ณ ร้านกาแฟเล็กๆ ริมถนนพระอาทิตย์...ที่คนไทยเป็นเจ้าของ...
“เฮ้อ...กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงไอเอสฆ่าคนราวผักปลา...ทั้งเชือดคอทั้งเผาทั้งเป็น...โหดจริงๆ”
ก๊วนกาแฟวันหยุดที่ควรสบายๆ...พลันตึงเครียดทันตาเห็น....
“ล่าสุดเชือดคอชาวคริสต์อีก 21 คน ดูเหมือนจะยั่วชาติตะวันตกให้โกรธ เพื่อออกหน้ารบหรือทำสงครามกับมุสลิมไอเอสโดยตรง หวังแปรให้เป็นสงครามศาสนา ระหว่างคริสต์กับมุสลิมที่ตะวันออกกลาง แต่ตะวันตกก็ยังใช้ยุทธวิธี ‘อีแอบ’ ด้วยการให้ชาติมุสลิมฆ่าชาวมุสลิมด้วยกันเอง...”
บก.ข่าวต่างประเทศพูดหลังจิบชาร้อนว่า...
“สถานการณ์เลวร้ายทั่วโลกวันนี้ เกิดจากมะกันใช้กองทัพที่แข็งแกร่งกว่า ปล้นทรัพยากรชาติที่อ่อนแอกว่ามาตลอด ถ้ามะกันกับชาติตะวันตกมีคุณธรรม และไม่เอาเปรียบชาติอื่นๆ ในโลก ชาวมุสลิมคงไม่ต้องรบกับใคร กฎธรรมดาของมนุษยชาติคือ ที่ใดมีการกดขี่เอาเปรียบ ที่นั่นต้องมีการต่อสู้แน่นอน...”
บก.ข่าวต่างประเทศคนเดิมกล่าวต่อว่า...
“ในอิรัก...แค่มะกันอยากได้น้ำมัน มะกันใช้สื่อโกหกคนทั้งโลกว่า อิรักมีอาวุธนิวเคลียร์ ก่อนยกกองทัพฆ่าผู้นำกับประชาชนมากมาย ยึดชาติอิรักและขนน้ำมันไปขายตามใจชอบ จากวันนั้นจนวันนี้...มะกันไม่เจอนิวเคลียร์สักลูกในอิรัก แถมมะกันกับสหประชาชาติ ก็ไม่เคยรับผิดชอบใดๆ กับการฆ่าเด็ก-สตรี-ชาวมุสลิมในอิรัก ที่ต้องตายโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่อย่างมากมายอีกด้วย...”
เอ็นจีโอสาวด้านสิทธิมนุษยชน...พูดอย่างเคร่งขรึมว่า
“เมื่อกองทัพด้อยกว่า มุสลิมที่มีสมาชิกลับในประเทศต่างๆ ก็ใช้วิธีสู้รบแบบกองโจรโจมตีมะกันกับชาติตะวันตก เช่น ใช้คนสองคนโจมตีสำนักพิมพ์ในฝรั่งเศส ใช้ไม่กี่คนโจมตีที่ออสเตรเลีย ล่าสุด...คนคนเดียวก็โจมตีชุมชนชาวยิวที่เดนมาร์กได้ เรียกว่า...โลกตะวันตกที่เคยศานติ กำลังมลายหายไปเรื่อยๆ แล้วล่ะ”
นักศึกษาวัยสะรุ่นที่ดื่มชาเขียวเย็น ทำตาโตก่อนจะพูดขึ้นว่า...
“...งั้นมะกันก็ไม่ใช่ตำรวจโลก...แต่เป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียตะวันตก ที่ปล้นทรัพยากรอันมีค่าของชาติที่อ่อนแอกว่าไปทั่วโลกน่ะสิ...”
เอ็นจีโอสาวคนเดิมพูดเสียงดังฟังชัดทันทีว่า...
“ใช่...ในไทยน่ะ มะกันก็สมคบกับคนไทยกลุ่มหนึ่ง ปล้นน้ำมันไทยมานานหลายสิบปี โดยให้ผลตอบแทนไทยแค่จิ๊บจ๊อยผ่านระบบสัมปทาน ที่ตลกจนน้ำตาไหลคือ คนไทยเจ้าของน้ำมันแท้ๆ กลับต้องซื้อน้ำมันของตัวเองแพงกว่าคนอเมริกัน ที่ต้องขนน้ำมันข้ามทวีปไปเสียอีก การเอาเปรียบชาติไทยแบบนี้ ทำให้บริษัทมะกันกับคนไทยขายชาติรวยเละ แต่คนไทยทั้งชาติเดือดร้อนแสนสาหัสมาตลอด ตอนนี้...มะกัน-คนไทยกลุ่มหนึ่ง-รัฐบาลชุดนี้กำลังจะเร่งเปิดสัมปทานรอบที่ 21 โดยใช้ระบบเดิมที่ให้ผลตอบแทนจิ๊บจ๊อยเข้ารัฐ ทั้งๆ ที่หลายประเทศในโลกนี้ ใช้ระบบแบ่งปันรายได้จากผลผลิต ซึ่งให้ผลตอบแทนกับชาติเจ้าของบ่อน้ำมันมากกว่ากันแล้ว...”
