เจ้าหน้าที่บ้านเมืองแสดงอาการคึกคัก ขึงขังจริงจัง ประกาศจะไล่ล่ากลุ่มขบวนการสมุนเหลี่ยมร้ายซึ่งเร้นกายหนีคดีอาญาอยู่ต่างประเทศ อ้างว่าจะยื่นขอให้สหรัฐฯ ส่งตัว “เอนก ซานฟราน” ตัวการจ้างวานเครือข่ายกลุ่มบึ้มศาลอาญา และตัวแสบอื่นๆ มารับโทษร้ายแรงให้ได้ขอให้มั่นใจ งั้นเถอะ
ฟังแล้วดูเหมือนดี แต่คนเฝ้าติดตามผลงานเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ผ่านมาเตือนว่า อย่าตื่นเต้น อย่าบ้องตื้น เพราะอาการกระเหี้ยนกระหือรือเป็นเพียงปฏิกิริยาตอบสนองความต้องการของสังคมชั่ววูบ
ทำไปเพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าไม่มีโอกาสสำเร็จ ท้าพนัน 100 บาทเอาขี้หมากองเดียว!
ปัดโธ่! ไม่ใช่ดูถูกฝีมือ เพราะดูลีลาท่าทีการเดินเรื่องแล้วคนรู้ทันมองออกง่ายๆ ว่าอาการกระดี้กระด้าตามตัวก๊วนสมุนเหลี่ยมเป็นการแสดงในฉากประกอบพิธีกรรม เพื่อความเนียนไร้รอยต่อ
ทำเป็นยื่นเอกสารนั่นนี่โน่นถึงหน่วยงานโน่นนี่นั่น ใช้เวลาสักระยะ ก็ทำหน้าแห้งบอกว่าฝรั่งไม่ให้ความร่วมมือเพราะรัฐบาลไม่น่าเชื่อถือ ถูกมองว่ามาจากการรัฐประหาร มีกฎอัยการศึก
จะอ้างอีกว่าบ้านเมืองไม่อยู่ในสภาพปกติ ขาดบรรยากาศประชาธิปไตย ไร้สิทธิเสรีภาพ ปิดกั้นการแสดงออกด้านความคิดเห็น ไม่มีเลือกตั้ง มีการจับกุมคุมขังประชาชนแบบยัดข้อหา ไม่ให้สิทธิได้พบทนายความ มีคนโดนขังโวยวายว่ามีการซ้อมผู้ต้องหามีรอยบาดแผลปรากฏให้เห็น
มีองค์กรต่างประเทศตัวช่วยขบวนการสมุนบักเหลี่ยมแหกปากฟ้องประชาคมโลกอีกด้วย
แผนจะเอาตัว “เอนก ซานฟราน” มาโดยวิธีส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนข้อหาก่อการร้ายจึงเป็นเพียงปาหี่แก้อารมณ์เซ็งยามบ่ายของฤดูร้อนเท่านั้น รัฐบาลไอ้กันไม่มีวันยอมเด็ดขาด
“เอนก ซานฟราน” เป็นพลเมืองอเมริกัน เพียงยื่นคำร้องต่อศาลให้ปิดกั้นความพยายามของฝ่ายไทย อ้างว่าถ้าโดนส่งตัวไปเมืองไทยมีหวังถูกซ้อมอ่วมแน่ ยังบอกอีกก็ได้ว่าอยู่อเมริกามานานกว่า 20 ปีไม่เคยไปเมืองไทย จึงไม่มีเหตุผลอะไรจะไปก่อการร้ายในไทย และไม่เคยโอนเงินให้ใครด้วย
แค่นี้กระบวนการฝ่ายไทยก็หน้าแห้งยิ่งกว่าขี้ตากแดด รู้ทั้งรู้ก็ยังจะทำเพื่อให้ถูกตามพิธีกรรม
โธ่! เจ้าหน้าที่จะเอาจริงหรือไม่จริง ดูรูปแบบพฤติกรรมเพื่อชี้ให้เห็นเจตนาก็จะรู้
ชาวบ้านสงสัยตั้งคำถามซ้ำซากแต่ไม่มีใครตอบ ไม่บอกด้วยว่าทำไมไม่ยอมตอบ เช่น ทำไมไม่ยกเลิกหนังสือเดินทางพวกตัวแสบหลบหนีคดีอาญาอยู่ต่างประเทศ มีปัญหาอะไรเรอะ
