ASTVผู้จัดการรายวัน -" ไออาร์พีซี"ลั่นปิดประตูขาดทุน แม้อนาคตราคาน้ำมันจะพุ่งแตะ 100 เหรียญ/บาร์เรลส่งผลให้ต้นทุนด้านพลังงานสูงขึ้นก็ตาม เนื่องจากรับรู้รายได้จากโครงการต่างๆภายใต้ฟินิกซ์ และโครงการเดลต้า ยันปีนี้บริษัทฯพลิกกลับมีกำไร เหตุค่าการกลั่นสูงและบันทึกกำไรพิเศษจากบริษัทลูกที่คืนหนี้กว่า 2 พันล้านบาท
นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) เปิดเผยว่า บริษัทฯมั่นใจว่าจะไม่กลับมาขาดทุนอีก แม้ว่าราคาน้ำมันดิบดีดกลับมาอยู่ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แม้ว่าต้นทุนด้านพลังงานจะขยับสูงขึ้น เนื่องจากบริษัทได้มีการลงทุนโครงการต่างๆภายใต้โครงการฟินิกซ์ อาทิ โครงการเพิ่มมูลค่าเพื่อผลิตภัณฑ์สะอาด (UHV ) ช่วยเพิ่มกำลังการกลั่นน้ำมันจาก 1.7-1.8
แสนบาร์เรล/วัน ขยับขึ้นเป็น 2.15 แสนบาร์เรล/วัน และโครงการขยายกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน (PP)เพิ่มขึ้นอีก 3 แสนตัน/ปี ทำให้บริษัทมีกำไรจากโครงการเหล่านี้มาชดเชย
"ผลประกอบการช่วง 3-4ปีที่ผ่านมา ไม่ค่อยดี เพราะราคาน้ำมันดิบสูง 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้บริษัทมีต้นทุนด้านพลังงานสูงตามไปด้วย ขณะที่โรงกลั่นน้ำมันเดินเครื่องไม่เต็มที่ และโครงการต่อเนื่องเพื่อผลิตปิโตรเคมี ก็มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ทำให้บริษัทฯต้องหันมาเน้นผลิตเม็ดพลาสติกที่มีมูลค่าเพิ่ม เพื่อเพิ่มมาร์จิน "
ส่วนผลการดำเนินงานในปีนี้บริษัทฯมั่นใจว่าจะมีกำไรดีขึ้นกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 2.7 แสนล้านบาท และขาดทุน 5.2 พันล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันอ่อนตัวลงทำให้ค่าการกลั่นสูงขึ้น โดยไตรมาส 1/2558 โรงกลั่นไออาร์พีซีมีค่ากลั่นสูงเกิน 10 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ดีกว่าปีก่อนที่เฉลี่ย 7.63 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ส่วนหนึ่งมาจากค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงลดลงครึ่งหนึ่งตามราคาน้ำมัน โดยปีนี้ประเมินว่าราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 50-60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จึงไม่มีความเสี่ยงขาดทุนสต็อกน้ำมันเหมือนปีที่แล้วที่ขาดทุนถึง 1 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ โครงการ UHV ที่จะแล้วเสร็จในปลายปีนี้ ทำให้ไออาร์พีซีสามารถกลั่นน้ำมันได้เพิ่มขึ้นเป็น 2.15แสนบาร์เรล/วัน และโครงการเดลต้า ซึ่งเป็นเพิ่มประสิทธิภาพทั้งการผลิต การขาย และบุคคลากร ที่คาดว่าปีนี้จะรับรู้รายได้ 4 พันล้านบาท รวมกับการบันทึกกำไรพิเศษจากการได้รับชำระหนี้คืนจากทีพีไอ อะโรเมติกส์จำนวน 2 พันกว่าล้านบาทที่จะบันทึกรับรู้ฯในไตรมาส 1/2558
ด้วย
นายสุกฤตย์ กล่าวต่อไปว่า งบลงทุน 5 ปีนี้ (ปี 2558-2562) ตั้งไว้ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท ในปีนี้จะใช้เงินลงทุนประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาทในโครงการ UHV ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ด้วยการนำน้ำมันเตามาเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ทำให้บริษัทฯมีโครงการขยายกำลังการผลิต PP อีก 3 แสนตัน/ปี เงินลงทุน 200 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดแล้วเสร็จใน 2 ปีข้างหน้าหรือในปี 2560 ทำให้บริษัทมีกำลังผลิตPP รวมทั้งสิ้น 7.75 แสนตัน/ปี
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นได้โครงการผลิตพาราไซลีน (PX)กับบมจ. ไทยออยล์และบมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล กำลังการผลิต 1.8 ล้านตัน/ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 6 เดือนข้างหน้านี้ โดยโครงการนี้ยังไม่รีบร้อน เนื่องจากสถานการณ์ราคาพาราไซลีนในตลาดยังไม่ค่อยดี
นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) เปิดเผยว่า บริษัทฯมั่นใจว่าจะไม่กลับมาขาดทุนอีก แม้ว่าราคาน้ำมันดิบดีดกลับมาอยู่ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แม้ว่าต้นทุนด้านพลังงานจะขยับสูงขึ้น เนื่องจากบริษัทได้มีการลงทุนโครงการต่างๆภายใต้โครงการฟินิกซ์ อาทิ โครงการเพิ่มมูลค่าเพื่อผลิตภัณฑ์สะอาด (UHV ) ช่วยเพิ่มกำลังการกลั่นน้ำมันจาก 1.7-1.8
แสนบาร์เรล/วัน ขยับขึ้นเป็น 2.15 แสนบาร์เรล/วัน และโครงการขยายกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน (PP)เพิ่มขึ้นอีก 3 แสนตัน/ปี ทำให้บริษัทมีกำไรจากโครงการเหล่านี้มาชดเชย
"ผลประกอบการช่วง 3-4ปีที่ผ่านมา ไม่ค่อยดี เพราะราคาน้ำมันดิบสูง 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้บริษัทมีต้นทุนด้านพลังงานสูงตามไปด้วย ขณะที่โรงกลั่นน้ำมันเดินเครื่องไม่เต็มที่ และโครงการต่อเนื่องเพื่อผลิตปิโตรเคมี ก็มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ทำให้บริษัทฯต้องหันมาเน้นผลิตเม็ดพลาสติกที่มีมูลค่าเพิ่ม เพื่อเพิ่มมาร์จิน "
ส่วนผลการดำเนินงานในปีนี้บริษัทฯมั่นใจว่าจะมีกำไรดีขึ้นกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 2.7 แสนล้านบาท และขาดทุน 5.2 พันล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันอ่อนตัวลงทำให้ค่าการกลั่นสูงขึ้น โดยไตรมาส 1/2558 โรงกลั่นไออาร์พีซีมีค่ากลั่นสูงเกิน 10 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ดีกว่าปีก่อนที่เฉลี่ย 7.63 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ส่วนหนึ่งมาจากค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงลดลงครึ่งหนึ่งตามราคาน้ำมัน โดยปีนี้ประเมินว่าราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 50-60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จึงไม่มีความเสี่ยงขาดทุนสต็อกน้ำมันเหมือนปีที่แล้วที่ขาดทุนถึง 1 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ โครงการ UHV ที่จะแล้วเสร็จในปลายปีนี้ ทำให้ไออาร์พีซีสามารถกลั่นน้ำมันได้เพิ่มขึ้นเป็น 2.15แสนบาร์เรล/วัน และโครงการเดลต้า ซึ่งเป็นเพิ่มประสิทธิภาพทั้งการผลิต การขาย และบุคคลากร ที่คาดว่าปีนี้จะรับรู้รายได้ 4 พันล้านบาท รวมกับการบันทึกกำไรพิเศษจากการได้รับชำระหนี้คืนจากทีพีไอ อะโรเมติกส์จำนวน 2 พันกว่าล้านบาทที่จะบันทึกรับรู้ฯในไตรมาส 1/2558
ด้วย
นายสุกฤตย์ กล่าวต่อไปว่า งบลงทุน 5 ปีนี้ (ปี 2558-2562) ตั้งไว้ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท ในปีนี้จะใช้เงินลงทุนประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาทในโครงการ UHV ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ด้วยการนำน้ำมันเตามาเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ทำให้บริษัทฯมีโครงการขยายกำลังการผลิต PP อีก 3 แสนตัน/ปี เงินลงทุน 200 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดแล้วเสร็จใน 2 ปีข้างหน้าหรือในปี 2560 ทำให้บริษัทมีกำลังผลิตPP รวมทั้งสิ้น 7.75 แสนตัน/ปี
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นได้โครงการผลิตพาราไซลีน (PX)กับบมจ. ไทยออยล์และบมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล กำลังการผลิต 1.8 ล้านตัน/ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 6 เดือนข้างหน้านี้ โดยโครงการนี้ยังไม่รีบร้อน เนื่องจากสถานการณ์ราคาพาราไซลีนในตลาดยังไม่ค่อยดี