อาจารย์รัฐศาสตร์ที่ผันตนไปอยู่ชนบท ยกกาแฟดำขึ้นซด...ก่อนพูดว่า
“ว่าไปแล้ว...นายทุนสามานย์และรัฐบาลมะกันกับรัฐบาลทุนสามานย์เหลี่ยมกับพวก มีสันดานเอาแต่ได้ไม่รู้จักพอเหมือนๆ กัน ใช้การเลือกตั้งสกปรกในไทยยึดอำนาจรัฐเพื่อโกงชาติ ทั้งๆ ที่มะกันอ้างว่า...ต่อต้านการคอร์รัปชัน และจะไม่อยู่ร่วมโลกกับพวกผู้ก่อการร้าย แต่กลับปากว่าตาขยิบไปช่วยเหลือเหลี่ยม ที่เป็นรัฐบาลโกงชาติและเป็นหัวหน้าผู้ก่อการร้ายในไทย เพียงแค่มะกันกับรัฐบาลเหลี่ยมจะร่วมกันปล้นชาติไทยเท่านั้น...”
เอ็นจีโอสาวคนเดิมยกแก้วน้ำแดงใส่โซดาขึ้นดื่ม ก่อนจะพูดเสริมว่า
“เรื่องสัมปทานรอบ 21 เนี่ย คนที่มีความรู้และมีฐานะในสังคมออกมาต่อต้านรัฐบาลบิ๊กตู่ตรึมเลย โดยคนเหล่านี้ไม่มีการเมืองแอบแฝง และไม่มีผลประโยชน์ใดๆทับซ้อนอีกด้วย ถ้าบิ๊กตู่ยังเชื่อข้อมูลด้านเดียวของกลุ่มคนที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนด้านพลังงาน เชื่อเถอะ...บิ๊กตู่เสียผู้เสียคนแน่ๆ”
พิธีกรสาวสวยคนหนึ่งเม้มปากชั่วครู่...ก่อนจะพูดว่า
“น้ำมันเป็นของคนไทยทุกคนนะ แต่มะกันมาขุดน้ำมันของคนไทยส่งไปขายให้คนอเมริกัน ถูกกว่าราคาที่ขายให้คนไทย อีกทั้งบริษัทปตท.ที่ตั้งขึ้นด้วยเงินคนไทย ยังซ้ำเติมขูดรีดเลือดเนื้อคนไทย จนปตท.ทำกำไรปีละนับแสนล้านบาท โดยไม่แยแสต่อความเดือดร้อนของคนไทยทั้งชาติ แถมบริษัทปิโตรเคมีของปตท.ยังซื้อก๊าซต้นทุนต่ำกว่าราคาตลาดจนกำไรตรึม เพราะเอาเงินประชาชนที่ถูกรัฐบังคับให้จ่ายเข้ากองทุนน้ำมัน ไปช่วยบริษัทปิโตรเคมีของปตท.อีกต่างหากด้วย...แย่จริงๆ...”
อาจารย์รัฐศาสตร์ผู้ยึดมั่นในหลักการกล่าวว่า
“บิ๊กตู่ให้เลื่อนเปิดสัมปทานรอบที่ 21 ชั่วคราวแล้ว และจะเปิดรับฟังความเห็นที่ต่างกันในเร็ววันนี้ เรื่องผลประโยชน์ของชาติเนี่ย อย่าฟังความเห็นเพื่อนำไปอ้างความชอบธรรมอย่างสามานย์เชียวนะ”
สาวพิธีกรคนเดิมสรุปว่า...
“ถ้าทำเจ้าเล่ห์อย่างสิ้นคิดแบบนั้น ระวังเถอะ...น้ำมันจะราดกองไฟ จนรัฐนาวาบิ๊กตู่ไปไม่ถึงฝั่งฝันเพราะ‘ล่มปากอ่าว’ ซะก่อน”
ก่อนจะแยกย้ายจากกัน...ใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้นลอยๆว่า...
“...แต่ก่อนคนไทยยังโง่อยู่...เดี๋ยวนี้คนไทยฉลาดแล้ว...รู้ทันตู(กู)ไปหมดทุกอย่างเลยวุ้ย...”
