00 เวลานี้ถือว่ากระบวนการร่างรธน.ฉบับใหม่ กำลังเดินหน้าไปเรื่อยๆ และถือว่าคืบหน้าไปมากแล้ว อาจจะอยู่ในขั้นตอนท้ายๆ นั่นคือ การรับฟังความเห็นที่จะเสนอเข้ามา แต่เชื่อว่ากระบวนการยกร่างได้เสร็จสิ้นออกมาเป็นร่างฉบับแรกแล้ว ขณะเดียวกันเมื่อได้ฟังจาก กมธ.ยกร่างฯ และในฐานะหนึ่งในโฆษกฯ ที่บอกว่าการปรับเปลี่ยนแก้ไขสามารถทำได้เรื่อยๆไปจนถึงวันที่ 23 ก.ค. ซึ่งตอนนั้นต้องหยุดนิ่งปรับแก้ไม่ได้แล้ว รอเพียงให้ สปช. ชี้ขาดว่าจะรับหรือไม่รับ เท่านั้น
00 เมื่อยังไม่ตกผลึก ไม่นิ่ง มันก็ย่อมมีเสียงล้งเล้งโวยวายจากรอบข้างเข้ามาบ้าง คิดเสียว่าต่างคนต่างมีความเห็น หลายหัวดีกว่าหัวเดียว แต่ถึงอย่างไร การแสดงความเห็นมันก็น่าจะดีกว่าไปแบบเงียบๆ แล้วโผล่ออกมาให้หงายหลังกัน ดังนั้น ทุกเสียงที่เข้ามาก็ต้องรับฟัง หากต้องการให้รธน.เป็นที่ยอมรับ ลดเงื่อนไขป่วนในภายหลัง แม้ว่าจะรู้สันดาน รู้เท่าทันของบางคนบางกลุ่ม ที่เสแสร้งหวังดีแต่ประสงค์ร้าย ก็ต้องปล่อยไป ให้มันพล่ามออกมา อย่าลืมว่าผ่านมานับสิบปี คนไทยมีความเคลื่อนไหวทางการเมืองตลอดเวลา มองในแง่ดีก็ต้องถือว่า นี่คือพัฒนาการอีกแบบหนึ่ง
00 ดังนั้น การที่ นายกฯ และหัวหน้าคสช. ที่เริ่มแสดงท่าทีรำคาญ กับการออกมาแสดงความเห็นดังกล่าว พร้อมกับขู่ว่าหาก"ยังทะเลาะ"กันไม่เลิก อาจ "ล้มกระดาน" แล้วเริ่มต้นกันใหม่ เสียเวลาออกไปอีก ก็ไม่รู้ว่าเขาให้คำนิยามคำว่า "ทะเลาะ" อย่างไรกันแน่ เพราะหากหมายถึงการแสดงความเห็นเกี่ยวกับ ร่าง รธน. ที่ไม่ตรงกัน กลุ่มนั้น พรรคนั้น จะเอาแบบนั้น แบบนี้ ถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะจะว่าไปแล้ว นี่กำลังอยู่ในช่วงของการรับฟังความเห็นไม่ใช่หรือ แต่ถ้าบอกว่า นี่คือการทะเลาะกัน ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร แล้วจะให้ฟังแต่ ประธาน กมธ. บวรศักดิ์ อุวรรณโณ จนจบรายการมันก็ไม่ไหวเหมือนกัน แต่ถ้าบอกว่ากำลังทะเลาะ กำลังขัดแย้งกัน มันน่าจะเป็นความหมายของ เครือข่าย ทักษิณ ชินวัตร มากกว่า ที่กำลังสร้างความปั่นป่วนให้กับรัฐบาล และคสช. มากกว่า ถ้าจะขัดแย้งก็ต้องแยกออกมาเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับเครือข่ายทักษิณ ที่เสียผลประโยชน์มากกว่า คนอื่นเขาไม่ได้ขัดแย้งแบบนั้นสักหน่อย เหมือนกับแก๊งบึ้มศาล ก็ลองบอกมาให้ชื่นใจหน่อยสิว่า เป็นพวกไหน หรือกรณีปั่นป่วนพยาน ที่วัดปทุมวราราม ถามสักคำสิท่านนายกฯ ว่าคนพวกนี้สนับสนุนใคร !!
