ASTVผู้จัดการรายวัน- ปลัด สธ.ไม่หวั่นไม่ได้รับความไม่เป็นธรรมจาก คกก.ตรวจสอบข้อเท็จจริง ปัดตอบคำสั่งห้าม รพ.ขึ้นป้ายเชียร์ ด้าน "โฆษกรัฐ" ยันไม่ได้สอบวินัย"หมอณรงค์"แค่ให้หาข้อเท็จจริง-ทางแก้ไข พร้อมเผย"บิ๊กตู่"สั่งตั้ง กก.เช็คกองทุน สปสช.-งบสธ. ผบ.รมน.จ.สุรินทร์ร่อนหนังสือเรียก 3 หมอหารือ เหตุชุมนุมค้านย้ายปลัด สธ. รมว.สธ.ประชุมอธิบดีทุกกรม ยันความขัดแย้งเป็นเรื่องบุคคล ไม่ใช่หน่วยงาน ด้านรักษาการปลัด สธ.ลงนามคำสั่งมอบอำนาจรองปลัด สธ.ใหม่ "
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิด้านการวิจัยและพัฒนางานด้านสุขภาพแห่งชาติ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำงานในสำนักนายกฯเป็นวันที่ 2 ยังคงเป็นไปด้วยดี โดยได้เข้าทำงานที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ( ก.พ.) ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล
ส่วนการที่ รมว.สาธารณสุขเรียกผู้บริหารระดับสูง อธิบดีทุกกรมเข้าหารือ เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ย้ำมาตลอดว่า สธ.จะอยู่ได้ขึ้นอยู่กับส่วนภูมิภาค เพราะระดับพื้นที่อยู่หน้างาน ปฏิบัติงานโดยตรง ไม่ต้องพะวงเรื่องอำนาจ หากภูมิภาคเข็มแข็งจะเป็นหลักให้คนสาธารณสุขได้ ขณะที่ส่วนกลางก็อาจต้องพะวงในเรื่องตำแหน่ง หน้าที่ต่างๆ เป็นเรื่องธรรมดา
เมื่อถามว่าคิดว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากคณะกรรมการตรวจสอบฯ ที่รองนายกรัฐมนตรีตั้งขึ้นหรือไม่ นพ.ณรงค์ กล่าวว่า จากรายชื่อที่เห็นตามข่าว ก็ยังคงเชื่อมั่นในระบบในความเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เห็นรายละเอียดหรือข้อกล่าวหาในการตรวจสอบตัวเองอยู่ดี
**ยงยุทธ ยันสอบข้อเท็จจริง
นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมครม. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในที่ประชุม ว่ากรณีคำสั่งให้ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีนั้น ได้มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง โดยมีปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน
ทั้งนี้คณะกรรมการดังกล่าวเป็นการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร และมีแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างไร เพื่อเสนอต่อนายกฯ และครม.ต่อไป นพ.ณรงค์ ไม่ได้ถูกปลดแต่อย่างใด เพียงแต่มีคำสั่งให้มาช่วยราชการเท่านั้น
นอกจากนี้นายกฯ ยังได้สั่งการให้นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านสังคม ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบกองทุนของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และการใช้จ่ายงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข ว่า มีการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอย่างไร หรือไม่ด้วย
**"นิพิฏฐ์"โพสต์ให้กำลังใจหมอณรงค์
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว มีเนื้อหาให้กำลังใจ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่า