พวกตัวแสบหนีไปตั้งแต่ปีมะโว้เพิ่งคิดได้ว่าต้องเอาตัวมาดำเนินคดี ไม่อย่างนั้นจะโดนข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ดูแล้วคงหวังได้ยาก เป็นขบวนการลูบหน้าปะจมูกเล่นเกมซ่อนกลแหกตาเท่านั้น
ชาวบ้านถามจนเบื่อแล้วว่าทำไมไม่ยกเลิกพาสปอร์ตบักเหลี่ยม ถอดยศ ทำตามกฎระเบียบ มีอะไรต้องเกรงใจ มีประเด็นอ่อนไหวประการใดหรือมีอำนาจแฝงเร้นอะไรห้ามไม่ให้ทำ
รู้ทั้งรู้ว่าต้นตอของปัญหาและวิกฤตในบ้านเมืองตั้งแต่ปี 2543 เกิดจากใคร เผาบ้านเผาเมือง 2 ปีซ้อน ล้มการประชุมอาเซียน จ้างต่างชาติทำลายประเทศไทยตลอดมา มีกองกำลังติดอาวุธเข่นฆ่าผู้ชุมนุมทางการเมืองโดยสงบ ฆ่าทหารละลาย 3 กองร้อยกลางเมืองในคืนเดียว
กระทำความชั่วร้ายสารพัด โครงสร้างการเมือง สังคม เศรษฐกิจ ศาสนา ค่านิยม ทัศนคติ ระบบศีลธรรม คุณธรรมแทบล่มสลาย บ้านเมืองแตกแยก การคอร์รัปชันเฟื่องฟู
ทำไมไม่จัดการต้นตอ นี่คือความโง่โดยประมาท หรือเจตนาช่วยเหลืออาชญากรขายชาติ ถ้าจะจัดการขบวนการต้องเร่งมือ ระดมสรรพกำลังเล่นงานตัวใหญ่ ตีงูต้องตีที่หัว อย่าตีหาง
ถ้าจะล้มต้นไม้ใหญ่ อย่ามัวแต่ปีนต้นขึ้นไปริดกิ่งเล็กๆ มีดจะทื่อ คนจะหมดแรง จะโดนมดแดงกัดหรือหน้ามืดมือไม้อ่อนตกลงมาตายเสียก่อน ต้องควั่นการอบลำต้นให้แห้งตาย จากนั้นก็โค่นลง
ทุกวันนี้ทำเหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตน จ้องเล่นงานสมุนปลายแถวไร้ราคาอย่างพวก “อั้ม เนโกะ” “ตั้ง อาชีวะ” แต่ตัวเบ้งๆ พิษเยอะดันปล่อยให้ตะลอนๆ ใช้ปากพ่นพิษใส่แผ่นดินเกิด
หวังพึ่งพาตำรวจสากลเรอะ? ไม่ง่ายหรอก เดี๋ยวจะโดนย้อนเอา “อ้าว! เห็นมีนายตำรวจใหญ่ ข้าราชการ นักการเมืองแห่กันไปคารวะหลายครั้ง รัฐบาลไทยไม่ทำอะไร ไม่ติดตามจับกุม”
เจ้าหน้าที่บ้านเมืองของไทยนี่แหละได้ทำให้คำพิพากษาของศาล หมายจับของศาลไร้ความหมาย กระบวนการยุติธรรมขาดความน่าเชื่อถือ เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐไทยเพิกเฉย ไม่ทำอะไร แล้วจะให้ตำรวจสากล รัฐบาลต่างประเทศทำอะไรได้ นี่ยังไม่นับพฤติกรรมของอัยการที่ทำให้องค์กรเสื่อม
มีทั้งสั่งไม่ฟ้อง ไม่อุทธรณ์ ไม่ฎีกา สั่งถอนฟ้องกลางคันก่อนศาลตัดสินขั้นสุดท้าย
การเต้นแร้งเต้นกาจะไล่ล่าจับกุมจึงเป็นลีลายึกยักเท่านั้น แค่ยกเลิกหนังสือเดินทางทำได้ง่ายๆ ก็ยังไม่ทำ เพราะมันง่ายนั่นแหละ จ้องทำเรื่องยากๆ ถ้าต่างชาติไม่เล่นด้วยก็ถือเป็นข้ออ้างได้
วิชามาร ลีลาแกล้งโง่ เฉไฉไขสือ เจ้าหน้าที่บ้านเมืองขี้ข้าบักเหลี่ยมถนัดยิ่งนัก
