ร่ำลือกันในหมู่คนรักจักรยานว่า “อาวุธชิ้นสำคัญที่จะนำนักปั่นไปสู่จุดหมายสูงสุด มีผลจากปัจจัยทั้ง 3 สิ่ง นั่นก็คือ แรงกาย แรงใจ และจักรยานคันดีๆ” แต่ถ้าจะบอกล่ะว่า วินาทีนี้ มีบุคคลกลุ่มหนึ่งซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันได้เลยกับจักรยานอย่าง พระสงฆ์ ออกธุดงค์เผยแพร่หลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ด้วยสองล้อแม่บ้านคันเล็กๆ เป็นระยะทางกว่า 2600 กิโลเมตร จะรู้สึกอย่างไร?
วันนี้ Feel Good จะพาทุกท่านไปรู้จักกับที่มาที่ไปของพระปลัดสมบูรณ์ สุมังคโล วัย 56 ปี แห่งวัดป่าลานหินตัด ผู้ริเริ่มโครงการ “จักรยาตรา เผยแพร่ศาสนา ด้วยสองล้อนำธรรม”
“อาตมาบวชเรียนมา 29 พรรษา ก็ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่ง จะได้มาใช้จักรยาน แต่เพราะความจำเป็นบีบบังคับ เพราะเมื่อก่อนอาตมาเข้าร่วมโครงการครูพระ ต้องออกไปสอนหนังสือเด็กๆ ตามโรงเรียนชนบท แถบชายแดนไทย-กัมพูชา เดินทางคราวละหลายสิบกิโล และพอเห็นว่าทางโรงเรียน ต้องคอยมารับ-ส่ง จึงรู้สึกเกรงใจ ไม่อยากให้ตัวเองเป็นภาระ หลังๆ ก็เลยปั่นจักรยานไปสอนเองเลย”
แม้การสัมผัสกับจักรยานครั้งแรกของพระปลัดสมบูรณ์ จะเกิดขึ้นเพียงเพราะความจำเป็น ไม่ไม่ใช่ความชอบส่วนตน ทว่า เมื่อเริ่มคลุกคลีกับจักรยานได้สักระยะ ท่านกลับพบว่า “จักรยานหนึ่งคันให้อะไรกับชีวิตคนหนึ่งคนอย่างน่าอัศจรรย์”
“พอเริ่มปั่นไปสอนเด็กๆ จนเป็นกิจวัตร อาตมาจึงมองเห็นว่า นอกจากตัวเราจะสุขภาพดีขึ้นแล้ว มันยังช่วยนำทางให้เด็กหันมาใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ แล้วที่สำคัญต้องอย่าลืมว่า ตามแถวชนบทที่อาตมาไปสอน ทีวีอะไรมันก็หาดูยาก เด็กๆ จึงขาดโอกาสได้ศึกษาเรียนรู้ตัวอย่างดีๆ จากคนทีวี พวกเขาก็เลยหาต้นแบบ จากการเลียนแบบพฤติกรรมของคนที่เห็นๆ กันอยู่ทุกๆ วันนี่แหละ”
และแล้วผลลัพธ์ที่ได้ก็เป็นไปตามที่ พระปลัดสมบูรณ์ คาดหวังจริงๆ เพราะเด็กๆ ของ รร.นิคมพัฒนาสายตรี 2 ต.ปราสาท อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ที่ท่านไปสอน หันมาใช้จักรยานกันมากขึ้น จนพระครูการันตีด้วยเสียงหัวเราะว่า “ตอนนี้ ปั่นกันเกือบทั้งโรงเรียนแล้ว” ถือเป็นการปลูกฝังกิจกรรมดีๆ ให้แก่เด็กๆ หันมาใส่ใจตัวเอง ลดภาวะเสี่ยงต่อการไปมั่วสุมยาเสพติดที่ดีอย่างหนึ่งจริงๆ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังมีผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่า ที่ทั้งผู้มอบและผู้รับได้มาแบบไม่ตั้งใจ นั่นก็คือ ได้สานความสัมพันธ์ และกระชับมิตรภาพระหว่างครูและศิษย์ไปในตัว เพราะแทบทุกๆ เย็นหลังเลิกเรียน นักปั่นตัวน้อยๆ เหล่านี้ จะพากันรวมตัว เพื่อออกปั่นจักรยานมาส่งครูพระนักปั่น ผู้เป็นไอดอลของเขาถึงหน้ากุฏิเลยทีเดียว