" หากย้อนเวลากลับได้ ท่านปลัดณรงค์ ก็คงตัดสินใจเหมือนเดิม ปกติผมไม่ค่อยพูดถึงกระทรวงสาธารณสุขมากนัก เพราะกระทรวงนี้เขาจะมีวัฒนธรรมองค์กรของเขาต่างจากที่อื่น แต่วันนี้ต้องกล่าวถึงท่านปลัดณรงค์ เพราะตอนที่มีการชุมนุมของ มวลมหาประชาชน ท่านเป็นปลัดกระทรวงคนเดียวที่กล้าออกมาสนับสนุนการต่อสู้ของประชาชนอย่างเต็มตัว ทำให้การต่อสู้ของประชาชนได้รับกำลังสนับสนุนจากบุคลากรในกระทรวงสาธารณสุขอย่างเต็มที่ กล่าวได้ว่า ชัยชนะของประชาชนส่วนหนึ่งมาจากท่านปลัดณรงค์ แต่ในช่วงการต่อสู้ของภาคประชาชน เราไม่เห็นการต่อสู้ใดๆ ของท่านรัฐมนตรี รัชตะ รัชตะนาวิน แต่หลังยึดอำนาจ ท่านกลับบุญพาวาสนาส่ง ได้เป็นรัฐมนตรี ตอนแรกท่านจะควบ 2 ตำแหน่งเสียด้วยซ้ำ ตอนนั้นผมก็แสดงความเห็นว่า ท่านควรเลือกตำแหน่งเดียว จนมีการประท้วงคลุมปี๊บ ในมหิดล ท่านจึงลาออกจากอธิการบดี"
"ผมดูอยู่ห่างๆ แต่ก็เห็นว่า คนในกระทรวงรักท่านปลัด ผมยังไม่เห็นท่านทำอะไรผิดที่จำเป็นต้องย้ายท่านออกจากกระทรวงสาธารณสุข มีคนถามผมว่า นี่ถ้าย้อนเวลากลับได้ และรู้ว่าหลังการยึดอำนาจ ท่านจะขัดแย้งกับรัฐมนตรีที่มาจากการยึดอำนาจ และถูกย้าย ท่านจะยังคิดเหมือนเดิม คือยืนเคียงข้างประชาชน หรือไม่ ผมคิดว่าคนอย่างท่าน ก็คงยังเลือกยืนข้างประชาชน และความถูกต้อง วันที่ท่านโดดเดี่ยว ประชาชนจะยืนข้างกายท่านหรือ
** ปรับทัศนะคติ 3 หมอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ถูกตั้งคระกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีไม่ตอบสนองนโยบายรัฐบาล ไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐมนตรี สธ. พร้อมถูกสั่งย้ายไปสำนักนายกรัฐมนตรี จนข้าราชการ บุคลากร สธ.จำนวนมาก ทั้งโรงพยาบาลต่างๆ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดต่างออกมาขึ้นป้ายให้กำลังใจปลัด สธ. พร้อมสวมชุดสีดำ ปรากฏว่าบางแห่งถูกขอร้องให้ปลดป้ายลง
ล่าสุด วานนี้ (17 มี.ค.) พล.ต.มนัส หนูวัฒนา ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดสุรินทร์ ได้ลงนามวันที่ 17 มี.ค. 2558 ในหนังสือด่วนที่สุดเลขที่ คสช.(รส.)2.67/22 ส่งถึง ผอ.รพ.สุรินทร์ เรื่องขอเชิญเจ้าหน้าที่พบปะทำความเข้าใจ ระบุว่า จากข่าวสารว่าเจ้าหน้าที่ของ รพ.สุรินทร์ ประกอบด้วยกลุ่มนายแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่บางส่วน นัดชุมนุมแสดงออกเกี่ยวกับคำสั่งย้ายปลัด สธ. ในวันที่ 17 มี.ค. 2558 เวลา 11.00 น. ที่ รพ.สุรินทร์นั้น
เพื่อมิให้การแสดงออกดังกล่าวนำไปสู่ความขัดแย้งของสังคมส่วนรวม ตลอดจนความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ จึงขอความร่วมมือจากท่านให้เชิญแกนนำที่นัดหมายชุมนุม มาพบปะพูดคุยกับผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยของจังหวัดสุรินทร์ ในวันที่ 17 มี.ค. 2558 เวลา 09.30 น. ณ กองบัญชาการกองกำลังรักษาความสงบจังหวัดสุรินทร์ ค่ายวีรวัฒน์โยธิน อ.เมือง จ.สุรินทร์ ประกอบด้วย 1. พญ.ประชุมพร บูรณ์เจริญ 2. พญ.พรรณทิพย์ มูลศาสตร์สาทร 3. นพ.อิสระ อริยชัยพาณิชย์
ทั้งนี้ พญ.ประชุมพร ไม่สามารถเดินทางไปยังค่ายฯ ได้ เนื่องจากติดภารกิจตรวจคนไข้ และดูสไลด์ชิ้นเนื้อของผู้ป่วย ทหารจึงเดินทางมายังกลุ่มงานพยาธิวิทยากายวิภาค รพ.สุรินทร์ เพื่อทำความเข้าใจกับบุคลากรดังกล่าวพร้อมกันทั้งสามคน
ด้าน พญ.ประชุมพร กล่าวว่า ได้รับหมายเรียกจริง กรณีชุมนุมคัดค้านการย้าย นพ.ณรงค์ แต่ตอนนี้ไม่ได้มีการชุมนุมแล้ว เพียงแค่ถ่ายรูปกับป้ายคัดค้านภายในห้อง ลงโซเชียลมีเดียเท่านั้น แต่กลับถูกระบุว่ามีผลต่อความสงบเรียบร้อย ถือเป็นคำสั่งที่ไม่ค่อยเหมาะสม เหมือนเราทำความผิดแล้วต้องถูกควบคุมตัว ซึ่งส่วนตัวคิดว่าตัวเองไม่ได้ทำผิด การที่ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม ไม่ได้ทำเพื่อนพ.ณรงค์ คนเดียว แต่ทำเพื่อระบบสาธารณสุข เนื่องจากระบบการบริหารของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) มีปัญหามาก ส่งผลกระทบต่อโรงพยาบาลแทบทุกแห่ง ปัญหาขาดทุนก็เช่นกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะยังคงมายื่นหนังสือให้นายกฯ ได้หรือไม่ พญ.ประชุมพร กล่าวว่า คงต้องหารือกับทางกลุ่มก่อน แต่หลักการต้องยื่นหนังสือถึงนายกฯให้ได้ เพื่อให้ทราบถึงปัญหาสาธารณสุขอย่างแท้จริง
