ASTVผู้จัดการรายวัน - 3 สมาคมอสังหาฯ แจงผลสรุปการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 32 ระบุประสบความสำเร็จเกินคาด เผยยอดผู้ลงทะเบียนชมงานมากกว่าแสนราย ด้านยอดขายที่อยู่อาศัยในงานทะลุ 3,000 ล้านบาท ขณะที่ยอดขอสินเชื่อภายในงานเพิ่มขึ้นกว่า 30,000 ล้านบาท
นายอารีศักดิ์ เสถียรภาพอยุทธ์ ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 32 กล่าวว่า งานมหกรรมบ้านและคอนโดในครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของ 3 สมาคมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ซึ่งได้จัดงานดังกล่าวขึ้นในทุกๆ ปี โดยในปี 58 มีผู้ประกอบการกว่า 200 ราย ที่นำโครงการที่อยู่อาศัยทุกรูปแบบจากทำเลเด่นทั่วประเทศมานำเสนอขายมากกว่า 600 โครงการ พร้อมจัดโปรโมชัน ประกอบกับได้รับความร่วมมือจากสถาบันการเงิน ซึ่งเข้ามาร่วมออกบูทให้บริการด้านสินเชื่อ ส่งผลให้การจัดงานในปีนี้ประสบความสำเร็จเกิดคาด
โดยในงานดังกล่าวมีผู้ลงทะเบียนเข้าชมงานมากกว่าแสนราย เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อน ขณะที่ในด้านของยอดขายที่อยู่อาศัยในงานนั้นก็ประสบความสำเร็จด้วยดีโดยมียอดขายในงานกว่า 3,000 ล้านบาท ขณะที่ในด้านการยื่นขอสินเชื่อในงานก็มียอดการยื่นขอสินเชื่อสูงถึง 30,000 ล้านบาท สูงกว่าการจัดงานในครั้งที่ผ่านๆ มา แม้ว่าภาวะกำลังซื้อของลูกค้าในตลาดปัจจุบันจะได้รับผลกระทบจากภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังรัฐประหารและหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น แต่ความสำเร็จในงานที่เกิดขึ้นก็สะท้อนให้เห็นว่าตลาดยังคงมีดีมานด์ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ โครงการที่อยู่อาศัยที่ได้รับความสนใจจองซื้อมากที่สุด เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตที่จองซื้อในงานมหกรรมฯ ครั้งนี้ ยังคงเป็นคอนโดมิเนียมในสัดส่วน 74.93% รองลงมาเป็นบ้านเดี่ยว 13.80% ทาวน์เฮ้าส์ 10.14% ที่เหลือเป็นสินค้าประเภทบ้านแฝด และอื่นๆ 1.13% อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังจากจบงานจะมียอดขายตามมาอีก 2-3 เท่าตัว
นายอารีศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับผลสรุปข้อมูลจากการสำรวจภายในงานพบว่า ผู้เข้าชมงานกว่า 36.92% เป็นผู้ที่เคยมาเข้าชมงานในครั้งก่อน และอีกประมาณ 63.08% เป็นผู้เข้าชมงานมหกรรมเป็นครั้งแรก ผู้เข้าชมงานกว่า 55.64% มีอาชีพเป็นพนักงานเอกชน รองลงมาอาชีพเจ้าของกิจการ 11.08% ที่เหลือมีอาชีพรับราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และค้าขายอิสระในสัดส่วนใกล้เคียงกัน
ด้านรายได้ส่วนตัวต่อเดือน พบว่าส่วนใหญ่มีรายได้อยู่ระหว่างไม่เกิน 30,000 บาท 44.20% มีรายได้ระหว่าง 30,000-50,000 บาท 30.15 % และมีรายได้เกิน 50,000 บาท 10.20% นอกจากนี้ ผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่ 86.98% ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ โดยมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯกว่า 60.34% รองลงมา จังหวัดนนทบุรี ประมาณ 11.60% และ 5 จังหวัดปริมณฑล ประมาณ 14% ลักษณะที่อยู่อาศัยในปัจจุบันของผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยว 36.98% ทาวน์เฮ้าส์ 16.64% คอนโดมิเนียม 14.97% ที่เหลือเป็นหอพัก, แฟลต, อพาร์ตเมนต์ ในสัดส่วนใกล้เคียงกัน คือ 17.05%
ส่วนประเภทที่อยู่อาศัยที่จะซื้อในอนาคต 86.98% ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ และ 13.02% เป็นบ้านมือ 2
ระยะเวลาที่ต้องการซื้อในอนาคต 1-2 ปี 21.54% ระยะเวลา 6-12 เดือน 19.38% และระยะเวลา 1-3 เดือน 11.84%
ด้านผลสำรวจด้านงบประมาณในการซื้อที่อยู่อาศัยแต่ละประเภทเรียงลำดับตามความต้องการ คือ ความต้องการที่อยู่อาศัยระดับราคา 1-2 ล้านบาท 36.33% ราคา 2-3 ล้านบาท 25.49% ราคา 3-4 ล้านบาท 15.44% และราคา 4-6 ล้านบาท 9.01% และราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท 9.01%
“สำหรับงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 33 ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้มีกำหนดจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-11 ตุลาคม 2558 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์”
นายอารีศักดิ์ เสถียรภาพอยุทธ์ ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 32 กล่าวว่า งานมหกรรมบ้านและคอนโดในครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของ 3 สมาคมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ซึ่งได้จัดงานดังกล่าวขึ้นในทุกๆ ปี โดยในปี 58 มีผู้ประกอบการกว่า 200 ราย ที่นำโครงการที่อยู่อาศัยทุกรูปแบบจากทำเลเด่นทั่วประเทศมานำเสนอขายมากกว่า 600 โครงการ พร้อมจัดโปรโมชัน ประกอบกับได้รับความร่วมมือจากสถาบันการเงิน ซึ่งเข้ามาร่วมออกบูทให้บริการด้านสินเชื่อ ส่งผลให้การจัดงานในปีนี้ประสบความสำเร็จเกิดคาด
โดยในงานดังกล่าวมีผู้ลงทะเบียนเข้าชมงานมากกว่าแสนราย เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อน ขณะที่ในด้านของยอดขายที่อยู่อาศัยในงานนั้นก็ประสบความสำเร็จด้วยดีโดยมียอดขายในงานกว่า 3,000 ล้านบาท ขณะที่ในด้านการยื่นขอสินเชื่อในงานก็มียอดการยื่นขอสินเชื่อสูงถึง 30,000 ล้านบาท สูงกว่าการจัดงานในครั้งที่ผ่านๆ มา แม้ว่าภาวะกำลังซื้อของลูกค้าในตลาดปัจจุบันจะได้รับผลกระทบจากภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังรัฐประหารและหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น แต่ความสำเร็จในงานที่เกิดขึ้นก็สะท้อนให้เห็นว่าตลาดยังคงมีดีมานด์ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ โครงการที่อยู่อาศัยที่ได้รับความสนใจจองซื้อมากที่สุด เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตที่จองซื้อในงานมหกรรมฯ ครั้งนี้ ยังคงเป็นคอนโดมิเนียมในสัดส่วน 74.93% รองลงมาเป็นบ้านเดี่ยว 13.80% ทาวน์เฮ้าส์ 10.14% ที่เหลือเป็นสินค้าประเภทบ้านแฝด และอื่นๆ 1.13% อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังจากจบงานจะมียอดขายตามมาอีก 2-3 เท่าตัว
นายอารีศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับผลสรุปข้อมูลจากการสำรวจภายในงานพบว่า ผู้เข้าชมงานกว่า 36.92% เป็นผู้ที่เคยมาเข้าชมงานในครั้งก่อน และอีกประมาณ 63.08% เป็นผู้เข้าชมงานมหกรรมเป็นครั้งแรก ผู้เข้าชมงานกว่า 55.64% มีอาชีพเป็นพนักงานเอกชน รองลงมาอาชีพเจ้าของกิจการ 11.08% ที่เหลือมีอาชีพรับราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และค้าขายอิสระในสัดส่วนใกล้เคียงกัน
ด้านรายได้ส่วนตัวต่อเดือน พบว่าส่วนใหญ่มีรายได้อยู่ระหว่างไม่เกิน 30,000 บาท 44.20% มีรายได้ระหว่าง 30,000-50,000 บาท 30.15 % และมีรายได้เกิน 50,000 บาท 10.20% นอกจากนี้ ผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่ 86.98% ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ โดยมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯกว่า 60.34% รองลงมา จังหวัดนนทบุรี ประมาณ 11.60% และ 5 จังหวัดปริมณฑล ประมาณ 14% ลักษณะที่อยู่อาศัยในปัจจุบันของผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยว 36.98% ทาวน์เฮ้าส์ 16.64% คอนโดมิเนียม 14.97% ที่เหลือเป็นหอพัก, แฟลต, อพาร์ตเมนต์ ในสัดส่วนใกล้เคียงกัน คือ 17.05%
ส่วนประเภทที่อยู่อาศัยที่จะซื้อในอนาคต 86.98% ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ และ 13.02% เป็นบ้านมือ 2
ระยะเวลาที่ต้องการซื้อในอนาคต 1-2 ปี 21.54% ระยะเวลา 6-12 เดือน 19.38% และระยะเวลา 1-3 เดือน 11.84%
ด้านผลสำรวจด้านงบประมาณในการซื้อที่อยู่อาศัยแต่ละประเภทเรียงลำดับตามความต้องการ คือ ความต้องการที่อยู่อาศัยระดับราคา 1-2 ล้านบาท 36.33% ราคา 2-3 ล้านบาท 25.49% ราคา 3-4 ล้านบาท 15.44% และราคา 4-6 ล้านบาท 9.01% และราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท 9.01%
“สำหรับงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 33 ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้มีกำหนดจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-11 ตุลาคม 2558 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์”