ทุกวันนี้ยังมีมหกรรมแหกตาชาวบ้าน อ้างว่าต้องร่างกฎหมายยกเลิกเอาผิดพวกชาวบ้านไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ยกเว้นแกนนำตัวแสบ แต่ยังถูกมองว่า “ตัวแสบที่สุด” นั่นแหละจะได้ประโยชน์
การไม่ไล่ล่าเหลี่ยมร้ายก็เพื่อรอจังหวะหาช่องทาง จังหวะเหมาะ สบช่องโอกาส ความจริงจังในการเล่นงานแม่นางปูในคดีจำนำข้าวจะเป็นข้อพิสูจน์ว่าเป็นฉากอำพรางการต่อรองหรือไม่
ไอ้ที่ว่าไม่มีการเจรจากัน แล้วข่าวเล็ดลอดออกมาได้อย่างไร ยิ่งไม่ทำอะไรติดตามตัวแสบโดยเร็ว ส่อพฤติกรรมฟ้อง ถ้ายกเลิกหนังสือเดินทางก็เท่ากับการเด็ดปีกเด็ดหาง จำกัดการเคลื่อนไหว
หรือว่าความต้องการที่แท้จริงไม่อยากให้ต่างชาติส่งตัวกลับมา จะสร้างปัญหาหนักกว่าเดิม!
ท่านผู้นำจะปล่อยให้เกิดมหกรรมแหกตาปาหี่ยืดเยื้อไม่ได้นะครับ มีผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือ สภาวะผู้นำของท่านจะเป็นปัญหาที่ท่านแก้ไม่ได้ อธิบายก็ไม่ได้ และยังโยงไปถึงเนื้อหาของรัฐธรรมนูญในประเด็นการปรองดอง การนิรโทษกรรมให้พวกตัวร้ายได้รอดพ้นคุก
อย่าลืมว่าการปฏิรูปงานองค์กรต่างๆ ยังไม่ไปถึงไหน โดยเฉพาะหน่วยงานภาพลักษณ์เน่า ถ้ารัฐบาลนี้ต้องไปหลังจากการเลือกตั้ง นักการเมืองหน้าเดิมตัวร้ายเข้ามา จะเกิดวิกฤตวงจรอุบาทว์ซ้ำ
ไม่มีอะไรเจ็บปวดมากกว่าการถูกตำหนิว่าล้มเหลว เสียของ เพราะไม่จดจำประวัติศาสตร์
ฟังแล้วดูเหมือนดี แต่คนเฝ้าติดตามผลงานเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ผ่านมาเตือนว่า อย่าตื่นเต้น อย่าบ้องตื้น เพราะอาการกระเหี้ยนกระหือรือเป็นเพียงปฏิกิริยาตอบสนองความต้องการของสังคมชั่ววูบ
ทำไปเพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าไม่มีโอกาสสำเร็จ ท้าพนัน 100 บาทเอาขี้หมากองเดียว!
ปัดโธ่! ไม่ใช่ดูถูกฝีมือ เพราะดูลีลาท่าทีการเดินเรื่องแล้วคนรู้ทันมองออกง่ายๆ ว่าอาการกระดี้กระด้าตามตัวก๊วนสมุนเหลี่ยมเป็นการแสดงในฉากประกอบพิธีกรรม เพื่อความเนียนไร้รอยต่อ
ทำเป็นยื่นเอกสารนั่นนี่โน่นถึงหน่วยงานโน่นนี่นั่น ใช้เวลาสักระยะ ก็ทำหน้าแห้งบอกว่าฝรั่งไม่ให้ความร่วมมือเพราะรัฐบาลไม่น่าเชื่อถือ ถูกมองว่ามาจากการรัฐประหาร มีกฎอัยการศึก
จะอ้างอีกว่าบ้านเมืองไม่อยู่ในสภาพปกติ ขาดบรรยากาศประชาธิปไตย ไร้สิทธิเสรีภาพ ปิดกั้นการแสดงออกด้านความคิดเห็น ไม่มีเลือกตั้ง มีการจับกุมคุมขังประชาชนแบบยัดข้อหา ไม่ให้สิทธิได้พบทนายความ มีคนโดนขังโวยวายว่ามีการซ้อมผู้ต้องหามีรอยบาดแผลปรากฏให้เห็น