“เฮ้อ...กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงไอเอสฆ่าคนราวผักปลา...ทั้งเชือดคอทั้งเผาทั้งเป็น...โหดจริงๆ”
ก๊วนกาแฟวันหยุดที่ควรสบายๆ...พลันตึงเครียดทันตาเห็น....
“ล่าสุดเชือดคอชาวคริสต์อีก 21 คน ดูเหมือนจะยั่วชาติตะวันตกให้โกรธ เพื่อออกหน้ารบหรือทำสงครามกับมุสลิมไอเอสโดยตรง หวังแปรให้เป็นสงครามศาสนา ระหว่างคริสต์กับมุสลิมที่ตะวันออกกลาง แต่ตะวันตกก็ยังใช้ยุทธวิธี ‘อีแอบ’ ด้วยการให้ชาติมุสลิมฆ่าชาวมุสลิมด้วยกันเอง...”
บก.ข่าวต่างประเทศพูดหลังจิบชาร้อนว่า...
“สถานการณ์เลวร้ายทั่วโลกวันนี้ เกิดจากมะกันใช้กองทัพที่แข็งแกร่งกว่า ปล้นทรัพยากรชาติที่อ่อนแอกว่ามาตลอด ถ้ามะกันกับชาติตะวันตกมีคุณธรรม และไม่เอาเปรียบชาติอื่นๆ ในโลก ชาวมุสลิมคงไม่ต้องรบกับใคร กฎธรรมดาของมนุษยชาติคือ ที่ใดมีการกดขี่เอาเปรียบ ที่นั่นต้องมีการต่อสู้แน่นอน...”
บก.ข่าวต่างประเทศคนเดิมกล่าวต่อว่า...
“ในอิรัก...แค่มะกันอยากได้น้ำมัน มะกันใช้สื่อโกหกคนทั้งโลกว่า อิรักมีอาวุธนิวเคลียร์ ก่อนยกกองทัพฆ่าผู้นำกับประชาชนมากมาย ยึดชาติอิรักและขนน้ำมันไปขายตามใจชอบ จากวันนั้นจนวันนี้...มะกันไม่เจอนิวเคลียร์สักลูกในอิรัก แถมมะกันกับสหประชาชาติ ก็ไม่เคยรับผิดชอบใดๆ กับการฆ่าเด็ก-สตรี-ชาวมุสลิมในอิรัก ที่ต้องตายโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่อย่างมากมายอีกด้วย...”
เอ็นจีโอสาวด้านสิทธิมนุษยชน...พูดอย่างเคร่งขรึมว่า
“เมื่อกองทัพด้อยกว่า มุสลิมที่มีสมาชิกลับในประเทศต่างๆ ก็ใช้วิธีสู้รบแบบกองโจรโจมตีมะกันกับชาติตะวันตก เช่น ใช้คนสองคนโจมตีสำนักพิมพ์ในฝรั่งเศส ใช้ไม่กี่คนโจมตีที่ออสเตรเลีย ล่าสุด...คนคนเดียวก็โจมตีชุมชนชาวยิวที่เดนมาร์กได้ เรียกว่า...โลกตะวันตกที่เคยศานติ กำลังมลายหายไปเรื่อยๆ แล้วล่ะ”
นักศึกษาวัยสะรุ่นที่ดื่มชาเขียวเย็น ทำตาโตก่อนจะพูดขึ้นว่า...
“...งั้นมะกันก็ไม่ใช่ตำรวจโลก...แต่เป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียตะวันตก ที่ปล้นทรัพยากรอันมีค่าของชาติที่อ่อนแอกว่าไปทั่วโลกน่ะสิ...”
เอ็นจีโอสาวคนเดิมพูดเสียงดังฟังชัดทันทีว่า...
“ใช่...ในไทยน่ะ มะกันก็สมคบกับคนไทยกลุ่มหนึ่ง ปล้นน้ำมันไทยมานานหลายสิบปี โดยให้ผลตอบแทนไทยแค่จิ๊บจ๊อยผ่านระบบสัมปทาน ที่ตลกจนน้ำตาไหลคือ คนไทยเจ้าของน้ำมันแท้ๆ กลับต้องซื้อน้ำมันของตัวเองแพงกว่าคนอเมริกัน ที่ต้องขนน้ำมันข้ามทวีปไปเสียอีก การเอาเปรียบชาติไทยแบบนี้ ทำให้บริษัทมะกันกับคนไทยขายชาติรวยเละ แต่คนไทยทั้งชาติเดือดร้อนแสนสาหัสมาตลอด ตอนนี้...มะกัน-คนไทยกลุ่มหนึ่ง-รัฐบาลชุดนี้กำลังจะเร่งเปิดสัมปทานรอบที่ 21 โดยใช้ระบบเดิมที่ให้ผลตอบแทนจิ๊บจ๊อยเข้ารัฐ ทั้งๆ ที่หลายประเทศในโลกนี้ ใช้ระบบแบ่งปันรายได้จากผลผลิต ซึ่งให้ผลตอบแทนกับชาติเจ้าของบ่อน้ำมันมากกว่ากันแล้ว...”
