xs
xsm
sm
md
lg

สองน่องท่อง “ระนอง” สตรีทไบค์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“แผนที่เล็กๆ สักเล่ม จักรยานดีๆ สักคัน ก็เพียงพอแล้วสำหรับเสพสัมผัสเมืองทั้งเมืองให้ลึกซึ้งถึงแก่น”
 
ประโยคขั้นต้นอาจเป็นเพียงความฝันลมๆแล้งๆ ของบรรดานักปั่นจักรยาน ทว่า มันจะเกิดขึ้นจริง แค่คุณมารู้จักกับที่นี่... “ระนอง”

 
ด้วยภูมิศาสตร์ของจังหวัดเป็นเพียงเมืองเล็กๆ ล้อมด้วยภูเขา จึงทำให้ “ระนอง”กลายเป็นเมืองแห่งการปั่นจักรยานที่คนรักจักรยาน และรักการถ่ายภาพไม่ควรพลาด เพราะนอกจากจะประหยัดเวลา สามารถชิมรสชาติของเมืองทั้งเมืองได้ครบภายในเวลาอันสั้น นักปั่นยังสามารถกำหนดเส้นทางในการเดินทางด้วยจักรยานได้หลายประเภทอีกด้วย

 
และหลังจากที่ทีม Feel Good ได้ทดลองปั่นด้วยตัวเอง จึงพบว่า เส้นทางจักรยานหลักๆ ของจังหวัดระนองถูกแบ่งออกเป็น 3 สาย ซึ่งแต่ละสาย ล้วนมีมนต์เสน่ห์ที่ต่างกัน เช่นสายแรก เรียกได้ว่า หากคุณเป็นนักปั่นเสือภูเขาตัวจริง และชอบพื้นที่เขตภูเขา ก็ต้องห้ามพลาดถนนเกรี้ยวกราดเส้นนี้ โดยจุดสตาร์ทเริ่มที่ ตลาดใจกลางตัวเมือง ปั่นตัดผ่านถนนเทศบาลเมือง ออกไปยังถนนหลักเส้นเพชรเกษม ซึ่งก่อนออกนอกตัวเมืองจะผ่านเนินเขาลาดชัน 2 ลูก อย่าง เนินบางนอน และเนินน้ำตก เพื่อเป็นการวอร์มกำลังขาไปในตัว จากนั้นมุ่งหน้าไปอีกประมาณ 15 กิโลเมตร ก็จะพบกับปากทางขึ้นไปยังภูเขาสถานีวิทยุโทรทัศน์ หรือที่ชาวชมรมกีฬาจักรยานในจังหวัดเรียกขานกันว่า “ภูเขาปราบเซียน” ระยะทางโดยรวม ตั้งแต่ตีนเขา จนถึงจุดหมาย จะอยู่ที่ราวๆ 30 กิโลเมตร.เป็นแนวชัน พื้นที่ 70 เปอร์เซ็นต์เป็นถนนลูกรัง และภูเขาลูกนี้มักถูกใช้เป็นสถานที่ซ้อมก่อนลงแข่งขัน ของบรรดานักกีฬาจักรยานในจังหวัด
 
แม้จะเหนื่อยล้าแสนสาหัสสำหรับการไต่ขึ้นสู่ยอด ทว่าทันทีที่ขึ้นไปถึงปลายทาง รางวัลชิ้นสำคัญที่นักปั่นทุกคนจะได้รับเหมือนกัน นั่นก็คือ รู้ซึ้งถึงคุณค่าในความหมาย ของการไปถึงจุดหมาย
 
ต่อมาเส้นที่ 2 คือ ถนนทางเรียบ โดยจะเริ่มจากตลาดในตัวเมือง มุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานขนส่งสนามบินจังหวัดระนอง ระยะทางเฉลี่ยไป - กลับ อยู่ที่ 36 กิโลเมตร ต้องบอกเลยว่า ถนนสายนี้คือสวรรค์ของนักปั่นที่รักความเร็วเป็นชีวิตจิตใจขนานแท้ เพราะมีปัจจัยเรื่องความกว้างของเลนถนนมาช่วย จึงทำให้รู้สึกปลอดภัย ไม่ต้องมัวพะวงกับรถใหญ่ ฉะนั้นจักรยานที่นิยมใช้กันบนถนนสายนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเสือหมอบ และไฮบริด 
 
ที่สำคัญ ถนนเส้นนี้ ยังผ่านจุดท่องเที่ยวสำคัญๆ ของจังหวัดให้สิงห์นักปั่นทุกคนแวะลงไปเซลฟีไปอวดเพื่อนอย่าง ภูเขาหญ้า และน้ำตกหงาวอีกด้วย

 
ถัดมาที่ตัวเลือกสุดท้าย คือ “เส้นอันดามัน” ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ค้นพบ แต่มันเกิดมาเพื่อเป็นทางให้จักรยานประเภททัวริ่งจริงๆ ลองคิดดูเล่นๆ กันนะ ถ้าจังหวะหมุนเอื่อยช้าของวงล้อ ค่อยๆ พาเราเข้าไปสู่มุมที่ลมทิศใต้พัดผ่านเย็นๆ สองข้างทางเป็นฉากน้ำทะเลสีมรกต สุดปลายทางเห็นพระอาทิตย์กำลังดำดิ่งลงทะเลไปต่อหน้าต่อตา จะฟินขนาดไหน แต่มาถึงที่นี่ คุณจะได้สัมผัสกับรสชาติแบบนี้แน่นอน
 
เห็นหรือยังไม่ว่าจะสไตล์ avenger - ถนน Trek (เส้นทางไต่เขา -วิบาก) หรือสไตล์ทางเรียบ เสือหมอบ ทัวริ่ง จังหวัดระนองล้วนตอบสนองให้แขกผู้มาเยือนครบทุกโจทย์แล้ว

ยังไม่พอ อีกเรื่องหนึ่งที่ควรต้องรู้ คือ ที่นี่ เป็นหัวเมืองชายแดนระหว่างไทย - พม่า ดังนั้นสิ่งที่นักปั่นจะจดบันทึกในความทรงจำ จึงไม่ใช่แค่รูปสวยๆ แต่ยังรวมถึง การเข้าถึงวิถีชีวิตของคนในประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย ส่วนใครสนใจจะเดินทางข้ามประเทศก็ค่อนข้างสะดวกสบาย เพียงยกจักรยานไปยังท่าเรืออันดามัน,ท่าเรือน้ำลึก แล้วลงทะเบียน พร้อมจ่ายค่าผ่านทางกับ ตม. หรือตำรวจตระเวนชายแดน เป็นเงิน 100 บาท ก็สามารถลงเรือข้ามฝั่งไปปั่นในเมียนมาร์ทาวน์ได้แล้ว



































กำลังโหลดความคิดเห็น