** ศึกหมอ ควรตั้งกก.สอบทั้งสองฝ่าย
พล.ต.หญิง พูลศรี เปาวรัตน์ ประธานชมรมพิทักษ์สิทธิข้าราชการ กล่าวถึงกรณี นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เหตุไม่ลงรอย ไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐมนตรี สธ. รวมถึงสอบกรณีกล่าวหาการใช้เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) มีความไม่ชอบมาพากล และถูกสั่งย้ายให้ไปช่วยงานราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ว่า เรื่องดังกล่าวถือว่าไม่เป็นธรรมต่อ นพ.ณรงค์ แต่คงไม่ถึงขั้นเป็นการกลั่นแกล้งข้าราชการ อย่างไรก็ตาม มองว่าเรื่องนี้เป็นความไม่เข้าใจกันในการดำเนินงานของรัฐมนตรี สธ.และปลัด สธ. ดังนั้น จึงไม่ควรตั้งสอบปลัด สธ.เพียงฝ่ายเดียว แต่ควรมีการสอบถามทั้งสองฝ่ายว่าไม่เข้าใจกันตรงไหนอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีสั่งสอบและย้ายปลัด สธ. หลายฝ่ายมองว่ามาจากการเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการใช้งบประมาณบัตรทอง ซึ่งอาจมีการใช้ผิดวัตถุประสงค์ พล.ต.หญิง พูลศรี กล่าวว่า งบประมาณบัตรทองเป็นงบประมาณแผ่นดินที่ให้เอามาตั้งกองทุนเพื่อประโยชน์ของประชาชน การที่มีผู้เรียกร้องให้ตรวจสอบเพราะเห็นว่าไม่ชอบมาพากล ก็ต้องมีการไต่สวนตรวจสอบให้แน่ชัด และรัฐมนตรี สธ.ควรเป็นตัวกลางแก้ปัญหา แต่ตนไม่ทราบว่าแรงกดดันภายในขวดกระทรวงสาธารณสุขมีแค่ไหน เหตุใดจึงเดินเรื่องออกมาเป็นเช่นนี้
"ตั้งแต่ สปสช.เข้ามาคุม สธ. และระบบสาธารณสุขกำลังล่มสลาย เห็นได้ชัดว่าทำให้คนไข้ไปแออัดในโรงพยาบาล ซึ่งตามจริงแล้วก็ไม่มีโรงพยาบาลไหนไม่อยากรักษา แต่ที่รองรับผู้ป่วยไม่พอ เกิดความแออัด ก็มาจากการขาดทุนต่อเนื่องยาวนาน จึงมีการสะท้อนความคิดเห็นออกมา และเมื่อขอให้มีการตรวจสอบว่าใช้เงินผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ ก็ต้องมีการตรวจสอบ" พล.ต.หญิง พูลศรี กล่าว
*** แบ่งงาน รองปลัด สธ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รมช.สาธารณสุข ได้เรียกหารือกับผู้บริหารระดับสูง และอธิบดีทุกกรม ที่โรงแรมพักพิงอิงทาง ถ.งามวงศ์วาน ได้มีการหารือถึงการทำงานต่างๆ
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในการประชุมดังกล่าวยังได้มีการหารือเป็นการส่วนตัวเฉพาะผู้บริหารระดับซี 10 หรืออธิบดีทุกกรม โดยระดับรองอธิบดี และรองเลขาธิการไม่อนุญาตให้อยู่ในห้องประชุม ยกเว้น นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ รองปลัด สธ. นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการ อย. และ นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ติดภารกิจดูงานต่างประเทศ และ นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดสธ.ติดภารกิจเป็นวิทยากร โดยทราบเพียงว่านอกจากกำชับเรื่องงานแล้ว ยังกำชับให้ทุกคนสงบ และเดินหน้าทำงาน ปัญหาที่ผ่านมาขอให้เริ่มนับหนึ่งช่วยกันแก้ไขและเดินหน้า เพราะทั้งหมดเป็นปัญหาระหว่างบุคคลไม่ใช่หน่วยงาน ส่วนข้อมูลข้อเท็จจริงของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไปผ่านกรรมการชุดที่ ศ.อัมมาร สยามวาลา เป็นประธาน
