งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 43 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 13 หรือ Bangkok international Book Fair 2015 ที่จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 27 มี.ค.-6 เม.ย.2558 เวลา 10.00 น. 21.00 น. ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีสำนักพิมพ์กว่า 450 แห่ง จำนวน 950 บูธ จัดแสดง จำหน่ายหนังสือภายในงาน
ทั้งนี้ สำหรับบรรยากาศภายในงานเรียกได้ว่า จำนวนผู้ที่เข้าเที่ยวชมมีไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านคน ที่คนรักการอ่านหนังสือยังมีจำนวนมากเหมือนเช่นทุกปี ซึ่งต่างมาเดินจับจ่าย เลือกซื้อ หิ้วหนังสือติดไม้ ติดมือกันตามประเภทที่ตนเองสนใจกันคึกคัก
สำหรับไฮไลท์ของงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติในปีนี้ ได้มีนิทรรศการภายใต้คอนเซปต์ "เพราะๆเป็นเด็กจึงเจ็บปวด" ที่มีนายจรัญ หอมเทียนทอง นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย สุชาติสวัสดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ และที่ปรึกษานิทรรศการ และปราบดา หยุ่น อุปนายกสมาคมและประธานจัดนิทรรศการเพราะเป็นเด็กจึงเจ็บปวด ที่ได้เรียกความสนใจให้ผู้ที่เข้าร่วมชมงานหยุดยืนอ่าน และถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน
โดยนิทรรศการเพราะเป็นเด็กจึงเจ็บปวด ได้จัดแสดงคำขวัญวันเด็กรวบรวมตั้งแต่ปี พ.ศ.2499 ถึงปี พ.ศ.2558 ที่สะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมที่ผู้ใหญ่ปลูกฝังเด็ก ในแต่ล่ะยุค แต่ล่ะสมัย รวมถึงจัดแสดงโควต (Quote) บางส่วนจากหนังสือและถ้อยคำที่สะท้อนความจริงของวัยเด็ก ซึ่งได้กลายเป็นแรงขับให้เด็กจำนวนมากได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ ด้วยหนทางแห่งปัญญาของตนเองมาแล้วหลายยุคสมัยด้วยกัน
นอกจากนั้นแล้ว นิทรรศการเพราะเป็นเด็กจึงเจ็บปวดได้มีการนำบอร์ด ให้คนที่มาร่วมงานได้เขียนแสดงความคิดเห็นถึงสังคมที่ดีคือ ผู้ใหญ่ที่ดีคือ และเด็กที่ดีคือ ซึ่งต่างก็แสดงความคิดเสียดสี เจ็บๆคันๆ เป็นสีสันภายในงาน
และนี่ก็คือส่วนหนึ่งของความคิดเห็นที่ขีดเขียนกัน
สังคมที่ดีคือสังที่มีความเท่าเทียมไม่เหลื่อมล้ำ, สังคมที่ทุกคนปลูกมะนาว, สังคมที่ไม่โกงไม่ทะเลาะกัน, สังคมที่มีสามัญสำนัก (ดี), ให้เด็กคิดอย่างเต็มที่ สังคมที่เปิดโอกาสให้คนคิดและทำสิ่งใหม่ๆ
ส่วนผู้ใหญ่ที่ดีคือนายกลุงตู่ รักค่ะ, ผู้ใหญ่ที่ไม่สั่งแบน Fast 7, ผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบต่อหน้าที่ รับฟังความคิดเห็นของเรา, ผู้ใหญ่ที่เป็นตัวอย่างที่ดี, ผู้ใหญ่ที่เป็นแบบอย่างแก่เราได้, ผู้ใหญ่ไม่คิดแทนเด็ก,ผู้ใหญ่ที่ไม่ตีกรอบความคิด
และเด็กที่ดีคือ รู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร, เด็กใฝ่รู้, เด็กที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน, เด็กที่ไม่โกงต้องมีน้ำใจต่อเพื่อน, เด็กที่รับฟังผู้ใหญ่, เด็กที่รู้จักพัฒนาตัวเอง, ไม่มีผัวก่อนวัยอันควร, รักศีลธรรม, ใจบุญเลี้ยงหมา
ฯลฯ
ปราบดา หยุ่น อุปนายกสมาคมและประธานจัดนิทรรศการเพราะเป็นเด็กจึงเจ็บปวดได้กล่าวถึงไฮไลท์นิทรรศการที่ผู้คนให้ความสนใจเขียนแสดงความเห็นคิดเห็นกัน หลังจากยืนอ่านก็เห็นเขียนกันได้สนุกดี
"อยากชวนมาดูกัน เพราะนิทรรศการที่จัดขึ้นนี้มันจะสะท้อนให้เห็นถึงความคิดของผู้ใหญ่ซึ่งแม้แต่ตัวเราเองด้วย ซึ่งถ้าเป็นผู้ใหญ่ที่มาดูงานนี้ ก็จะนึกถึงความคิดตัวเองที่มีต่อเด็ก และเด็กที่มาดูงานก็อาจจะได้แรงบันดาลใจ อยากกลับไปอ่านหนังสือ"
