รอยเตอร์ - ฝรั่งเศสสั่งปิดย่านแห่งหนึ่งในเมืองมาร์กเซย์ เมื่อวันจันทร์ (9 ก.พ.) หลังเกิดเหตุกลุ่มมือปืนกราดยิงเข้าใส่รถตำรวจ ไม่กี่ชั่วโมงก่อนการเดินทางมาเยือนของ นายมานูเอล วาลล์ส นายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระบุเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติดเท่านั้น
แหล่งข่าวตำรวจเปิดเผยว่าชาวบ้านในย่านลา คาสเทลลาเน ทางเหนือของเมืองมาร์กเซย์ ซึ่งมีประชากรอยู่ราว 7,000 คน ได้รับสั่งให้อยู่แต่ภายในที่พักอาศัย และมีการอพยพ ณ สถานรับเลี้ยงเด็กแห่งหนึ่ง ท่ามกลางทหารจากกองกำลังพิเศษ GIPN ที่ถูกส่งเข้ามาคุ้มกันสถานที่แห่งนี้
“กลุ่มคนสวมเสื้อแบบมีหมวกใช้ปืนอาก้ายิงเข้าใส่รถตำรวจ” ปิแอร์-มารี บัวนิกูเอล ผู้บัญชาการตำรวจท้องถิ่นบอกกับรอยเตอร์ในเบื้องต้น จากนั้นในเวลาต่อมาเขายืนยันว่ายานพาหนะที่ตกเป็นเป้าหมายนั้นคือรถยนต์ของเขาเอง โดยเขารุดไปยังจุดเกิดเหตุหลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบเห็นกลุ่มชายติดอาวุธในพื้นที่ และกระสุนที่คนร้ายลั่นไกออกมานั้นฝังอยู่ภายในตัวถังรถ
นายแบนาค กาซองอูฟ รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศสที่เดินทางไปพร้อมกับนายวาลส์ เผยว่า ตำรวจสามารถยึดปืนอาก้าได้ 7 กระบอก และยาเสพติดราว 20 กิโลกรัม นอกจากนี้แล้วยังพบลายนิ้วมือและร่องรอยดีเอ็นเอของคนร้ายที่อาจช่วยนำไปสู่การจับกุม
แคโรลีน พอซเมนติเยอร์ รองนายกเทศมนตรีเมืองมาร์กเซย์ บอกว่าเจ้าหน้าทีมั่นใจกว่า 99.9 เปอร์เซ็นต์ว่าเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติดและล้างแค้นคิดบัญชี พร้อมระบุว่ามันไม่เกี่ยวข้องกับการเดินทางมาเยือนของนายวาล์สแต่อย่างใด
ฝรั่งเศสอยู่ภายใต้ระดับการเตือนภัยขั้นสูงสุดตามหลังเหตุอิสลามิสต์โจมตีปารีสเมื่อเดือนที่แล้ว คร่าชีวิต 17 คน ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีทหาร 2 นายซึ่งทำหน้าที่ปกป้องศูนย์ชุมชนชาวยิวแห่งหนึ่ง ได้รับบาดเจ็บจากถูกคนร้ายใช้มีดแทงในเมืองนีซ