นอกจากนี้ ยังมีการชี้แจงประเด็นการสอบสวนข้อเท็จจริง นพ.ณรงค์ เป็นเพราะไม่ทำตามนโยบายของรัฐบาลในเรื่องที่ต้องการให้เกิดความสงบภายในหน่วยงาน แต่ที่ผ่านมาไม่ได้เป็นเช่นนั้น ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีได้พยายามไกล่เกลี่ยแล้วแต่ก็ไม่ได้ผล ทำให้งานไม่เดินหน้ามากว่า 6 เดือน ส่วนเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย ยังไม่มีทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการเดือนตุลาคม
วันเดียวกัน นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองปลัด สธ. รักษาราชการแทนปลัดสธ. ลงนามวันที่ 16 มี.ค. 2558 เรื่อง มอบอำนาจให้รองปลัด สธ. ผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มภารกิจและข้าราชการที่ได้รับมอบหมายปฏิบัติราชการแทนปลัด สธ. โดยมีการเปลี่ยนแปลงงานในกลุ่มรองปลัด สธ. ดังนี้ 1.นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดสธ.ด้านบริหาร ให้ดูแลเรื่องสำนักบริหารกลาง สถาบันพระบรมราชชนก สำนักการพยาบาล สำนักบริหารการสาธารณสุข สำนักสาธารณสุขฉุกเฉิน สำนักงานบริหารโครงการร่วมผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท สำนักสารนิเทศ และศูนย์ประสานงานโครงการพระราชดำริ 2.นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ รองปลัด สธ.กลุ่มภารกิจด้านสนับสนุนงานบริการสุขภาพ ดูแลงานสำนักการสาธารณสุขระหว่างประเทศ สภาวิชาชีพ สำนักวิชาการสาธารณสุข และสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)
3.นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองปลัด สธ.กลุ่มภารกิจด้านพัฒนาการแพทย์ เป็นผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา ดูสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล(องค์การมหาชน) และองค์การเภสัชกรรม(อภ.) และ4.นพ.อำนวย กาจีนะ รองปลัด สธ. กลุ่มภารกิจด้านพัฒนาการสาธารณสุข ดูงานสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กลุ่มตรวจสอบภายในระดับกระทรวง ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต กลุ่มประกันคุณภาพ และดูแลสถาบันวัคซีนแห่งชาติ(องค์การมหาชน) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)
*** "หมอรัชตะ" ปัดข้าราชการแอนตี้
ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหารระดับสูง อธิบดีทุกกรม และประชุมผ่านวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) และผอ.รพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไป ซึ่งไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าฟัง กล่าวว่า ไม่ได้พูดคุยเรื่องกำชับ สสจ.ให้ดูแลเรื่องการขึ้นป้ายให้กำลังใจปลัด สธ.ตามคำขอของฝ่ายความมั่นคง แต่ให้เริ่มทำงานด้วยกันไปข้างหน้า
เมื่อถามถึงกรณีลูกจ้างชั่วคราวทวงถามเรื่องการบรรจุเป็นข้าราชการรอบที่ 3 จำนวน 7,547 อัตรา ที่ สธ.ทำเรื่องเสร็จแล้ว แต่ยังค้างคาไม่มีการเสนอ ครม. ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ตนเซ็นเสนอ ครม.ไปแล้วเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน แต่ยังติดขาดรายละเอียด
ผู้สื่อข่าวถามว่าเสียใจหรือไม่ที่ผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิเสธจะทำงานด้วยกัน ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ก็ไม่มีอะไร เพราะทุกคนก็ยังทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการเดินหน้าเรื่องธรรมาภิบาล โดยเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้าย ซึ่งขณะนี้การแต่งตั้งผู้ตรวจราชการอีก 2 ตำแหน่งก็ยังไม่แล้วเสร็จ ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีความชัดเจนแน่นอน อย่างไรก็ตาม ต้องมีการแต่งตั้งในที่สุด
