาชน นั่นคือระบอบประชาธิปไตย อย่าให้คนเสื้อแดงที่หวังเพียงให้ทักษิณและพรรคของทักษิณมีอำนาจเท่านั้นที่อ้างตัวว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย แล้วพวกเขาก็ยอมสยบแม้ว่าทักษิณและพวกจะใช้อำนาจอย่างฉ้อฉล
พวกเสื้อแดงนั้นเป็นพวกบูชาการเลือกตั้งไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย เพราะระบอบประชาธิปไตยประชาชนจะต้องตรวจสอบรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งให้ใช้อำนาจอย่างเป็นธรรมด้วย
บางคนกลัวว่า ถ้ามีการเลือกตั้งพรรคของทักษิณก็จะชนะการเลือกตั้งอีก การรัฐประหารครั้งนี้ก็จะสูญเปล่า ผมคิดว่าเราก็ต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชนส่วนใหญ่ ตราบที่เราไม่สามารถให้ความรู้กับประชาชนถึงอันตรายของระบอบทักษิณได้ แต่ถ้าพรรคของทักษิณได้อำนาจแล้วใช้อำนาจอย่างฉ้อฉลเราก็ใช้สิทธิในระบอบประชาธิปไตยออกมาต่อต้านอีก
อย่างน้อยเราต้องทำให้ฝ่ายเสื้อแดงและฝ่ายที่สนับสนุนเสื้อแดงเห็นว่า เราไม่ได้ต่อต้านระบอบประชาธิปไตย แต่เราต่อต้านรัฐบาลที่ฉ้อฉล แม้ว่ารัฐบาลจะมาจากการเลือกตั้งซึ่งเป็นเสียงข้างมาก แต่ถ้ารัฐบาลนั้นทำไม่ถูกต้องประชาชนก็มีสิทธิจะออกมาขับไล่ และนี่ต่างหากคือความหมายของระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง
คนเสื้อแดงส่วนหนึ่งซึ่งเป็นคนระดับรากหญ้าส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนทักษิณ เพราะเขาเชื่อว่า ทักษิณหยิบยื่นประชาธิปไตยที่กินได้ให้กับเขาแลกกับการลงคะแนนเสียง เช่น เงินกองทุนหมู่บ้าน 30 บาทรักษาทุกโรค แต่เขาไม่ได้รับรู้ถึงผลประโยชน์ทับซ้อนเชิงนโยบายที่ระบอบทักษิณกอบโกยไปจากการใช้อำนาจ ขณะที่บางคนรู้ว่า รัฐบาลของระบอบทักษิณฉ้อฉลแต่กลับมีทัศนคติผิดๆ ที่ว่า แม้รัฐบาลจะโกงแต่ก็ยังหยิบยื่นผลประโยชน์ให้พวกเขา
ถ้าจะว่าไปแล้วคนเสื้อแดงแค่ต้องการรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่คนเสื้อเหลืองต้องการรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งที่โปร่งใสด้วย
เราต้องยอมรับความจริงว่า สิ่งที่ทำให้ประชาชนระดับรากหญ้าหลงเคลิ้มกับระบอบทักษิณนั้น เพราะในอดีตประชาชนระดับรากหญ้าไม่ค่อยได้รับความสนใจจากรัฐ ขาดถึงสิทธิพื้นฐานที่คนในสังคมควรจะได้รับจากรัฐจนเกิดความไม่เท่าเทียมกัน เมื่อทักษิณยื่นมือไปพวกเขาจึงพร้อมที่จะจับมือของทักษิณโดยไม่สนใจว่ามืออีกข้างหนึ่งของทักษิณกำลังปล้นชิงเอาผลประโยชน์ของชาติซึ่งเป็นของประชาชนทุกคนไปเป็นของตัวเองและพวกพ้อง ทางออกตรงนี้ก็คือ ต้องทำให้ประชาชนรากหญ้าเข้าใจถึงอันตรายของระบอบทักษิณ
ดังนั้น สิ่งที่เราอยากจะเห็นจากการปฏิรูปก็คือ การทำให้เกิดความเท่าเทียมเป็นธรรมของประชาชนในทุกระดับในทุกด้าน มีเป้าหมายขจัดความเหลื่อมล้ำที่ชัดเจน ให้เขามีความสามารถในการทำมาหาเลี้ยงชีพและมีคุณภาพชีวิตที่ดี