00 เมื่อเป็นแบบนี้ก็ไม่ต้องเฉไฉบิดเบือนออกไปเป็นเรื่องอื่น หรือทำให้เป็นความขัดแย้ง สิ่งที่ต้องทำ และยึดให้มั่นก็คือ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐบาล และ คสช.ใช้มาตรการทางกม. อย่างเคร่งครัด จัดการกับคนทำผิด เหมือนอย่างที่เคยย้ำก่อนหน้านี้ว่าต่อไปนี้ ใครทำผิดถูกฟ้องดำเนินคดีก็ไปว่ากันในศาล หลักการที่ถูกต้อง มันอยู่แค่นี้ ไม่เห็นซับซ้อนอะไร ขอเพียงแต่ว่า อย่าให้อำนาจนอกระบบไปแทรกแซงเท่านั้นเป็นพอ และในท้ายที่สุดแล้ววิธีการแบบนี้แหละ คือการสลายความขัดแย้ง (หากมี)ได้อย่างถูกต้อง !!
00 ว่ากันเรื่องรธน. ให้จบรวดเดียว เนื่องจากเวลานี้หากสำรวจจากปฏิกิริยาตอบรับความเห็นเรื่องการ "ลงประชามติ" แรงขึ้นทุกวัน ทางหนึ่งเพื่อสร้างความชอบธรรม เป็นหลักประกันทั้งในเรื่องการฉีกในอนาคต ป้องกันการป่วนของพวกนักการเมือง ที่ตัวเองเสียประโยชน์จาก รธน.ฉบับใหม่ และเมื่อฟังจากท่าทีล่าสุดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ถือว่ามีอำนาจมากที่สุดในเวลานี้ ก็เริ่มโอนอ่อน ส่อไปในทางนั้นบอกว่าจะตัดสินใจอีกครั้งในช่วงใกล้เวลา แต่ทีนี้ตามความเป็นจริง เมื่อมีการลงประชามติ ก็ต้องยืดเวลาเลือกตั้งออกไปอีกอย่างน้อยสามเดือน จากเดิมที่กำหนดคร่าวๆ ว่าจะเลือกตั้งกลางปีหน้า ก็จะยืดไปเป็นปลายปีหน้า และที่สำคัญ "ลุงตู่" ของเรา ก็จะต้องอยู่ต่อไปอีกพักใหญ่ ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม นะพี่น้อง !!
00 ชอบใจคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ตอกหน้าแง "อ้ายปึ้ง" สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ที่กะออกมาพูดเอาหล่อ ว่าหากรธน.ฉบับที่กำลังยกร่างกันอยู่ มีเนื้อหาไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่เคารพประชาชน เขาก็จะเว้นวรรคทางการเมืองชั่วคราว ว่า "ขอให้จริงเถอะ" ซึ่งถ้าให้ดี น่าจะเลิกแบบถาวรไปเลย !!
00 เมื่อยังไม่ตกผลึก ไม่นิ่ง มันก็ย่อมมีเสียงล้งเล้งโวยวายจากรอบข้างเข้ามาบ้าง คิดเสียว่าต่างคนต่างมีความเห็น หลายหัวดีกว่าหัวเดียว แต่ถึงอย่างไร การแสดงความเห็นมันก็น่าจะดีกว่าไปแบบเงียบๆ แล้วโผล่ออกมาให้หงายหลังกัน ดังนั้น ทุกเสียงที่เข้ามาก็ต้องรับฟัง หากต้องการให้รธน.เป็นที่ยอมรับ ลดเงื่อนไขป่วนในภายหลัง แม้ว่าจะรู้สันดาน รู้เท่าทันของบางคนบางกลุ่ม ที่เสแสร้งหวังดีแต่ประสงค์ร้าย ก็ต้องปล่อยไป ให้มันพล่ามออกมา อย่าลืมว่าผ่านมานับสิบปี คนไทยมีความเคลื่อนไหวทางการเมืองตลอดเวลา มองในแง่ดีก็ต้องถือว่า นี่คือพัฒนาการอีกแบบหนึ่ง