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิด้านการวิจัยและพัฒนางานด้านสุขภาพแห่งชาติ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำงานในสำนักนายกฯเป็นวันที่ 2 ยังคงเป็นไปด้วยดี โดยได้เข้าทำงานที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ( ก.พ.) ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล
ส่วนการที่ รมว.สาธารณสุขเรียกผู้บริหารระดับสูง อธิบดีทุกกรมเข้าหารือ เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ย้ำมาตลอดว่า สธ.จะอยู่ได้ขึ้นอยู่กับส่วนภูมิภาค เพราะระดับพื้นที่อยู่หน้างาน ปฏิบัติงานโดยตรง ไม่ต้องพะวงเรื่องอำนาจ หากภูมิภาคเข็มแข็งจะเป็นหลักให้คนสาธารณสุขได้ ขณะที่ส่วนกลางก็อาจต้องพะวงในเรื่องตำแหน่ง หน้าที่ต่างๆ เป็นเรื่องธรรมดา
เมื่อถามว่าคิดว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากคณะกรรมการตรวจสอบฯ ที่รองนายกรัฐมนตรีตั้งขึ้นหรือไม่ นพ.ณรงค์ กล่าวว่า จากรายชื่อที่เห็นตามข่าว ก็ยังคงเชื่อมั่นในระบบในความเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เห็นรายละเอียดหรือข้อกล่าวหาในการตรวจสอบตัวเองอยู่ดี
**ยงยุทธ ยันสอบข้อเท็จจริง
นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมครม. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในที่ประชุม ว่ากรณีคำสั่งให้ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีนั้น ได้มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง โดยมีปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน
ทั้งนี้คณะกรรมการดังกล่าวเป็นการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร และมีแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างไร เพื่อเสนอต่อนายกฯ และครม.ต่อไป นพ.ณรงค์ ไม่ได้ถูกปลดแต่อย่างใด เพียงแต่มีคำสั่งให้มาช่วยราชการเท่านั้น
นอกจากนี้นายกฯ ยังได้สั่งการให้นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านสังคม ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบกองทุนของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และการใช้จ่ายงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข ว่า มีการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอย่างไร หรือไม่ด้วย
**"นิพิฏฐ์"โพสต์ให้กำลังใจหมอณรงค์
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว มีเนื้อหาให้กำลังใจ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่า
" หากย้อนเวลากลับได้ ท่านปลัดณรงค์ ก็คงตัดสินใจเหมือนเดิม ปกติผมไม่ค่อยพูดถึงกระทรวงสาธารณสุขมากนัก เพราะกระทรวงนี้เขาจะมีวัฒนธรรมองค์กรของเขาต่างจากที่อื่น แต่วันนี้ต้องกล่าวถึงท่านปลัดณรงค์ เพราะตอนที่มีการชุมนุมของ มวลมหาประชาชน ท่านเป็นปลัดกระทรวงคนเดียวที่กล้าออกมาสนับสนุนการต่อสู้ของประชาชนอย่างเต็มตัว ทำให้การต่อสู้ของประชาชนได้รับกำลังสนับสนุนจากบุคลากรในกระทรวงสาธารณสุขอย่างเต็มที่ กล่าวได้ว่า ชัยชนะของประชาชนส่วนหนึ่งมาจากท่านปลัดณรงค์ แต่ในช่วงการต่อสู้ของภาคประชาชน เราไม่เห็นการต่อสู้ใดๆ ของท่านรัฐมนตรี รัชตะ รัชตะนาวิน แต่หลังยึดอำนาจ ท่านกลับบุญพาวาสนาส่ง ได้เป็นรัฐมนตรี ตอนแรกท่านจะควบ 2 ตำแหน่งเสียด้วยซ้ำ ตอนนั้นผมก็แสดงความเห็นว่า ท่านควรเลือกตำแหน่งเดียว จนมีการประท้วงคลุมปี๊บ ในมหิดล ท่านจึงลาออกจากอธิการบดี"