มีองค์กรต่างประเทศตัวช่วยขบวนการสมุนบักเหลี่ยมแหกปากฟ้องประชาคมโลกอีกด้วย
แผนจะเอาตัว “เอนก ซานฟราน” มาโดยวิธีส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนข้อหาก่อการร้ายจึงเป็นเพียงปาหี่แก้อารมณ์เซ็งยามบ่ายของฤดูร้อนเท่านั้น รัฐบาลไอ้กันไม่มีวันยอมเด็ดขาด
“เอนก ซานฟราน” เป็นพลเมืองอเมริกัน เพียงยื่นคำร้องต่อศาลให้ปิดกั้นความพยายามของฝ่ายไทย อ้างว่าถ้าโดนส่งตัวไปเมืองไทยมีหวังถูกซ้อมอ่วมแน่ ยังบอกอีกก็ได้ว่าอยู่อเมริกามานานกว่า 20 ปีไม่เคยไปเมืองไทย จึงไม่มีเหตุผลอะไรจะไปก่อการร้ายในไทย และไม่เคยโอนเงินให้ใครด้วย
แค่นี้กระบวนการฝ่ายไทยก็หน้าแห้งยิ่งกว่าขี้ตากแดด รู้ทั้งรู้ก็ยังจะทำเพื่อให้ถูกตามพิธีกรรม
โธ่! เจ้าหน้าที่จะเอาจริงหรือไม่จริง ดูรูปแบบพฤติกรรมเพื่อชี้ให้เห็นเจตนาก็จะรู้
ชาวบ้านสงสัยตั้งคำถามซ้ำซากแต่ไม่มีใครตอบ ไม่บอกด้วยว่าทำไมไม่ยอมตอบ เช่น ทำไมไม่ยกเลิกหนังสือเดินทางพวกตัวแสบหลบหนีคดีอาญาอยู่ต่างประเทศ มีปัญหาอะไรเรอะ
พวกตัวแสบหนีไปตั้งแต่ปีมะโว้เพิ่งคิดได้ว่าต้องเอาตัวมาดำเนินคดี ไม่อย่างนั้นจะโดนข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ดูแล้วคงหวังได้ยาก เป็นขบวนการลูบหน้าปะจมูกเล่นเกมซ่อนกลแหกตาเท่านั้น
ชาวบ้านถามจนเบื่อแล้วว่าทำไมไม่ยกเลิกพาสปอร์ตบักเหลี่ยม ถอดยศ ทำตามกฎระเบียบ มีอะไรต้องเกรงใจ มีประเด็นอ่อนไหวประการใดหรือมีอำนาจแฝงเร้นอะไรห้ามไม่ให้ทำ
รู้ทั้งรู้ว่าต้นตอของปัญหาและวิกฤตในบ้านเมืองตั้งแต่ปี 2543 เกิดจากใคร เผาบ้านเผาเมือง 2 ปีซ้อน ล้มการประชุมอาเซียน จ้างต่างชาติทำลายประเทศไทยตลอดมา มีกองกำลังติดอาวุธเข่นฆ่าผู้ชุมนุมทางการเมืองโดยสงบ ฆ่าทหารละลาย 3 กองร้อยกลางเมืองในคืนเดียว
กระทำความชั่วร้ายสารพัด โครงสร้างการเมือง สังคม เศรษฐกิจ ศาสนา ค่านิยม ทัศนคติ ระบบศีลธรรม คุณธรรมแทบล่มสลาย บ้านเมืองแตกแยก การคอร์รัปชันเฟื่องฟู
ทำไมไม่จัดการต้นตอ นี่คือความโง่โดยประมาท หรือเจตนาช่วยเหลืออาชญากรขายชาติ ถ้าจะจัดการขบวนการต้องเร่งมือ ระดมสรรพกำลังเล่นงานตัวใหญ่ ตีงูต้องตีที่หัว อย่าตีหาง
ถ้าจะล้มต้นไม้ใหญ่ อย่ามัวแต่ปีนต้นขึ้นไปริดกิ่งเล็กๆ มีดจะทื่อ คนจะหมดแรง จะโดนมดแดงกัดหรือหน้ามืดมือไม้อ่อนตกลงมาตายเสียก่อน ต้องควั่นการอบลำต้นให้แห้งตาย จากนั้นก็โค่นลง