00 ดังนั้น การที่ นายกฯ และหัวหน้าคสช. ที่เริ่มแสดงท่าทีรำคาญ กับการออกมาแสดงความเห็นดังกล่าว พร้อมกับขู่ว่าหาก"ยังทะเลาะ"กันไม่เลิก อาจ "ล้มกระดาน" แล้วเริ่มต้นกันใหม่ เสียเวลาออกไปอีก ก็ไม่รู้ว่าเขาให้คำนิยามคำว่า "ทะเลาะ" อย่างไรกันแน่ เพราะหากหมายถึงการแสดงความเห็นเกี่ยวกับ ร่าง รธน. ที่ไม่ตรงกัน กลุ่มนั้น พรรคนั้น จะเอาแบบนั้น แบบนี้ ถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะจะว่าไปแล้ว นี่กำลังอยู่ในช่วงของการรับฟังความเห็นไม่ใช่หรือ แต่ถ้าบอกว่า นี่คือการทะเลาะกัน ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร แล้วจะให้ฟังแต่ ประธาน กมธ. บวรศักดิ์ อุวรรณโณ จนจบรายการมันก็ไม่ไหวเหมือนกัน แต่ถ้าบอกว่ากำลังทะเลาะ กำลังขัดแย้งกัน มันน่าจะเป็นความหมายของ เครือข่าย ทักษิณ ชินวัตร มากกว่า ที่กำลังสร้างความปั่นป่วนให้กับรัฐบาล และคสช. มากกว่า ถ้าจะขัดแย้งก็ต้องแยกออกมาเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับเครือข่ายทักษิณ ที่เสียผลประโยชน์มากกว่า คนอื่นเขาไม่ได้ขัดแย้งแบบนั้นสักหน่อย เหมือนกับแก๊งบึ้มศาล ก็ลองบอกมาให้ชื่นใจหน่อยสิว่า เป็นพวกไหน หรือกรณีปั่นป่วนพยาน ที่วัดปทุมวราราม ถามสักคำสิท่านนายกฯ ว่าคนพวกนี้สนับสนุนใคร !!
00 เมื่อเป็นแบบนี้ก็ไม่ต้องเฉไฉบิดเบือนออกไปเป็นเรื่องอื่น หรือทำให้เป็นความขัดแย้ง สิ่งที่ต้องทำ และยึดให้มั่นก็คือ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐบาล และ คสช.ใช้มาตรการทางกม. อย่างเคร่งครัด จัดการกับคนทำผิด เหมือนอย่างที่เคยย้ำก่อนหน้านี้ว่าต่อไปนี้ ใครทำผิดถูกฟ้องดำเนินคดีก็ไปว่ากันในศาล หลักการที่ถูกต้อง มันอยู่แค่นี้ ไม่เห็นซับซ้อนอะไร ขอเพียงแต่ว่า อย่าให้อำนาจนอกระบบไปแทรกแซงเท่านั้นเป็นพอ และในท้ายที่สุดแล้ววิธีการแบบนี้แหละ คือการสลายความขัดแย้ง (หากมี)ได้อย่างถูกต้อง !!
00 ว่ากันเรื่องรธน. ให้จบรวดเดียว เนื่องจากเวลานี้หากสำรวจจากปฏิกิริยาตอบรับความเห็นเรื่องการ "ลงประชามติ" แรงขึ้นทุกวัน ทางหนึ่งเพื่อสร้างความชอบธรรม เป็นหลักประกันทั้งในเรื่องการฉีกในอนาคต ป้องกันการป่วนของพวกนักการเมือง ที่ตัวเองเสียประโยชน์จาก รธน.ฉบับใหม่ และเมื่อฟังจากท่าทีล่าสุดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ถือว่ามีอำนาจมากที่สุดในเวลานี้ ก็เริ่มโอนอ่อน ส่อไปในทางนั้นบอกว่าจะตัดสินใจอีกครั้งในช่วงใกล้เวลา แต่ทีนี้ตามความเป็นจริง เมื่อมีการลงประชามติ ก็ต้องยืดเวลาเลือกตั้งออกไปอีกอย่างน้อยสามเดือน จากเดิมที่กำหนดคร่าวๆ ว่าจะเลือกตั้งกลางปีหน้า ก็จะยืดไปเป็นปลายปีหน้า และที่สำคัญ "ลุงตู่" ของเรา ก็จะต้องอยู่ต่อไปอีกพักใหญ่ ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม นะพี่น้อง !!
00 ชอบใจคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ตอกหน้าแง "อ้ายปึ้ง" สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ที่กะออกมาพูดเอาหล่อ ว่าหากรธน.ฉบับที่กำลังยกร่างกันอยู่ มีเนื้อหาไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่เคารพประชาชน เขาก็จะเว้นวรรคทางการเมืองชั่วคราว ว่า "ขอให้จริงเถอะ" ซึ่งถ้าให้ดี น่าจะเลิกแบบถาวรไปเลย !!