พวกเขาจะได้ไม่ถูกหลอกให้ออกมาชุมนุม จนยอมเอาชีวิตมาแลกเพราะหลงผิดว่ากำลังต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ทั้งที่แกนนำที่นำพาพวกเขาออกมานั้นมีผลประโยชน์ที่ได้จากทักษิณ ทักษิณถูกศาลจำคุกเพราะคอร์รัปชันแต่หลอกประชาชนว่าทักษิณถูกแกล้งเพราะอำมาตย์อิจฉาที่ทักษิณช่วยให้คนรากหญ้าอยู่ดีกินดีขึ้น จนประชาชนถูกผลักให้เป็นเป้ากันกระสุน แต่แกนนำที่ปลุกปั่นสู้แล้วรวยกันทุกคน
ที่น่ากลัวกว่านั้นและเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ คนเสื้อแดงส่วนหนึ่งถูกปลุกปั่นให้เกลียดชังระบอบกษัตริย์จากพวกที่อ้างตัวเองเป็นลิเบอรัล โซเชียลลิสต์ เหมือนที่เราพูดกันว่า แม้คนเสื้อแดงทั้งหมดไม่ได้เป็นพวกล้มเจ้า แต่พวกล้มเจ้าทั้งหมดเป็นคนเสื้อแดง พวกนี้มีความคิดที่จะเปลี่ยนการปกครองประเทศเป็นระบอบสาธารณรัฐ โดยใช้มวลชนที่สนับสนุนทักษิณเป็นฐาน
การออกมาชุมนุมของประชาชนเพื่อขับไล่รัฐบาลที่ไม่ชอบธรรมนั้นเป็นสิ่งที่สวยงามในระบอบประชาธิปไตย แต่เราอย่าเข้าใจไปว่า รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรม ดังนั้น จึงต้องต่อต้านการเลือกตั้ง แล้วเอาอำนาจของประชาชนที่รัชกาลที่ 7 ทรงมอบให้ไปมอบให้กับคณะใดคณะหนึ่ง
พล.อ.ประยุทธ์และคณะก็คงจะตระหนักว่า อำนาจที่ใช้อยู่นี้ไม่ใช่อำนาจของพวกเขา แต่เป็นการทำหน้าที่แทนประชาชนเพื่อผลประโยชน์และความสงบเรียบร้อยของประเทศ และอำนาจนั้นเป็นสิ่งชั่วคราวไม่ยั่งยืน
เราคงไม่ปฏิเสธหรอกครับว่าคนที่สนับสนุนรัฐประหารนั้นมาจากการต่อต้านรัฐบาลของระบอบทักษิณไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยของทักษิณเอง สมัคร สมชาย จนมาถึงยิ่งลักษณ์ เพราะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเหล่านั้นใช้อำนาจอย่างฉ้อฉล
แต่เราก็ไม่ควรเอาการเกลียดรัฐบาลของระบอบทักษิณที่มาจากการเลือกตั้งจนกลายเป็นการต่อต้านระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นระบอบที่ให้อำนาจของประชาชนเป็นใหญ่ เราควรจะหวงแหนอำนาจของเราแทนที่จะเอาอำนาจของเราไปมอบให้คณะใดคณะหนึ่ง
ดังในพระราชหัตถเลขาสละราชย์ของรัชกาลที่ 7 ที่ว่า “ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่สละอำนาจ
อันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิมให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใด โดยเฉพาะ เพื่อใช้อำนาจนั้นโดยสิทธิขาด และโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของประชาราษฎร”