อาจารย์รัฐศาสตร์ที่ผันตนไปอยู่ชนบท ยกกาแฟดำขึ้นซด...ก่อนพูดว่า
“ว่าไปแล้ว...นายทุนสามานย์และรัฐบาลมะกันกับรัฐบาลทุนสามานย์เหลี่ยมกับพวก มีสันดานเอาแต่ได้ไม่รู้จักพอเหมือนๆ กัน ใช้การเลือกตั้งสกปรกในไทยยึดอำนาจรัฐเพื่อโกงชาติ ทั้งๆ ที่มะกันอ้างว่า...ต่อต้านการคอร์รัปชัน และจะไม่อยู่ร่วมโลกกับพวกผู้ก่อการร้าย แต่กลับปากว่าตาขยิบไปช่วยเหลือเหลี่ยม ที่เป็นรัฐบาลโกงชาติและเป็นหัวหน้าผู้ก่อการร้ายในไทย เพียงแค่มะกันกับรัฐบาลเหลี่ยมจะร่วมกันปล้นชาติไทยเท่านั้น...”
เอ็นจีโอสาวคนเดิมยกแก้วน้ำแดงใส่โซดาขึ้นดื่ม ก่อนจะพูดเสริมว่า
“เรื่องสัมปทานรอบ 21 เนี่ย คนที่มีความรู้และมีฐานะในสังคมออกมาต่อต้านรัฐบาลบิ๊กตู่ตรึมเลย โดยคนเหล่านี้ไม่มีการเมืองแอบแฝง และไม่มีผลประโยชน์ใดๆทับซ้อนอีกด้วย ถ้าบิ๊กตู่ยังเชื่อข้อมูลด้านเดียวของกลุ่มคนที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนด้านพลังงาน เชื่อเถอะ...บิ๊กตู่เสียผู้เสียคนแน่ๆ”
พิธีกรสาวสวยคนหนึ่งเม้มปากชั่วครู่...ก่อนจะพูดว่า
“น้ำมันเป็นของคนไทยทุกคนนะ แต่มะกันมาขุดน้ำมันของคนไทยส่งไปขายให้คนอเมริกัน ถูกกว่าราคาที่ขายให้คนไทย อีกทั้งบริษัทปตท.ที่ตั้งขึ้นด้วยเงินคนไทย ยังซ้ำเติมขูดรีดเลือดเนื้อคนไทย จนปตท.ทำกำไรปีละนับแสนล้านบาท โดยไม่แยแสต่อความเดือดร้อนของคนไทยทั้งชาติ แถมบริษัทปิโตรเคมีของปตท.ยังซื้อก๊าซต้นทุนต่ำกว่าราคาตลาดจนกำไรตรึม เพราะเอาเงินประชาชนที่ถูกรัฐบังคับให้จ่ายเข้ากองทุนน้ำมัน ไปช่วยบริษัทปิโตรเคมีของปตท.อีกต่างหากด้วย...แย่จริงๆ...”
อาจารย์รัฐศาสตร์ผู้ยึดมั่นในหลักการกล่าวว่า
“บิ๊กตู่ให้เลื่อนเปิดสัมปทานรอบที่ 21 ชั่วคราวแล้ว และจะเปิดรับฟังความเห็นที่ต่างกันในเร็ววันนี้ เรื่องผลประโยชน์ของชาติเนี่ย อย่าฟังความเห็นเพื่อนำไปอ้างความชอบธรรมอย่างสามานย์เชียวนะ”
สาวพิธีกรคนเดิมสรุปว่า...
“ถ้าทำเจ้าเล่ห์อย่างสิ้นคิดแบบนั้น ระวังเถอะ...น้ำมันจะราดกองไฟ จนรัฐนาวาบิ๊กตู่ไปไม่ถึงฝั่งฝันเพราะ‘ล่มปากอ่าว’ ซะก่อน”
ก่อนจะแยกย้ายจากกัน...ใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้นลอยๆว่า...
“...แต่ก่อนคนไทยยังโง่อยู่...เดี๋ยวนี้คนไทยฉลาดแล้ว...รู้ทันตู(กู)ไปหมดทุกอย่างเลยวุ้ย...”