ทุกวันนี้ทำเหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตน จ้องเล่นงานสมุนปลายแถวไร้ราคาอย่างพวก “อั้ม เนโกะ” “ตั้ง อาชีวะ” แต่ตัวเบ้งๆ พิษเยอะดันปล่อยให้ตะลอนๆ ใช้ปากพ่นพิษใส่แผ่นดินเกิด
หวังพึ่งพาตำรวจสากลเรอะ? ไม่ง่ายหรอก เดี๋ยวจะโดนย้อนเอา “อ้าว! เห็นมีนายตำรวจใหญ่ ข้าราชการ นักการเมืองแห่กันไปคารวะหลายครั้ง รัฐบาลไทยไม่ทำอะไร ไม่ติดตามจับกุม”
เจ้าหน้าที่บ้านเมืองของไทยนี่แหละได้ทำให้คำพิพากษาของศาล หมายจับของศาลไร้ความหมาย กระบวนการยุติธรรมขาดความน่าเชื่อถือ เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐไทยเพิกเฉย ไม่ทำอะไร แล้วจะให้ตำรวจสากล รัฐบาลต่างประเทศทำอะไรได้ นี่ยังไม่นับพฤติกรรมของอัยการที่ทำให้องค์กรเสื่อม
มีทั้งสั่งไม่ฟ้อง ไม่อุทธรณ์ ไม่ฎีกา สั่งถอนฟ้องกลางคันก่อนศาลตัดสินขั้นสุดท้าย
การเต้นแร้งเต้นกาจะไล่ล่าจับกุมจึงเป็นลีลายึกยักเท่านั้น แค่ยกเลิกหนังสือเดินทางทำได้ง่ายๆ ก็ยังไม่ทำ เพราะมันง่ายนั่นแหละ จ้องทำเรื่องยากๆ ถ้าต่างชาติไม่เล่นด้วยก็ถือเป็นข้ออ้างได้
วิชามาร ลีลาแกล้งโง่ เฉไฉไขสือ เจ้าหน้าที่บ้านเมืองขี้ข้าบักเหลี่ยมถนัดยิ่งนัก
ทุกวันนี้ยังมีมหกรรมแหกตาชาวบ้าน อ้างว่าต้องร่างกฎหมายยกเลิกเอาผิดพวกชาวบ้านไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ยกเว้นแกนนำตัวแสบ แต่ยังถูกมองว่า “ตัวแสบที่สุด” นั่นแหละจะได้ประโยชน์
การไม่ไล่ล่าเหลี่ยมร้ายก็เพื่อรอจังหวะหาช่องทาง จังหวะเหมาะ สบช่องโอกาส ความจริงจังในการเล่นงานแม่นางปูในคดีจำนำข้าวจะเป็นข้อพิสูจน์ว่าเป็นฉากอำพรางการต่อรองหรือไม่
ไอ้ที่ว่าไม่มีการเจรจากัน แล้วข่าวเล็ดลอดออกมาได้อย่างไร ยิ่งไม่ทำอะไรติดตามตัวแสบโดยเร็ว ส่อพฤติกรรมฟ้อง ถ้ายกเลิกหนังสือเดินทางก็เท่ากับการเด็ดปีกเด็ดหาง จำกัดการเคลื่อนไหว
หรือว่าความต้องการที่แท้จริงไม่อยากให้ต่างชาติส่งตัวกลับมา จะสร้างปัญหาหนักกว่าเดิม!
ท่านผู้นำจะปล่อยให้เกิดมหกรรมแหกตาปาหี่ยืดเยื้อไม่ได้นะครับ มีผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือ สภาวะผู้นำของท่านจะเป็นปัญหาที่ท่านแก้ไม่ได้ อธิบายก็ไม่ได้ และยังโยงไปถึงเนื้อหาของรัฐธรรมนูญในประเด็นการปรองดอง การนิรโทษกรรมให้พวกตัวร้ายได้รอดพ้นคุก
อย่าลืมว่าการปฏิรูปงานองค์กรต่างๆ ยังไม่ไปถึงไหน โดยเฉพาะหน่วยงานภาพลักษณ์เน่า ถ้ารัฐบาลนี้ต้องไปหลังจากการเลือกตั้ง นักการเมืองหน้าเดิมตัวร้ายเข้ามา จะเกิดวิกฤตวงจรอุบาทว์ซ้ำ
ไม่มีอะไรเจ็บปวดมากกว่าการถูกตำหนิว่าล้มเหลว เสียของ เพราะไม่จดจำประวัติศาสตร์