ไม่ปฏิเสธหรอกครับว่า การเข้ามายึดอำนาจของคณะรัฐประหารเป็นทางออกเดียวของวิกฤตการเมืองในช่วง 1 ปีก่อนหน้านี้ ถ้าทหารไม่ออกมาการเมืองไทยก็มาถึงทางตันเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ประชาชนที่ออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลที่ไม่ชอบธรรมก็จะถูกกองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนรัฐบาลในขณะนั้นทำร้ายจนเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกมาก การออกมายับยั้งวิกฤตของทหารจึงเป็นเรื่องจำเป็นและเป็นสิ่งที่น่าชมเชย เป็นทางออกเดียวของบ้านเราที่ไม่จำเป็นต้องฟังเสียงนกเสียงกาจากต่างประเทศ
แต่ความจำเป็นในการเข้ามาจัดการกับปัญหาในประเทศของคณะรัฐประหารควรมีห้วงเวลาที่จำกัดพอเหมาะพอควรกับการแก้ปัญหาประเทศให้ลุล่วงแล้วรีบคืนอำนาจนั้นมาสู่ประชาชน ดังนั้น การประกาศว่าจะอยู่ในอำนาจตามโรดแม็ปที่วางไว้เท่านั้นจึงเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
อย่างน้อยเราก็เห็นความพยายามที่จะจัดการกับเครือข่ายคนเสื้อแดงที่ใช้อาวุธสงคราม เครือข่ายที่สนับสนุนการเงินคนเสื้อแดงดีกว่ายุคสมัยการรัฐประหารของบิ๊กบังและรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ที่ไม่ได้เข้ามาแก้ปัญหาอะไรเลย แต่ไม่ได้หมายความว่าอำนาจเบ็ดเสร็จแบบนี้ควรจะคงอยู่ตลอดไป เพราะอำนาจเผด็จการนั้นถ้าอยู่ในมือของใครนานจนเกินไปก็เป็นอันตรายต่อประชาชน
แม้ว่าเราจะเกลียดรัฐบาลของทักษิณและระบอบทักษิณเพียงใดก็ตาม แต่สิ่งที่เราจะต้องมีก็คือ การเชื่อมั่นในอำนาจของประชาชน นั่นคือระบอบประชาธิปไตย อย่าให้คนเสื้อแดงที่หวังเพียงให้ทักษิณและพรรคของทักษิณมีอำนาจเท่านั้นที่อ้างตัวว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย แล้วพวกเขาก็ยอมสยบแม้ว่าทักษิณและพวกจะใช้อำนาจอย่างฉ้อฉล
พวกเสื้อแดงนั้นเป็นพวกบูชาการเลือกตั้งไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย เพราะระบอบประชาธิปไตยประชาชนจะต้องตรวจสอบรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งให้ใช้อำนาจอย่างเป็นธรรมด้วย
บางคนกลัวว่า ถ้ามีการเลือกตั้งพรรคของทักษิณก็จะชนะการเลือกตั้งอีก การรัฐประหารครั้งนี้ก็จะสูญเปล่า ผมคิดว่าเราก็ต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชนส่วนใหญ่ ตราบที่เราไม่สามารถให้ความรู้กับประชาชนถึงอันตรายของระบอบทักษิณได้ แต่ถ้าพรรคของทักษิณได้อำนาจแล้วใช้อำนาจอย่างฉ้อฉลเราก็ใช้สิทธิในระบอบประชาธิปไตยออกมาต่อต้านอีก
อย่างน้อยเราต้องทำให้ฝ่ายเสื้อแดงและฝ่ายที่สนับสนุนเสื้อแดงเห็นว่า เราไม่ได้ต่อต้านระบอบประชาธิปไตย แต่เราต่อต้านรัฐบาลที่ฉ้อฉล แม้ว่ารัฐบาลจะมาจากการเลือกตั้งซึ่งเป็นเสียงข้างมาก แต่ถ้ารัฐบาลนั้นทำไม่ถูกต้องประชาชนก็มีสิทธิจะออกมาขับไล่ และนี่ต่างหากคือความหมายของระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง
คนเสื้อแดงส่วนหนึ่งซึ่งเป็นคนระดับรากหญ้าส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนทักษิณ เพราะเขาเชื่อว่า ทักษิณหยิบยื่นประชาธิปไตยที่กินได้ให้กับเขาแลกกับการลงคะแนนเสียง เช่น เงินกองทุนหมู่บ้าน 30 บาทรักษาทุกโรค แต่เขาไม่ได้รับรู้ถึงผลประโยชน์ทับซ้อนเชิงนโยบายที่ระบอบทักษิณกอบโกยไปจากการใช้อำนาจ ขณะที่บางคนรู้ว่า รัฐบาลของระบอบทักษิณฉ้อฉลแต่กลับมีทัศนคติผิดๆ ที่ว่า แม้รัฐบาลจะโกงแต่ก็ยังหยิบยื่นผลประโยชน์ให้พวกเขา
ถ้าจะว่าไปแล้วคนเสื้อแดงแค่ต้องการรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่คนเสื้อเหลืองต้องการรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งที่โปร่งใสด้วย
เราต้องยอมรับความจริงว่า สิ่งที่ทำให้ประชาชนระดับรากหญ้าหลงเคลิ้มกับระบอบทักษิณนั้น เพราะในอดีตประชาชนระดับรากหญ้าไม่ค่อยได้รับความสนใจจากรัฐ ขาดถึงสิทธิพื้นฐานที่คนในสังคมควรจะได้รับจากรัฐจนเกิดความไม่เท่าเทียมกัน เมื่อทักษิณยื่นมือไปพวกเขาจึงพร้อมที่จะจับมือของทักษิณโดยไม่สนใจว่ามืออีกข้างหนึ่งของทักษิณกำลังปล้นชิงเอาผลประโยชน์ของชาติซึ่งเป็นของประชาชนทุกคนไปเป็นของตัวเองและพวกพ้อง ทางออกตรงนี้ก็คือ ต้องทำให้ประชาชนรากหญ้าเข้าใจถึงอันตรายของระบอบทักษิณ
ดังนั้น สิ่งที่เราอยากจะเห็นจากการปฏิรูปก็คือ การทำให้เกิดความเท่าเทียมเป็นธรรมของประชาชนในทุกระดับในทุกด้าน มีเป้าหมายขจัดความเหลื่อมล้ำที่ชัดเจน ให้เขามีความสามารถในการทำมาหาเลี้ยงชีพและมีคุณภาพชีวิตที่ดี
พวกเขาจะได้ไม่ถูกหลอกให้ออกมาชุมนุม จนยอมเอาชีวิตมาแลกเพราะหลงผิดว่ากำลังต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ทั้งที่แกนนำที่นำพาพวกเขาออกมานั้นมีผลประโยชน์ที่ได้จากทักษิณ ทักษิณถูกศาลจำคุกเพราะคอร์รัปชันแต่หลอกประชาชนว่าทักษิณถูกแกล้งเพราะอำมาตย์อิจฉาที่ทักษิณช่วยให้คนรากหญ้าอยู่ดีกินดีขึ้น จนประชาชนถูกผลักให้เป็นเป้ากันกระสุน แต่แกนนำที่ปลุกปั่นสู้แล้วรวยกันทุกคน
ที่น่ากลัวกว่านั้นและเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ คนเสื้อแดงส่วนหนึ่งถูกปลุกปั่นให้เกลียดชังระบอบกษัตริย์จากพวกที่อ้างตัวเองเป็นลิเบอรัล โซเชียลลิสต์ เหมือนที่เราพูดกันว่า แม้คนเสื้อแดงทั้งหมดไม่ได้เป็นพวกล้มเจ้า แต่พวกล้มเจ้าทั้งหมดเป็นคนเสื้อแดง พวกนี้มีความคิดที่จะเปลี่ยนการปกครองประเทศเป็นระบอบสาธารณรัฐ โดยใช้มวลชนที่สนับสนุนทักษิณเป็นฐาน
การออกมาชุมนุมของประชาชนเพื่อขับไล่รัฐบาลที่ไม่ชอบธรรมนั้นเป็นสิ่งที่สวยงามในระบอบประชาธิปไตย แต่เราอย่าเข้าใจไปว่า รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรม ดังนั้น จึงต้องต่อต้านการเลือกตั้ง แล้วเอาอำนาจของประชาชนที่รัชกาลที่ 7 ทรงมอบให้ไปมอบให้กับคณะใดคณะหนึ่ง
พล.อ.ประยุทธ์และคณะก็คงจะตระหนักว่า อำนาจที่ใช้อยู่นี้ไม่ใช่อำนาจของพวกเขา แต่เป็นการทำหน้าที่แทนประชาชนเพื่อผลประโยชน์และความสงบเรียบร้อยของประเทศ และอำนาจนั้นเป็นสิ่งชั่วคราวไม่ยั่งยืน