"นอกจากนั้นภายในงานนิทรรศการยังมีจัดแสดงโควตบางตอนจากหนังสือ ที่ผู้ใหญ่และสังคมมีต่อเด็ก อาทิ แม่สอนฉันของศรีบูรพา บางตอนจากหนังสือแลไปข้างหน้า, ผุดผ่องเพียงแก้วผลึก ของครูเทพ บางตอนจากแม่จ๋า, อย่าบีบชีวิตอันอ่อนหวาน ของส.ธรรมยศ บางตอนจากหนังสือตำราของแม่, หนังสือที่แม่รัก ของสุวรรณี สุคนธา บางตอนจากเรื่องสั้นพินัยกรรม
และยังได้มีการรวบรวมคำขวัญวันเด็กตั้งแต่ปีพ.ศ.2499-2558 เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า ผู้ใหญ่โดยรวมๆมีต่อเด็กในแต่ละปี ที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง เพราะสังคมส่วนหนึ่งปัจจุบันนี้ ส่วนหนี่งก็มาจากการหล่อหลอมของผู้ใหญ่ ก็อยากให้ลองมาชมกัน"
นายอุดม ชะชัย พนักงานบริษัทคิมเบอร์ลี่ย์ คล๊าค หนึ่งในผู้เข้าร่วมชมนิทรรศการเพราะเป็นเด็กจึงเจ็บปวดที่จัดขึ้นในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ได้กล่าวถึงความรู้สึกหลังจากที่เดินทุกปี มาปีนี้ชื่นชอบนิทรรศการที่จัดขึ้น น่าอ่าน ถือว่าเป็นแรงจูงใจชนิดหนึ่งให้สำหรับเด็กที่อยากอ่านหนังสือ และยังทำให้เรารู้ถึงค่านิยมที่สังคมปลูกฝัง เด็กแต่ละยุคสมัย
"หลังจากที่เดินชมนิทรรศการเพราะเป็นเด็กจึงเจ็บปวด ชอบตรงจุดที่จัดแสดง โควตคำจาก 'แห่งราษฏร โดยราฏร เพื่อราษฏร' เขียนโดย อับราฮัม ลินคอล์นที่พูดถึงการต่อสู้เพื่อสิทธิ เสรีภาพ แม้ตายจากไปแต่ชื่อจะเป็นที่สรรเสริญ
การได้มาเดินชมนิทรรศการนี้ยังทำใหัเราย้อนกลับไปสมัยเด็กๆว่าผ่านอะไรมาบ้าง ล่วงเลยแต่ล่ะยุค แต่ละสมัย อย่างจุดที่เป็นคำขวัญที่ผู้นำประเทศแต่งขึ้นให้เด็ก ทำให้เรารู้ถึงค่านิยมว่าผู้ใหญ่มองเด็กยังไง ก็ดีนะได้ย้อนกลับไปดู ว่าเขาปลูกฝังเราแบบนี้"
ความเจ็บปวดในวัยเด็กของผมก็เคยเกิดขึ้นที่สังคมแบ่งชนชั้นระหว่างคนรวยกับคนจนนั่นเอง พ่อแม่ไม่มีอะไรให้ มันเลยทำให้ผมค้นพบว่าต้องอ่านหนังสือเพื่อให้ผมหลุดพ้นจากการที่ต้องเป็นฐานให้เขาเหยียบ
และในวันนี้ผมโตขึ้น ผมหลุดจากตรงนั้นมาได้เพราะการอ่านหนังสือที่ทำให้ผมมาเป็นผู้นำบริษัทระดับอินเตอร์ได้ ผมก็อยากให้มาเดินงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ และลองชมนิทรรศการนี้กัน"
นายวิรัช วิรัชชัย อาชีพอิสระ หนึ่งในผู้เข้าร่วมชมนิทรรศการกล่าวถึงไฮไลท์ที่ให้ผู้ที่มาเที่ยวชมงานได้เขียนบอร์ดผู้ใหญ่ที่ดีคือ เด็กที่ดีคือ สังคมที่ดีคือ
"ผมชอบตรงนั้นมากที่สุด เป็นความคิดที่ดี ที่ให้เราเอาความคิดใส่ลงไป เป็นการแสดงความคิดเห็น ที่ว่าไม่ใช่มีแค่เด็กนะ ผู้ใหญ่ก็เขียน ก็ถือว่าเป็นพื้นที่ให้ระบายออกมา ว่าฉันอยากให้มันเป็นแบบนี้ แล้วคนอื่นเห็นด้วยไหม ถ้าเห็นด้วยก็จะมีคนมีเขียนขยายความต่อท้าย ต่อไปเรื่อยๆ"
สริลทร์ณา บุญเจิม อาชีพข้าราชการแห่งหนึ่ง ที่เป็นผู้เข้าชมงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ โซนนิทรรศการเพราะเป็นเด็กจึงเจ็บปวด ได้เขียนแสดงความเห็นสังคมที่ดีคืออะไร
"สังคมคมที่ดีที่เขียนไปคือสวัสดิการที่ดีเพื่อทุกคนที่ต้องมี เพราะในประเทศของเราไม่ค่อยมีสวัสดิการเพื่อคนพิการ คนชรา และสวัสดิการรถสาธารณะ ทางการแพทย์ ตรงนี้มันยังไม่ดี คือผู้นำไม่ได้มองด้านนี้เป็นหลัก ทั้งที่มันคือพื้นฐานที่ประชาชนพึงได้รับ"
และนี่ก็คือสีสัน บรรยากาศภายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 43 ภายใต้คอนเซปต์ "เพราะเป็นเด็กจึงเจ็บปวด"