ซึ่งระหว่างทาง พระปลัดสมบูรณ์ ก็มักสอดแทรกเรื่องราวทางพุทธศาสนาให้เด็กๆ ได้ฟังกันด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น ด้วยการเป็นพระนักกิจกรรม รู้จักต่อยอดแนวคิดจากเรื่องรอบตัว เพื่อรังสรรค์ให้เกิดประโยชน์แก่ผู้อื่น ยังทำให้ พระปลัดสมบูรณ์ สุมังคโล เสนอโครงการ “จักรยาตรา” หรือการออกธุดงค์เพื่อศึกษาพระธรรม และเผยแพร่คำสอนทางพุทธศาสนาด้วยการปั่นจักรยานผ่านในการประชุมพระสงฆ์ทั่วประเทศ เมื่อปี 2553 อีกด้วย หนำซ้ำเมื่อไม่นานมานี้ ยังออกเดินทางทั่วประเทศเป็นระยะทางกว่า 2600 กิโมเมตร เพื่อเผยแพร่หลักธรรมตามโรงเรียนต่างจังหวัด เป็นเวลา 45 วันมาแล้วอีกด้วย
และแน่นอนหลายคนคงไม่ค่อยแฮปปี้กันแน่ๆ ถ้าเห็นพระสงฆ์ออกปั่นจักรยาน ข้อนี้ ผู้ริเริ่มโครงการ ได้กล่าวว่า
“วันที่อาตมาประชุม พระหลายรูปออกก็มาคัดค้านนะ แต่อาตมาก็ให้เหตุผลเขาไปว่า ไม่ผิด!! เราเดินทางด้วยแรงของตัวเอง เพราะจริงๆ แล้ว ธรรมะของพระพุทธเจ้ามันไม่ได้ตายตัว ว่าจะต้องสอนด้วยวิธีไหน อย่างตอนที่พระองค์ไปตรัสรู้ในป่า ก็เอาสิ่งที่อยู่รอบตัวมาศึกษา เพราะฉะนั้นสิ่งที่อยู่รอบตัวก็คือสิ่งที่สอนเราได้ จักรยานก็เช่นกัน มันคือเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยเราศึกษาธรรมะได้ และในขณะเดียวกันก็สามารถพาไปเผยแพร่ศาสนาได้เช่นกัน” นอกจากนี้ท่านยังฝากแง่คิดดีๆ ไปถึงพระรูปอื่น ผ่านทีม Feel Good อีกด้วย
“การที่พระหันมาปั่นจักรยานเหมือนเป็นการช่วยกู้ศาสนาได้อีกทาง เพราะเมื่อพระแข็งแรง ก็จะอยู่เผยแพร่ศาสนาได้นานขึ้น ลองพิจารณาดูนะ พระอย่างเราๆ ทำบุญ สร้างวัดสร้างวามากมาย สอนคนตั้งเท่าไหร่ให้รู้จักสงบ รู้จักธรรมะ แต่กลับลืมทำบุญให้ตัวเอง ซึ่งการทำบุญให้กับตัวเอง ก็คือการใส่ใจสุขภาพร่างกายของตัวเอง”
“ใจจริงอาตมาอยากให้พระสงฆ์ทุกรูปหันมาทำเหมือนอาตมานะ จะได้ช่วยลดโรคภัยไข้เจ็บ เพราะปกติ พระก็เลือกฉันด์อาหารไม่ได้อยู่แล้ว แถมยังมีกฎเรื่องเวลามาควบคุม ทำให้คนเป็นพระมีโรคเยอะ อาตมารับรองเลยว่า ถ้าพระหันมาปั่นจักรยานออกกำลังกายกัน โรงพยาบาลสงฆ์ งานเบาลงแน่”
ส่วนในเรื่องของกิจกรรมการปั่นจักรยานที่กำลังจะมาถึง พระปลัดสมบูรณ์ สุมังคโล แนะว่า จะออกธุดงค์ด้วยจักรยานอีกครั้ง เพื่อนำความรู้ของการทำแสงโซล่าเซล และอุปกรณ์ด้วยบางส่วน ไปให้กับพื้นที่แถบชนบทที่ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง ภายใต้โครงการที่มีชื่อว่า “วงล้อส่องธรรม นำแสงสว่างสู่พื้นที่ชนบท” และในโครงการนี้ พระปลัดสมบูรณ์ ยังเน้นอีกว่า เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจมาร่วมปั่นกันได้ทุกคน โดยติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ เฟซบุ๊ก “จักรยาตรา วัดป่าลานหินตัด” โดยตรงได้เลย