xs
xsm
sm
md
lg

ปฏิรูปการศึกษา-สธ.ทั้งระบบ ลดอำนาจส่วนกลางเพิ่มบทบาทท้องถิ่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (17ก.พ.) นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงความคืบหน้าในการยกร่างรัฐธรรมนูญรายมาตรา ในภาค 4 การปฏิรูปและการสร้างความปรองดอง ว่า มีการกำหนดให้การบริหารราชการแผ่นดิน และการจัดสรรงบประมาณดำเนินตามยุทธศาสตร์ระยะยาว และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สร้างกลไกให้มีบริการผ่านระบบสารสนเทศ ทบทวนภารกิจและบริการสาธารณะที่หน่วยงานรัฐจัดทำ เพื่อลดความซ้ำซ้อน รวมถึงอาจให้ภาคเอกชน ภาคประชาชน หรือองค์กรบริหารท้องถิ่น เข้ามาดำเนินการได้
**สัมปทานต้องประมูลเปิดเผย
นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงกฎหมายเรื่องการออกใบอนุญาตที่มีลักษณะผูกขาดให้สัมปทาน หรือให้สิทธิในการประกอบกิจการใด ให้ใช้วิธีการประมูลโดยเปิดเผยเป็นหลัก เว้นแต่มีความจำเป็น คณะรัฐมนตรีอาจมีมติให้ดำเนินการได้ด้วยวิธีอื่นโดยต้องประกาศเหตุผลให้ทราบเป็นการทั่วไป และใบอนุญาตใดที่ไม่มีการดำเนินการตามที่ได้รับอนุญาตแล้ว โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรให้ถือว่า ใบอนุญาตนั้นสิ้นสุดลง และให้หน่วยงานของรัฐซี่งมีอำนาจออกใบอนุญาตมีหน้าที่ต้องพิสูจน์ความจำเป็นของการมีใบอนุญาตนั้น ต่อรัฐสภาทุก 5 ปี
นายคำนูณ กล่าวต่อว่า ตามรัฐธรรมนูญใหม่ จะมีองค์กรบริหารภาคเป็นราชการส่วนกลาง ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคทำหน้าที่ให้การศึกษาและข้อเสนอแนะในการบริหารงานของหน่วยงานรัฐในพื้นที่ และให้มีคณะกรรมการอิสระว่าด้วยค่าตอบแทนบุคลากรภาครัฐ ทำหน้าที่ศึกษาวิเคราะห์เทียบเคียงค่าตอบแทนรวมทั้งเงินเดือน และผลประโยชน์ตอบแทนทุกประเภท กับค่าตอบแทนของเอกชน แจ้งให้รัฐสภาและคณะรัฐมนตรีทราบ แล้วประกาศให้ทราบ+เป็นการทั่วไปทุกระยะตามที่กฎหมายบัญญัติ
**ระบบสุขภาพเน้นสร้าง นำซ่อม
ด้าน น.พ.ชูชัย ศุภวงศ์ รองประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงการปฏิรูปด้านสาธารณสุข ที่จะบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญว่า มีสาระสำคัญสองเรื่อง คือ การปฏิรูประบบสุขภาพให้ความสำคัญระดับปฐมภูมิ เน้นพื้นที่เป็นฐานมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งขณะนี้คือ โรงพยาบาลตำบล เพราะเป็นด่านหน้า ที่ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด เน้นการสร้างนำซ่อม เพราะต้นทุนต่ำให้ประชาชนเข้าถึงบริการอย่างทั่วถึง บริหารจัดการอย่างมีธรรมาภิบาลโดยองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมทุกกระบวนการ เพื่อนำไปสู่สุขภาวะที่ยั่งยืนของสังคม ดังนั้นการจัดสรรงบประมาณ จะต้องกระจายไปยังพื้นที่ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของระบบสุขภาพ
นอกจากนี้ มีการปฏิรูปกองทุนประกันสุขภาพ กองทุนสวัสดิการข้าราชการ และกองทุนประกันสังคม ให้มีมาตรฐานใกล้เคียงกัน เพราะปัจจุบันข้าราชการได้รับการดูแลมากกว่าประชาชน 6 เท่า เป็นความเหลื่อมล้ำ จึงต้องลดปัญหาให้เกิดความเสมอภาค และเป็นธรรม เน้นการมีส่วนร่วมทุกฝ่ายเพื่อดูแลภาพรวมและความยั่งยืนของการคลัง มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในการให้บริการสาธารณสุข ดังนั้นการบริหารต้องมีระบบธรรมาภิบาล สร้างความเป็นธรรมมากขึ้น เช่น ยกระดับกองทุนประกันสังคมให้มีคุณภาพมากกว่าเดิม เช่นเดียวกับการบริการประชาชนเพื่อให้มาตรฐานใกล้เคียงกับที่ข้าราชการได้รับการดูแล ทั้งนี้ เชื่อว่าตามแนวทางนี้จะช่วยลดงบประมาณ และทำให้การบริการด้านสาธารณสุขมีประสิทธิภาพมากขึ้น

