นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึง ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า ถ้าเป็นไปได้ ตนอยากให้การร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เป็นครั้งสุดท้าย และก็ขอให้การปฏิวัติเป็นครั้งสุดท้ายด้วยเช่นกัน ถ้าทั้งสองอย่างไม่เป็นครั้งสุดท้าย เราก็จะย่ำอยู่ในวงจรอุบาทว์เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งต้องคำนึงว่า การร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นการร่างเพื่อประเทศไทยเป็นสำคัญ ไม่ใช่ร่างรัฐธรรมนูญเพื่อนักการเมือง ซึ่งนักการเมืองจะพอใจ หรือไม่ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ สิ่งที่สำคัญก็คือ เพื่อคนไทยส่วนใหญ่
นอกจากนี้ การร่างรัฐธรรมนูญ เป็นการแก้ปัญหาของบ้านของเมืองที่ล้มเหลวมาในทุกด้าน และเป็นการปฏิรูปประเทศ ไม่ใช่ให้ย่ำเท้าอยู่กับที่ และก็ไม่ใช่ร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้นักการเมืองไปเลือกตั้ง แล้วกลับมามีอำนาจเหมือนเดิมเป็นแบบเดิมเท่านั้น
" การร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ต้องไม่เกรงใจใคร หากกรรมาธิการยกร่างฯ พิจารณาครบถ้วนรอบด้านแล้วเห็นว่าสิ่งใดไหนดี สิ่งไหนควรทำ สิ่งไหนควรแก้ ก็ทำเลย อย่าลังเล อย่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนเสียหลักการ ถ้าร่างออกมาแล้วเห็นว่าแก้ปัญหาประเทศนี้ได้ ทำให้บ้านเมืองนี้เดินต่อไปได้ดี ก็เดินหน้าเต็มที่ อย่าชักเข้าชักออก กรรมาธิการยกร่างฯ ต้องเป็นผู้นำของการเปลี่ยนแปลง" นายวันชัย กล่าว
ด้านนายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า รัฐธรรมนูญที่ใช่ก่อนหน้านี้ ต่างมีการยึดโยงกับประชาชน เพราะทั้งรัฐธรรมนูญปี 40 ผู้ร่างคือ สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่ประชาชนมีส่วนร่วม ส่วนรัฐธรรมนูญปี 50 ก็มีการทำประชามติ ถามความเห็นคนทั้งประเทศ แต่รัฐธรรมนูญปี 58 กมธ.ยกร่างฯ ไม่มีการยึดโยงกับประชาชน ดังนั้นจึงต้องมีการทำประชามติให้ประชาชนมีส่วนร่วม ทั้งนี้ ถ้าประชาชนไม่ยอมรับ ตามขั้นตอนต้องมีการตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และ กมธ.ยกร่างฯ ขึ้นใหม่ อาจต้องใช้เวลาอีก 1 ปี ซึ่งประเทศจะเสียหายมากกว่านี้ เพราะจะไม่เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ที่เขายึดมั่นในระบบประชาธิปไตย เนื่องจากระบบที่ประเทศเราใช้อยู่ตอนนี้ ยังไม่เป็นประชาธิปไตย เมื่อเขาไม่เชื่อมั่นก็อาจจะไม่เข้ามาติดต่อหรือลงทุนในประเทศเราได้ เหมือนกับพระสงฆ์ ถ้าคนไม่เชื่อมั่นก็จะไม่มีคนนับถือเป็นเพียงคนๆ หนึ่งเท่านั้น
"ถ้าประชามติไม่ผ่าน ผมก็เห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ควรที่จะใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว ม. 44 กำหนดให้มีการเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ ปี 50 ให้ได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่น และกำหนดให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ ที่ประชาชนมีส่วนร่วมขึ้นมาร่างกฎหมายให้เป็นที่ยอมรับ โดยกำหนดเวลาในการร่างให้ชัดเจน จะดีกว่าปล่อยให้เสียเวลาไปอีก 1 ปี " นายวรชัย กล่าว
นอกจากนี้ การร่างรัฐธรรมนูญ เป็นการแก้ปัญหาของบ้านของเมืองที่ล้มเหลวมาในทุกด้าน และเป็นการปฏิรูปประเทศ ไม่ใช่ให้ย่ำเท้าอยู่กับที่ และก็ไม่ใช่ร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้นักการเมืองไปเลือกตั้ง แล้วกลับมามีอำนาจเหมือนเดิมเป็นแบบเดิมเท่านั้น
" การร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ต้องไม่เกรงใจใคร หากกรรมาธิการยกร่างฯ พิจารณาครบถ้วนรอบด้านแล้วเห็นว่าสิ่งใดไหนดี สิ่งไหนควรทำ สิ่งไหนควรแก้ ก็ทำเลย อย่าลังเล อย่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนเสียหลักการ ถ้าร่างออกมาแล้วเห็นว่าแก้ปัญหาประเทศนี้ได้ ทำให้บ้านเมืองนี้เดินต่อไปได้ดี ก็เดินหน้าเต็มที่ อย่าชักเข้าชักออก กรรมาธิการยกร่างฯ ต้องเป็นผู้นำของการเปลี่ยนแปลง" นายวันชัย กล่าว
ด้านนายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า รัฐธรรมนูญที่ใช่ก่อนหน้านี้ ต่างมีการยึดโยงกับประชาชน เพราะทั้งรัฐธรรมนูญปี 40 ผู้ร่างคือ สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่ประชาชนมีส่วนร่วม ส่วนรัฐธรรมนูญปี 50 ก็มีการทำประชามติ ถามความเห็นคนทั้งประเทศ แต่รัฐธรรมนูญปี 58 กมธ.ยกร่างฯ ไม่มีการยึดโยงกับประชาชน ดังนั้นจึงต้องมีการทำประชามติให้ประชาชนมีส่วนร่วม ทั้งนี้ ถ้าประชาชนไม่ยอมรับ ตามขั้นตอนต้องมีการตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และ กมธ.ยกร่างฯ ขึ้นใหม่ อาจต้องใช้เวลาอีก 1 ปี ซึ่งประเทศจะเสียหายมากกว่านี้ เพราะจะไม่เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ที่เขายึดมั่นในระบบประชาธิปไตย เนื่องจากระบบที่ประเทศเราใช้อยู่ตอนนี้ ยังไม่เป็นประชาธิปไตย เมื่อเขาไม่เชื่อมั่นก็อาจจะไม่เข้ามาติดต่อหรือลงทุนในประเทศเราได้ เหมือนกับพระสงฆ์ ถ้าคนไม่เชื่อมั่นก็จะไม่มีคนนับถือเป็นเพียงคนๆ หนึ่งเท่านั้น
"ถ้าประชามติไม่ผ่าน ผมก็เห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ควรที่จะใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว ม. 44 กำหนดให้มีการเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ ปี 50 ให้ได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่น และกำหนดให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ ที่ประชาชนมีส่วนร่วมขึ้นมาร่างกฎหมายให้เป็นที่ยอมรับ โดยกำหนดเวลาในการร่างให้ชัดเจน จะดีกว่าปล่อยให้เสียเวลาไปอีก 1 ปี " นายวรชัย กล่าว