อัยการได้มีคำสั่งฟ้องพ่อแม่ อดีตหม่อมศรีรัศมิ์แล้ว ในข้อหาร้ายแรง แอบอ้างเบื้องสูง กลั่นแกล้งให้ติดคุก โดยคัดค้านการประกันตัว เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยาน
เมื่อเวลา 16. 00 น.วันที่ 10 มี.ค. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางวันทนีย์ สุวะดี อายุ 66 ปี และนายอภิรุจ สุวะดี อายุ 72 ปี มารดา และบิดา ของท่านผู้หญิง ศรีรัศมิ์ สุวะดี เป็นจำเลยที่ 1-2ในความผิดฐานร่วมกัน หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
โดยอัยการโจทก์ระบุพฤติการณ์ความผิดจำเลยสรุปว่าก่อนเกิดเหตุคดีนี้ น.ส.แสงระวี มณีจันทร์ ได้แอบอ้างว่ารู้จักกับจำเลยที่ 2 ซึ่งต่อมา มีเหตุชาวบ้านในเขต ต.วัดเพลง อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี โจษขานกันว่า น.ส.แสงระวีมีความสัมพันธ์ ชู้สาวกับจำเลยที่ 2 ที่ให้การอุปการะเลี้ยงดูกัน และเมื่อจำเลยที่ 1 ทราบข่าวได้เกิดความไม่พอใจ น.ส. แสงระวี กระทั่งวันที่ 19 ธ.ค. 46 จำเลยทั้งสองได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปนำเอาตัว น.ส.แสงระวี รวมทั้งบิดา มารดา และญาติมาพบกับจำเลยทั้งสองที่บ้านพักในจ.ราชบุรี แล้วจำเลยทั้งสองก็ได้ร่วมกัน หมิ่นประมาทและดูหมิ่นต่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมารซึ่งเป็นองค์รัชทายาท โดยคำพูดสื่อความหมายให้เข้าใจว่า เรื่องดังกล่าวได้มีการกราบทูลสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงทราบแล้ว เรื่องจะรุนแรงมากขึ้น และ น.ส.แสงระวีจะต้องรับโทษอย่างหนักซึ่งทำให้ น.ส.แสงระวี และครอบครัวเกิดความเกรงกลัว จากนั้น จำเลยทั้งสองได้ให้เจ้าพนักงานตำรวจนำตัว น.ส. แสงระวีไปดำเนินคดีฐานฉ้อโกง ซึ่งด้วยความเกรงกลัว น.ส.แสงระวี จึงได้จำยอมให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา และถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 24 เดือน
การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการแสวงหาประโยชน์เพื่อข่มขู่และกลั่นแกล้งผู้อื่นและเสื่อมเสียพระเกียรติยศต่อองค์รัชทายาท ต่อมาวันที่ 9 ก.พ.48 เจ้าพนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาภายหลังจำเลยทั้งสองเข้ามอบตัวในชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ เหตุเกิดที่ต.วัดเพลง และอ.วัดเพลง จ.ราชบุรี
ท้ายคำฟ้องพนักงานอัยการโจทก์ได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัวจำเลยทั้ง สองด้วย เนื่องจากเกรงว่าหากปล่อยชั่วคราวจำเลยจะไปยุ่งกับพยานหลักฐานและเป็นคดีสำคัญที่เป็นความผิดต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี และองค์รัชทายาท ซึ่งมีอัตราโทษสูงจึงเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี
โดยศาลได้ประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.838/2558 และให้เบิกตัวจำเลยทั้งสองจากทัณฑสถานหญิงกลาง บางเขน และเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาเพื่อสอบคำให้การในวันที่ 11 มี.ค. เวลา 9.00 น.
เมื่อเวลา 16. 00 น.วันที่ 10 มี.ค. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางวันทนีย์ สุวะดี อายุ 66 ปี และนายอภิรุจ สุวะดี อายุ 72 ปี มารดา และบิดา ของท่านผู้หญิง ศรีรัศมิ์ สุวะดี เป็นจำเลยที่ 1-2ในความผิดฐานร่วมกัน หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
โดยอัยการโจทก์ระบุพฤติการณ์ความผิดจำเลยสรุปว่าก่อนเกิดเหตุคดีนี้ น.ส.แสงระวี มณีจันทร์ ได้แอบอ้างว่ารู้จักกับจำเลยที่ 2 ซึ่งต่อมา มีเหตุชาวบ้านในเขต ต.วัดเพลง อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี โจษขานกันว่า น.ส.แสงระวีมีความสัมพันธ์ ชู้สาวกับจำเลยที่ 2 ที่ให้การอุปการะเลี้ยงดูกัน และเมื่อจำเลยที่ 1 ทราบข่าวได้เกิดความไม่พอใจ น.ส. แสงระวี กระทั่งวันที่ 19 ธ.ค. 46 จำเลยทั้งสองได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปนำเอาตัว น.ส.แสงระวี รวมทั้งบิดา มารดา และญาติมาพบกับจำเลยทั้งสองที่บ้านพักในจ.ราชบุรี แล้วจำเลยทั้งสองก็ได้ร่วมกัน หมิ่นประมาทและดูหมิ่นต่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมารซึ่งเป็นองค์รัชทายาท โดยคำพูดสื่อความหมายให้เข้าใจว่า เรื่องดังกล่าวได้มีการกราบทูลสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงทราบแล้ว เรื่องจะรุนแรงมากขึ้น และ น.ส.แสงระวีจะต้องรับโทษอย่างหนักซึ่งทำให้ น.ส.แสงระวี และครอบครัวเกิดความเกรงกลัว จากนั้น จำเลยทั้งสองได้ให้เจ้าพนักงานตำรวจนำตัว น.ส. แสงระวีไปดำเนินคดีฐานฉ้อโกง ซึ่งด้วยความเกรงกลัว น.ส.แสงระวี จึงได้จำยอมให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา และถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 24 เดือน
การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการแสวงหาประโยชน์เพื่อข่มขู่และกลั่นแกล้งผู้อื่นและเสื่อมเสียพระเกียรติยศต่อองค์รัชทายาท ต่อมาวันที่ 9 ก.พ.48 เจ้าพนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาภายหลังจำเลยทั้งสองเข้ามอบตัวในชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ เหตุเกิดที่ต.วัดเพลง และอ.วัดเพลง จ.ราชบุรี
ท้ายคำฟ้องพนักงานอัยการโจทก์ได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัวจำเลยทั้ง สองด้วย เนื่องจากเกรงว่าหากปล่อยชั่วคราวจำเลยจะไปยุ่งกับพยานหลักฐานและเป็นคดีสำคัญที่เป็นความผิดต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี และองค์รัชทายาท ซึ่งมีอัตราโทษสูงจึงเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี
โดยศาลได้ประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.838/2558 และให้เบิกตัวจำเลยทั้งสองจากทัณฑสถานหญิงกลาง บางเขน และเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาเพื่อสอบคำให้การในวันที่ 11 มี.ค. เวลา 9.00 น.
