xs
xsm
sm
md
lg

มหกรรมบ้านฯ ยอดขายทะลัก 4.5 พันล้าน คอนโดแชมป์กว่า 75%-มองหาที่อยู่ใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปรีชา กุลไพศาลธรรม
ปิดฉากงานด้านอสังหาฯ อย่างยิ่งใหญ่ ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 31 ตลอดงาน 4 วัน ยอดขายในงานไม่ต่ำกว่า 4,500 ล้านบาท เผยยอดจองเพิ่มขึ้นกว่า 20% แม้ยอดผู้เข้าชมงานจะลดลง 20% สะท้อนเป็นกลุ่มผู้ซื้อจริงที่ต้องการที่อยู่อาศัย คอนโดฯ แชมป์ยอดจองกว่า 75.89% บ้านเดี่ยว 14.12% กว่า 57% เป็นครั้งแรกที่เข้าชมงาน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพนักงานบริษัทเอกชน โดย 43% มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท งบลงทุนซื้อที่อยู่อาศัยมากสุด 1-2 ล้านบาท ระยะเวลาในการซื้อ 1-2 ปีประมาณ 24% ทำเลกรุงเทพฯ เป็นที่ต้องการสูงสุด 61% รองลงมา จ.นนทบุรี 11%

หลังจากที่ 3 สมาคม โดย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอาคารชุดไทย จับมือร่วมกันจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 31 เมื่อวันที่ 9-12 ตุลาคม 2557 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ที่ผ่านมา โดยภายในงานได้รวบรวมผู้ประกอบการ 200 ราย ระดมโครงการที่อยู่อาศัยทุกรูปแบบมาแสดงพร้อมเปิดตัวสินค้าโครงการใหม่ พร้อมกับการบริการสินเชื่อจากสถาบันการเงินชั้นนำเกือบทุกแห่งต่างงัดกลยุทธ์ดึงดูดลูกค้า หวังกระตุ้นตลาดอสังหาฯ ช่วงไตรมาสสุดท้าย ภายใต้คอนเซปต์ “ที่สุดกับทุกความต้องการที่อยู่อาศัย” ถือเป็นการตอกย้ำความครบครันเรื่องที่อยู่อาศัยทุกประเภท ทุกที่ ทุกทำเล ทุกราคา กว่า 600 โครงการ

นายปรีชา กุลไพศาลธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 31 เปิดเผยว่า การจัดงานครั้งนี้ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มียอดผู้เข้าชมงานตลอด 4 วัน เมื่อเปรียบเทียบกับครั้งก่อนที่มีกว่า 1 แสนคน ถึงแม้ว่าการจัดงานครั้งนี้จำนวนผู้ชมงานจะลดลงประมาณ 20% อันเนื่องจากในช่วงเดียวกันภายในศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีเพียงงานมหกรรมฯ ครั้งที่ 31 ต่างกับการจัดงานหลายครั้งที่ผ่านมา จะมีพันธมิตรอื่นร่วมจัดงานภายในศูนย์สิริกิติ์ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ยอดจองซื้อที่อยู่อาศัยภายในงานครั้งนี้ไม่ได้ลดลงแต่กลับเพิ่มขึ้นกว่า 20%

ด้านยอดขายในงาน โครงการที่อยู่อาศัยที่ได้รับความสนใจจองซื้อมากที่สุด เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตที่จองซื้อในงานมหกรรมฯ ครั้งที่ 31 ยังคงเป็นสินค้าประเภท คอนโดมิเนียมกว่าร้อยละ 75.89 ลองลงมาเป็นบ้านเดี่ยวร้อยละ 14.12 ทาวน์เฮ้าส์ร้อยละ 8.47 ที่เหลือเป็นสินค้าประเภทบ้านแฝดและอื่นๆ ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน และคาดว่าหลังจากจบงานจะมียอดขายตามมาอีกจำนวนหนึ่ง เมื่อรวมกับยอดขายในงานไม่น่าจะต่ำกว่า 4.5 พันล้านบาท

แม้ว่ายอดคนเดินในงานจะลดลง แต่ยอดขายกลับไม่ได้ลดลงและมีอัตราเติบโตกว่าครั้งที่แล้ว แสดงว่ากลุ่มคนเดินงานเป็นกลุ่มคนที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง ย่อมเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความมั่นใจต่อสภาพตลาดและความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคได้ทางหนึ่ง

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่มาร่วมออกบูท ต่างแข่งขันกันจัดแคมเปญลดแลกแจกแถมและนำเสนอโปรโมชันพิเศษมาสร้างแรงดึงดูดความสนใจของลูกค้ากันอย่างคึกคัก รวมถึงงัดกลยุทธ์ด้านการให้บริการสินเชื่อจากสถาบันการเงินต่างๆ เป็นอีกปัจจัยที่สามารถสร้างแรงจูงใจลูกค้าให้เกิดการตัดสินใจซื้ออีกทางหนึ่งด้วย

ด้านการประมวลผลข้อมูลผู้ลงทะเบียนเข้าชมงาน สามารถระบุได้ว่า ผู้เข้าชมงานกว่า 43% เป็นผู้ที่เคยมาเข้าชมงานในครั้งก่อน และอีกประมาณ 57% เป็นผู้เข้าชมงานมหกรรมเป็นครั้งแรก ผู้เข้าชมงานกว่า 55% มีอาชีพเป็นพนักงานเอกชน รองลงมาอาชีพเจ้าของกิจการ 12% ที่เหลือมีอาชีพรับราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และค้าขายอิสระในสัดส่วนใกล้เคียงกัน

ด้านรายได้ส่วนตัวต่อเดือน พบว่าส่วนใหญ่มีรายได้อยู่ระหว่างไม่เกิน 30,000 บาท 43% มีรายได้ระหว่าง 30,000-50,000 บาท 31% และมีรายได้เกิน 50,000 บาท 10 % นอกจากนี้ ผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่ 87% ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ โดยมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานคร กว่า 61% รองลงมา นนทบุรี ประมาณ 11% และ 5 จังหวัดปริมณฑล ประมาณ 6% ลักษณะที่อยู่อาศัยในปัจจุบันของผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยว 36% ทาวน์เฮ้าส์ 17% คอนโดมิเนียม 16% ที่เหลือเป็นหอพัก, แฟลต, อพาร์ตเมนต์ ในสัดส่วนใกล้เคียงกัน คือ 4-6%

ส่วนประเภทที่อยู่อาศัยที่จะซื้อในอนาคต 87% ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ และ 13% เป็นบ้านมือ 2 ระยะเวลาที่ต้องการซื้อในอนาคต 1-2 ปี 24% ระยะเวลา 6-12 เดือน 18% และระยะเวลา 1-3 เดือน 15% ด้านผลสำรวจด้านงบประมาณในการซื้อที่อยู่อาศัยแต่ละประเภทเรียงลำดับตามความต้องการ คือ ความต้องการที่อยู่อาศัย ระดับราคา 1-2 ล้านบาท 36% ราคา 2-3 ล้านบาท 26% ราคา 3-4 ล้านบาท 15% และราคา 4-6 ล้านบาท 10% และราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท 8%.

 

กำลังโหลดความคิดเห็น