"ผมดูอยู่ห่างๆ แต่ก็เห็นว่า คนในกระทรวงรักท่านปลัด ผมยังไม่เห็นท่านทำอะไรผิดที่จำเป็นต้องย้ายท่านออกจากกระทรวงสาธารณสุข มีคนถามผมว่า นี่ถ้าย้อนเวลากลับได้ และรู้ว่าหลังการยึดอำนาจ ท่านจะขัดแย้งกับรัฐมนตรีที่มาจากการยึดอำนาจ และถูกย้าย ท่านจะยังคิดเหมือนเดิม คือยืนเคียงข้างประชาชน หรือไม่ ผมคิดว่าคนอย่างท่าน ก็คงยังเลือกยืนข้างประชาชน และความถูกต้อง วันที่ท่านโดดเดี่ยว ประชาชนจะยืนข้างกายท่านหรือ
** ปรับทัศนะคติ 3 หมอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ถูกตั้งคระกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีไม่ตอบสนองนโยบายรัฐบาล ไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐมนตรี สธ. พร้อมถูกสั่งย้ายไปสำนักนายกรัฐมนตรี จนข้าราชการ บุคลากร สธ.จำนวนมาก ทั้งโรงพยาบาลต่างๆ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดต่างออกมาขึ้นป้ายให้กำลังใจปลัด สธ. พร้อมสวมชุดสีดำ ปรากฏว่าบางแห่งถูกขอร้องให้ปลดป้ายลง
ล่าสุด วานนี้ (17 มี.ค.) พล.ต.มนัส หนูวัฒนา ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดสุรินทร์ ได้ลงนามวันที่ 17 มี.ค. 2558 ในหนังสือด่วนที่สุดเลขที่ คสช.(รส.)2.67/22 ส่งถึง ผอ.รพ.สุรินทร์ เรื่องขอเชิญเจ้าหน้าที่พบปะทำความเข้าใจ ระบุว่า จากข่าวสารว่าเจ้าหน้าที่ของ รพ.สุรินทร์ ประกอบด้วยกลุ่มนายแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่บางส่วน นัดชุมนุมแสดงออกเกี่ยวกับคำสั่งย้ายปลัด สธ. ในวันที่ 17 มี.ค. 2558 เวลา 11.00 น. ที่ รพ.สุรินทร์นั้น
เพื่อมิให้การแสดงออกดังกล่าวนำไปสู่ความขัดแย้งของสังคมส่วนรวม ตลอดจนความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ จึงขอความร่วมมือจากท่านให้เชิญแกนนำที่นัดหมายชุมนุม มาพบปะพูดคุยกับผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยของจังหวัดสุรินทร์ ในวันที่ 17 มี.ค. 2558 เวลา 09.30 น. ณ กองบัญชาการกองกำลังรักษาความสงบจังหวัดสุรินทร์ ค่ายวีรวัฒน์โยธิน อ.เมือง จ.สุรินทร์ ประกอบด้วย 1. พญ.ประชุมพร บูรณ์เจริญ 2. พญ.พรรณทิพย์ มูลศาสตร์สาทร 3. นพ.อิสระ อริยชัยพาณิชย์
ทั้งนี้ พญ.ประชุมพร ไม่สามารถเดินทางไปยังค่ายฯ ได้ เนื่องจากติดภารกิจตรวจคนไข้ และดูสไลด์ชิ้นเนื้อของผู้ป่วย ทหารจึงเดินทางมายังกลุ่มงานพยาธิวิทยากายวิภาค รพ.สุรินทร์ เพื่อทำความเข้าใจกับบุคลากรดังกล่าวพร้อมกันทั้งสามคน
ด้าน พญ.ประชุมพร กล่าวว่า ได้รับหมายเรียกจริง กรณีชุมนุมคัดค้านการย้าย นพ.ณรงค์ แต่ตอนนี้ไม่ได้มีการชุมนุมแล้ว เพียงแค่ถ่ายรูปกับป้ายคัดค้านภายในห้อง ลงโซเชียลมีเดียเท่านั้น แต่กลับถูกระบุว่ามีผลต่อความสงบเรียบร้อย ถือเป็นคำสั่งที่ไม่ค่อยเหมาะสม เหมือนเราทำความผิดแล้วต้องถูกควบคุมตัว ซึ่งส่วนตัวคิดว่าตัวเองไม่ได้ทำผิด การที่ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม ไม่ได้ทำเพื่อนพ.ณรงค์ คนเดียว แต่ทำเพื่อระบบสาธารณสุข เนื่องจากระบบการบริหารของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) มีปัญหามาก ส่งผลกระทบต่อโรงพยาบาลแทบทุกแห่ง ปัญหาขาดทุนก็เช่นกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะยังคงมายื่นหนังสือให้นายกฯ ได้หรือไม่ พญ.ประชุมพร กล่าวว่า คงต้องหารือกับทางกลุ่มก่อน แต่หลักการต้องยื่นหนังสือถึงนายกฯให้ได้ เพื่อให้ทราบถึงปัญหาสาธารณสุขอย่างแท้จริง
