.
ศ.นพ.สมเกียรติ วัฒนศิริชัย อดีต ผอ.สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) กล่าวถึงกรณีเรียกร้องให้ตรวจสอบความโปร่งใสการบริหาร สวรส. ของผู้บริหารชุดก่อน โดยเฉพาะกรณีกองทุนพัฒนาระบบสาธารณสุข ซึ่งได้รับทุนจากองค์กรสนับสนุนทุนวิจัยจากประเทศแคนาดา (IDRC) ที่ต้องกระจายให้กับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อทำงานวิจัย แต่ไม่ปรากฏผลงาน รวมถึงบัญชีโครงการที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ จนภายหลังถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยเอง และถูกปลดจากการเป็น ผอ.สวรส. ว่า ขณะนี้ทราบว่าคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีรับทุน IDRC ที่ตั้งขึ้นตามมติบอร์ด สวรส.นั้น สอบสวนเสร็จแล้ว จะนำเข้าบอร์ด สวรส.พิจารณาวันที่ 16 ก.พ.นี้ แต่ส่วนตัวมีคำถามอยู่ว่าคณะอนุฯ ตั้งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะเอาคนที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้เข้าไปร่วมตรวจสอบด้วย อยากให้ประชาชนตัดสินมากกว่า และหากผลสอบออกมาเป็นอย่างไรก็ให้ไปตอบกลับทาง IDRC เอง หรือหากจะฟ้องกลับตนก็ไม่กลัว ให้ไปสู้กันต่อในศาล
“เรื่องนี้ IDRC ไม่พอใจมากที่ประเทศไทยละเลยที่จะกำกับดูแล ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้ประเทศไทยเสื่อมเสียชื่อเสียง และเห็นว่าจะมีการตัดงบประมาณช่วยเหลือในปีต่อไปด้วย ก็รอดูผลวันที่ 16 ก.พ.ว่าจะเป็นอย่างไร จะตอบคำถามของ IDRC หรือไม่” ศ.นพ.สมเกียรติ กล่าว
ด้าน นพ.ภูษิต ประคองสาย รักษาการผอ.สวรส. กล่าวว่า ปัญหานี้เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะเข้ามารับหน้าที่ แต่จากข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า IDRC ให้การสนับสนุนงบศึกษาวิจัยแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะแรกปี 2551-2555 สนับสนุนงบฯ ให้กับประเทศในลุ่มแม่น้ำโขง และไทยได้มีการเปิดบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ชื่อ Regional Coordinating Office รับงบประมาณ 14.3 ล้านบาทสำหรับทำโครงการ ซึ่งแต่ละประเทศต่างได้รับทุนโดยตรงจาก IDRC ไม่ได้จัดสรรผ่าน สวรส. จึงไม่มีข้อมูลปรากฏในฐานข้อมูล แต่หลังจากจบระยะแรก IDRC เห็นว่าการให้ทุนแต่ละประเทศแล้วไล่ตามเก็บผลงานเองเกิดความยุ่งยาก ระยะที่ 2 คือปี 2555-2559 จึงมอบให้ สวรส.ประสานงานโอนเงินสนับสนุนให้แต่ละประเทศตามที่ IDRC กำหนด โดยเงินก้อนนี้ประมาณ 100 ล้านบาท จะเข้าสู่การบริหารกองทุนตามปกติของ สวรส. โดย สวรส.เปิดบัญชี APEIR CO เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2556 และ APEIR-MBDS Project เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2557 รับงบประมาณสำหรับการบริหารจัดการ
ศ.นพ.สมเกียรติ วัฒนศิริชัย อดีต ผอ.สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) กล่าวถึงกรณีเรียกร้องให้ตรวจสอบความโปร่งใสการบริหาร สวรส. ของผู้บริหารชุดก่อน โดยเฉพาะกรณีกองทุนพัฒนาระบบสาธารณสุข ซึ่งได้รับทุนจากองค์กรสนับสนุนทุนวิจัยจากประเทศแคนาดา (IDRC) ที่ต้องกระจายให้กับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อทำงานวิจัย แต่ไม่ปรากฏผลงาน รวมถึงบัญชีโครงการที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ จนภายหลังถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยเอง และถูกปลดจากการเป็น ผอ.สวรส. ว่า ขณะนี้ทราบว่าคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีรับทุน IDRC ที่ตั้งขึ้นตามมติบอร์ด สวรส.นั้น สอบสวนเสร็จแล้ว จะนำเข้าบอร์ด สวรส.พิจารณาวันที่ 16 ก.พ.นี้ แต่ส่วนตัวมีคำถามอยู่ว่าคณะอนุฯ ตั้งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะเอาคนที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้เข้าไปร่วมตรวจสอบด้วย อยากให้ประชาชนตัดสินมากกว่า และหากผลสอบออกมาเป็นอย่างไรก็ให้ไปตอบกลับทาง IDRC เอง หรือหากจะฟ้องกลับตนก็ไม่กลัว ให้ไปสู้กันต่อในศาล
“เรื่องนี้ IDRC ไม่พอใจมากที่ประเทศไทยละเลยที่จะกำกับดูแล ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้ประเทศไทยเสื่อมเสียชื่อเสียง และเห็นว่าจะมีการตัดงบประมาณช่วยเหลือในปีต่อไปด้วย ก็รอดูผลวันที่ 16 ก.พ.ว่าจะเป็นอย่างไร จะตอบคำถามของ IDRC หรือไม่” ศ.นพ.สมเกียรติ กล่าว
ด้าน นพ.ภูษิต ประคองสาย รักษาการผอ.สวรส. กล่าวว่า ปัญหานี้เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะเข้ามารับหน้าที่ แต่จากข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า IDRC ให้การสนับสนุนงบศึกษาวิจัยแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะแรกปี 2551-2555 สนับสนุนงบฯ ให้กับประเทศในลุ่มแม่น้ำโขง และไทยได้มีการเปิดบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ชื่อ Regional Coordinating Office รับงบประมาณ 14.3 ล้านบาทสำหรับทำโครงการ ซึ่งแต่ละประเทศต่างได้รับทุนโดยตรงจาก IDRC ไม่ได้จัดสรรผ่าน สวรส. จึงไม่มีข้อมูลปรากฏในฐานข้อมูล แต่หลังจากจบระยะแรก IDRC เห็นว่าการให้ทุนแต่ละประเทศแล้วไล่ตามเก็บผลงานเองเกิดความยุ่งยาก ระยะที่ 2 คือปี 2555-2559 จึงมอบให้ สวรส.ประสานงานโอนเงินสนับสนุนให้แต่ละประเทศตามที่ IDRC กำหนด โดยเงินก้อนนี้ประมาณ 100 ล้านบาท จะเข้าสู่การบริหารกองทุนตามปกติของ สวรส. โดย สวรส.เปิดบัญชี APEIR CO เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2556 และ APEIR-MBDS Project เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2557 รับงบประมาณสำหรับการบริหารจัดการ
