xs
xsm
sm
md
lg

จุดพลุPPPโครงสร้างพื้นฐานลุยรถไฟฟ้า-ไฮสปีด-มอเตอร์เวย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการายวัน-คมนาคมจัดทัพโครงการใหญ่ บรรจุยุทธศาสตร์ PPP ทั้ง รถไฟฟ้า ,ไฮสปีดเทรน,ทางด่วนกะทู้-ป่าตอง,ท่าเรือปากบารา,สงขลา,คลองใหญ่ พร้อมเร่งร.ฟ.ท.สรุปแผนลงทุนสายสีแดงและแอร์พอร์ตลิงก์ส่วนต่อขยาย ชี้เอกชนร่วมทุนช่วยลดภาระภาครัฐ และกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราชและบางใหญ่-กาญจนบุรี ใช้เงินกู้ลงทุนชงครม.อนุมัติประมูลในปีนี้

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคมเปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับนายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ว่า การจัดทำแผนยุทธศาสตร์ให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) พ.ศ.2558-2562 โดยนำโครงการลงทุนแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย จัดเข้ากลุ่มแผนงาน หรือจัดทำ Project Pipeline เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการ PPP) ซึ่งจะมีการประชุมภายในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ ได้แบ่งกิจการด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มกิจการที่สมควรให้เอกชนมีส่วนร่วมในการลงทุน (Opt-out) หรือต้องมีเอกชนร่วมลงทุน คือ 1. กิจการระบบขนส่งมวลชนทางรางในเมือง เช่น รถไฟฟ้า 10 สาย เป็นต้น ส่วนรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิตและบางซื่อ-ตลิ่งชัน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ส่วนต่อขยาย ช่วงพญาไท-ดอนเมือง นั้นเนื่องจากยังไม่เคยมีการศึกษารูปแบบการลงทุนจึงให้ร.ฟ.ท.เร่งดำเนินการศึกษารูปแบบที่เหมาะสมและข้อดี ข้อเสีย โดยมอบให้นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี รองปลัดกระทรวงคมนาคมติดตามความคืบหน้าเมื่อได้ความชัดเจนจะบรรจุในแผนงาน

2.กิจการพัฒนาถนนที่มีการเก็บค่าผ่านทางในเมือง หรือระบบทางพิเศษ เช่น โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จ.ภูเก็ต โครงการทางพิเศษสายกระทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ระยะทาง 3.9 กม. วงเงินลงทุนประมาณ 8.37 พันล้านบาท3. กิจการพัฒนาท่าเรือขนส่งสินค้า เช่น โครงการท่าเรือปากบารา ท่าเรือสงขลา ท่าเรือชุมพร ท่าเรือคลองใหญ่ และท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) 4. กิจการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) จำนวน 2 เส้นทาง คือ กรุงเทพ-หัวหิน และกรุงเทพ-ระยอง
กลุ่มกิจการที่รัฐส่งเสริมให้เอกชนมีส่วนร่วมลงทุน (Opt-in) ประกอบด้วย 1. กิจการพัฒนาถนนที่มีการเก็บค่าผ่านทางระหว่างเมือง เช่น โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ที่อยู่ในแผนแม่บทของกรมทางหลวง (ทล.) ยกเว้นสาย บางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร วงเงิน 84,600 ล้านบาท และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กิโลเมตร วงเงิน 55,620 ล้านบาท ซึ่งได้เสนอไปที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติโครงการแล้ว โดยใช้เงินกู้มาลงทุนโครงการ ส่วน สายพัทยา-มาบตาพุด ระยะทาง 32.10กิโลเมตร มูลค่า 20,200 ล้านบาทแบ่งเป็น ใช้เงินจากกองทุนค่าธรรมเนียมผ่านทางมอเตอร์เวย์มาเป็นค่าก่อสร้าง 2. กิจการพัฒนาสถานีขนส่งบรรจุแยกและกระจายสินค้า (ICD) 3. กิจการพัฒนาระบบตั๋วร่วม 4. กิจการพัฒนาท่าอากาศยาน และ5. กิจการพัฒนาธุรกิจและบริหารพื้นที่ท่าอากาศยาน

“โครงการที่นำมาบรรจุในแผน PPP เป็นโครงการที่มีวงเงินลงทุนสูง การให้เอกชนร่วมลงทุนเพื่อลดภาระของภาครัฐ และทำให้ภาคเอกชนเกิดความมั่นใจต่อแผนงานที่มีความชัดเจนมากขึ้น และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งตามขั้นตอนการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐนั้น ตามกฎหมายจะต้องบรรจุแผนงานและรับฟังความคิดเห็น ก่อนเสนอคณะกรรมการ PPP ดังนั้นทุกกระทรวงที่มีโครงการลงทุนจะต้องเสนอแผนงานเข้ามาเพื่อให้สคร.จัดหมวดหมู่”ปลัดคมนาคมกล่าว

สำหรับการดำเนินโครงการตามแผนยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานคมนาคมนั้น ขณะนี้ได้ทยอยเสนอ ครม.แล้ว เช่น มอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา และสายบางใหญ่-นครปฐม-กาญจนบุรี โดยรอความเห็นจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน

นอกจากนี้ยังมีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 36 กม.วงเงิน 56,000 ล้านบาท สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กม.วงเงิน 54,000 ล้านบาท สายสีส้ม ช่วงพระราม 9-มีนบุรี วงเงิน 106,655.76 ล้านบาท รวมทั้งรถไฟทางคู่ เส้นทางชุมทางจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กม. วงเงิน 26,007 ล้านบาท ซึ่งจะเร่งนำเสนอ ครม.ภายในวันที่ 15 เมษายนนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น