** ศึกหมอ ควรตั้งกก.สอบทั้งสองฝ่าย
พล.ต.หญิง พูลศรี เปาวรัตน์ ประธานชมรมพิทักษ์สิทธิข้าราชการ กล่าวถึงกรณี นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เหตุไม่ลงรอย ไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐมนตรี สธ. รวมถึงสอบกรณีกล่าวหาการใช้เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) มีความไม่ชอบมาพากล และถูกสั่งย้ายให้ไปช่วยงานราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ว่า เรื่องดังกล่าวถือว่าไม่เป็นธรรมต่อ นพ.ณรงค์ แต่คงไม่ถึงขั้นเป็นการกลั่นแกล้งข้าราชการ อย่างไรก็ตาม มองว่าเรื่องนี้เป็นความไม่เข้าใจกันในการดำเนินงานของรัฐมนตรี สธ.และปลัด สธ. ดังนั้น จึงไม่ควรตั้งสอบปลัด สธ.เพียงฝ่ายเดียว แต่ควรมีการสอบถามทั้งสองฝ่ายว่าไม่เข้าใจกันตรงไหนอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีสั่งสอบและย้ายปลัด สธ. หลายฝ่ายมองว่ามาจากการเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการใช้งบประมาณบัตรทอง ซึ่งอาจมีการใช้ผิดวัตถุประสงค์ พล.ต.หญิง พูลศรี กล่าวว่า งบประมาณบัตรทองเป็นงบประมาณแผ่นดินที่ให้เอามาตั้งกองทุนเพื่อประโยชน์ของประชาชน การที่มีผู้เรียกร้องให้ตรวจสอบเพราะเห็นว่าไม่ชอบมาพากล ก็ต้องมีการไต่สวนตรวจสอบให้แน่ชัด และรัฐมนตรี สธ.ควรเป็นตัวกลางแก้ปัญหา แต่ตนไม่ทราบว่าแรงกดดันภายในขวดกระทรวงสาธารณสุขมีแค่ไหน เหตุใดจึงเดินเรื่องออกมาเป็นเช่นนี้
"ตั้งแต่ สปสช.เข้ามาคุม สธ. และระบบสาธารณสุขกำลังล่มสลาย เห็นได้ชัดว่าทำให้คนไข้ไปแออัดในโรงพยาบาล ซึ่งตามจริงแล้วก็ไม่มีโรงพยาบาลไหนไม่อยากรักษา แต่ที่รองรับผู้ป่วยไม่พอ เกิดความแออัด ก็มาจากการขาดทุนต่อเนื่องยาวนาน จึงมีการสะท้อนความคิดเห็นออกมา และเมื่อขอให้มีการตรวจสอบว่าใช้เงินผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ ก็ต้องมีการตรวจสอบ" พล.ต.หญิง พูลศรี กล่าว
*** แบ่งงาน รองปลัด สธ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รมช.สาธารณสุข ได้เรียกหารือกับผู้บริหารระดับสูง และอธิบดีทุกกรม ที่โรงแรมพักพิงอิงทาง ถ.งามวงศ์วาน ได้มีการหารือถึงการทำงานต่างๆ
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในการประชุมดังกล่าวยังได้มีการหารือเป็นการส่วนตัวเฉพาะผู้บริหารระดับซี 10 หรืออธิบดีทุกกรม โดยระดับรองอธิบดี และรองเลขาธิการไม่อนุญาตให้อยู่ในห้องประชุม ยกเว้น นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ รองปลัด สธ. นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการ อย. และ นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ติดภารกิจดูงานต่างประเทศ และ นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดสธ.ติดภารกิจเป็นวิทยากร โดยทราบเพียงว่านอกจากกำชับเรื่องงานแล้ว ยังกำชับให้ทุกคนสงบ และเดินหน้าทำงาน ปัญหาที่ผ่านมาขอให้เริ่มนับหนึ่งช่วยกันแก้ไขและเดินหน้า เพราะทั้งหมดเป็นปัญหาระหว่างบุคคลไม่ใช่หน่วยงาน ส่วนข้อมูลข้อเท็จจริงของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไปผ่านกรรมการชุดที่ ศ.อัมมาร สยามวาลา เป็นประธาน