**การศึกษา มุ่งเยาวชนคนเก่ง คนดี
นายอมรวิชช์ นาครทรรพ กรรมาธิการปฏิรูปการศึกษา กล่าวถึง การปฏิรูปการศึกษาว่า กลุ่มเป้าหมายคือคนไทยทั้งประเทศ เป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะในอนาคตประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ทั้งนี้จะเน้นหนักการศึกษาด้านทักษะให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก มีการออกแบบใหม่ เน้นการกระจายอำนาจด้านการศึกษา เปลี่ยนบทบาทรัฐให้เป็นผู้กำกับนโยบายส่งเสริมให้การศึกษามีประสิทธิภาพ อำนาจจะไม่ได้อยู่ศูนย์กลางอีกต่อไป แต่เป็นการกระจายอำนาจไปในระดับพื้นที่ นอกจากนี้ การจัดสรรค่าใช้จ่ายรายหัวในแนวทางเดียวกับการประกันสุขภาพเพื่อให้เกิดการศึกษาที่มีคุณภาพ เพิ่มโอกาสกระตุ้นการแข่งขันด้านคุณภาพทางการศึกษาด้วย
นายอมรวิชช์ กล่าวว่า เป้าหมายการปฏิรูปการศึกษา จะเน้นการเรียนรู้ใหม่ในทางปฏิบัติมากขึ้น รวมถึงบ่มเพาะความเป็นพลเมือง ธรรมาภิบาลทุกระดับให้เกิดสังคมร่มเย็น ให้เยาวชนเป็นคนเก่งและคนดี นอกจากนี้จะมีการดูแลเด็กปฐมวัย ซึ่งมีการทำงานหลายกระทรวงจึงต้องมีการปรับปรุงเพื่อดูแลเด็กตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงระดับมหาวิทยาลัย ส่วนการปฏิรูประบบครู จะเน้นหนักแก้ปัญหาการบริหารงานบุคคลที่เป็นอุปสรรค ปรับปรุงระบบการแข่งขันหรือการสอบ รวมทั้งโครงสร้างการบริหารจัดการการศึกษาทั้งระดับชาติและระดับพื้นที่รองรับการกระจายอำนาจ และต้องมีกลไกตรวจ สอบเพื่อให้เกิดการบริหารที่มีธรรมาภิบาล ดังนั้นจึงต้องมีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาทั้งหมด
" ที่ผ่านมาการปฏิรูปการศึกษาไม่สำเร็จเพราะขาดความต่อเนื่องในนโยบายจากนักการเมืองที่เข้ามาบริหารประเทศ เมื่อมีการสร้างกลไกใหม่ขึ้นมาเพื่อขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบ จะทำให้ภาพใหญ่ของการศึกษาเดินหน้าได้ โดยไม่เปลี่ยนแปลงไปตามนโยบายของพรรคการเมือง" นายอมรวิชช์ กล่าว
**กระจายงบถึงผู้มีส่วนได้ ส่วนเสีย
นางประภาภัทร นิยม เลขานุการคณะกรรมาธิการปฏิรูปการศึกษา กล่าวว่า การปฏิรูปการศึกษาครั้งนี้ มีความแตกต่างไปจากที่ผ่านมา เพราะรัฐบาลจัดสรรงบประมาณสูงมาก แต่กลับมีปัญหาทั้งระบบ เนื่องจากมีการรวมศูนย์อำนาจบริหารไว้ส่วนกลางมากเกินไป จึงต้องกระจายอำนาจทั้งสามระบบ ให้การบริหารการเงินลงไปถึงผู้มีส่วนได้เสียมากขึ้น คือจัดตรงไปที่ผู้เรียน ในส่วนของบุคลากร จะต้องกระจายไปยังเขตพื้นที่การศึกษา รวมทั้ง
การบริหารระบบการเรียนรู้ จะต้องยกระดับคุณภาพผู้เรียน จึงต้องมีกลไกที่ทำให้เกิดกระแสการเปลี่ยนแปลง ต้องมีคณะกรรมการระดับชาติทำหน้าที่กำหนดนโยบาย วางแผน ยุทธศาสตร์ กำกับติดตามให้เกิดการปฏิรูป เป็นองค์กรอิสระ คือ คณะกรรมการนโยบายการศึกษาและการพัฒนามนุษย์ ทำงานครอบคลุมหลายกระทรวง เพื่อให้การปฏิรูปการศึกษาประสบความสำเร็จ
นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องมีสถาบันวิจัยระบบการศึกษา และมีหน่วยงานทำหน้าที่บริหารการเงินเพื่อการศึกษาในรูปแบบที่จัดตรงไปที่ผู้เรียนโดยตรง รวมถึงการสร้างสมัชชาเครือข่ายด้านการศึกษา เพื่อให้ทั้งหมดเป็นกลไกในการปฏิรูปการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการทำงานครบทุกมิติ โดยกระทรวงศึกษาธิการจะเปลี่ยนบทบาทจากการเป็นผู้จัดการศึกษามาเป็นส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้อื่นเข้ามามีส่วนในการจัดการศึกษามากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น