นอกจากนี้ ยังมีการชี้แจงประเด็นการสอบสวนข้อเท็จจริง นพ.ณรงค์ เป็นเพราะไม่ทำตามนโยบายของรัฐบาลในเรื่องที่ต้องการให้เกิดความสงบภายในหน่วยงาน แต่ที่ผ่านมาไม่ได้เป็นเช่นนั้น ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีได้พยายามไกล่เกลี่ยแล้วแต่ก็ไม่ได้ผล ทำให้งานไม่เดินหน้ามากว่า 6 เดือน ส่วนเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย ยังไม่มีทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการเดือนตุลาคม
วันเดียวกัน นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองปลัด สธ. รักษาราชการแทนปลัดสธ. ลงนามวันที่ 16 มี.ค. 2558 เรื่อง มอบอำนาจให้รองปลัด สธ. ผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มภารกิจและข้าราชการที่ได้รับมอบหมายปฏิบัติราชการแทนปลัด สธ. โดยมีการเปลี่ยนแปลงงานในกลุ่มรองปลัด สธ. ดังนี้ 1.นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดสธ.ด้านบริหาร ให้ดูแลเรื่องสำนักบริหารกลาง สถาบันพระบรมราชชนก สำนักการพยาบาล สำนักบริหารการสาธารณสุข สำนักสาธารณสุขฉุกเฉิน สำนักงานบริหารโครงการร่วมผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท สำนักสารนิเทศ และศูนย์ประสานงานโครงการพระราชดำริ 2.นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ รองปลัด สธ.กลุ่มภารกิจด้านสนับสนุนงานบริการสุขภาพ ดูแลงานสำนักการสาธารณสุขระหว่างประเทศ สภาวิชาชีพ สำนักวิชาการสาธารณสุข และสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)
3.นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองปลัด สธ.กลุ่มภารกิจด้านพัฒนาการแพทย์ เป็นผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา ดูสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล(องค์การมหาชน) และองค์การเภสัชกรรม(อภ.) และ4.นพ.อำนวย กาจีนะ รองปลัด สธ. กลุ่มภารกิจด้านพัฒนาการสาธารณสุข ดูงานสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กลุ่มตรวจสอบภายในระดับกระทรวง ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต กลุ่มประกันคุณภาพ และดูแลสถาบันวัคซีนแห่งชาติ(องค์การมหาชน) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)
*** "หมอรัชตะ" ปัดข้าราชการแอนตี้
ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหารระดับสูง อธิบดีทุกกรม และประชุมผ่านวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) และผอ.รพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไป ซึ่งไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าฟัง กล่าวว่า ไม่ได้พูดคุยเรื่องกำชับ สสจ.ให้ดูแลเรื่องการขึ้นป้ายให้กำลังใจปลัด สธ.ตามคำขอของฝ่ายความมั่นคง แต่ให้เริ่มทำงานด้วยกันไปข้างหน้า
เมื่อถามถึงกรณีลูกจ้างชั่วคราวทวงถามเรื่องการบรรจุเป็นข้าราชการรอบที่ 3 จำนวน 7,547 อัตรา ที่ สธ.ทำเรื่องเสร็จแล้ว แต่ยังค้างคาไม่มีการเสนอ ครม. ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ตนเซ็นเสนอ ครม.ไปแล้วเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน แต่ยังติดขาดรายละเอียด
ผู้สื่อข่าวถามว่าเสียใจหรือไม่ที่ผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิเสธจะทำงานด้วยกัน ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ก็ไม่มีอะไร เพราะทุกคนก็ยังทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการเดินหน้าเรื่องธรรมาภิบาล โดยเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้าย ซึ่งขณะนี้การแต่งตั้งผู้ตรวจราชการอีก 2 ตำแหน่งก็ยังไม่แล้วเสร็จ ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีความชัดเจนแน่นอน อย่างไรก็ตาม ต้องมีการแต่งตั้งในที่สุด