**ฟันธงว่าโคม่า ร่อแร่ รอดยาก คดีละเว้นไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่น่าจะมีวันพลิกเกมกลับมาชนะ จับยามสามตาดูท่าทีของรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ตามไล่บล็อก ตัดไฟตั้งแต่ต้นลมทุกอย่าง
ทุกย่างก้าวยิ่งลักษณ์ ตั้งแต่โดนสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กระซวกไส้เขี่ยพ้นกระดานการเมืองยาว อัยการสูงสุด (อสส.) มีความเห็นสั่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดนสะกดรอยตามไม่ห่างสายตา ไปไหนมาไหนหน่วยงานความมั่นคงสแกนตลอด 24 ชั่วโมง กะว่าไม่ให้ผุดให้เกิดทางการเมืองเลย
ยิ่งมาโดนสกัดไม่ให้บินไปกินโจ๊กกับนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร พี่ชายหนีคุกที่เกาะฮ่องกง ทั้งที่ขั้นตอนยังอยู่ในชั้น อสส. ยังไม่ได้สั่งฟ้องต่อศาลฎีกาฯ ใครก็แปรรหัสได้ว่า เตรียมตัวเข้าคุกเข้าตะรางได้เลย ไม่ต้องลุ้นให้เมื่อยตุ้ม ได้คำตอบสมหวังอย่างที่อยากรู้ หลังหยั่งเชิงคสช. ลองขออนุญาตไปเมืองนอกแล้วว่า ผลเป็นอย่างไร
**การไม่ให้ออกเป็นคำตอบกลายๆว่า โดนแน่ คสช.ลอกบทเรียนมาแล้วในอดีต ปล่อยเสือเข้าป่า ปล่อยจระเข้ลงน้ำ สุดท้ายไปแล้วไปลับไม่กลับมา แถมยังหาลู่ทางปั่นป่วนประเทศทุกช่องทาง เหมือนกับที่พี่ชายเคยทำ
คสช.เองประเมินแล้ว ขืนให้ออกนอกราชอาณาจักรก่อนศาลฎีกาฯ จะประชุมนัดแรก มิวายยิ่งลักษณ์ จะไปโพนทะนาว่า ถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม เลยไม่ขอเข้าสู่กระบวนการ แจ้นฟ้องโลกประจานประเทศตัวเองแน่ สร้างแบรนด์วีรสตรีต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่ตายไปแล้ว แต่หากคสช.กักบริเวณยิ่งลักษณ์เอาไว้ก่อน รอให้การประชุมศาลฎีกาฯ เพื่อพิจารณาคดีนัดแรกเสร็จสิ้น จากนั้น ยิ่งลักษณ์ จะไปตะแล๊ดแต๊ดแต๋ที่ไหนก็ช่าง เพราะศาลสามารถพิจารณาลับหลังจำเลยได้ ไม่ต้องง้อ อยากหนี ก็หนีไป
**สัญญาณทุกช่องทุกทางยิ่งลักษณ์ไม่มีทางไหนบอกเลยว่าจะรอดคมดาบไปได้ แม้แต่แง่มุมกฎหมายที่ไร้เดียงสาของทีมทนายความชุดนี้ จัดอยู่ในฝีมือบรมห่วย สู้คดีไหนไม่เคยชนะ แพ้กราวรูด ตั้งแต่นักโทษชายทักษิณ มาว่าที่นักโทษหญิงยิ่งลักษณ์
ตั้งแต่ในชั้นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอาแต่เถียงงูๆ ปลาๆ หาว่า ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจไต่สวน คัดค้านกรรมการป.ป.ช.คนนั้นคนนี้ ขุดเรื่องเก่าๆ เอามาดิสเครดิต สร้างวาทกรรมสองมาตรฐานมันอยู่เรื่อย มีแต่มุมมองทางการเมือง แทบจะไม่มีประเด็นกฎหมาย ทั้งที่เป็นหลักใหญ่ใจความ
คำก็ถูกกลั่นแกล้ง คำก็ถูกไล่ล่า เถียงข้างๆ คูๆ ฟังไม่ศัพท์จับไปกระเดียดมันอยู่ประจำ ข้อกฎหมายที่ยกมาแต่ละอัน ออกแนวศรีธนญชัยมันอยู่อย่างเดียว ไม่พัฒนาตัวเอง ไม่เป็นมืออาชีพ เอาแต่สร้างสงครามน้ำลายไปวันๆ ถูกแล้วที่คนเขาค่อนแคะว่า แพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้งถ้ายังใช้ทนายชุดนี้อยู่ ไม่รู้ในพรรคควานหาคนที่เก่งกว่านี้ไม่ได้หรืออย่างไร
ข้อกฎหมายมีให้สู้ให้เถียงกันเยอะแยะ เช่น เรื่องนโยบายของรัฐบาล ถ้าเป็นนักการเมืองชั้นอ๋องชั้นเซียนเขี้ยวลากดิน ต้องมีเหตุผล และข้อต่อสู้ที่หนักแน่นกว่านี้ คงงัดง้างไปแล้วว่า การออกนโยบายเป็นเอกสิทธิ์คุ้มครองที่รัฐบาลจะได้รับ แม้ป.ป.ช.เตือนให้เลิกทำ แต่หากเลิกทำความเสียหายมันอาจจะมโหฬารมากกว่าไม่เลิก ขาดทุนบานเบอะกว่านี้ ประชาชนจะเสียประโยชน์อย่างไร ให้ว่าไป ชั่งตวงตัวเลขกันให้เห็น ไม่ใช่เอาแต่สีข้างเข้าแถ บอกเลิกไม่ได้ เป็นโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาไว้ หน่อมแน้มเกินไป
ขืนยังสู้แบบเดิม ทนายชุดนี้เตรียมสร้างสถิติใหม่ได้เลย คดีจำนำข้าวของยิ่งลักษณ์ ในชั้นศาลฎีกาฯ น่าจะเพิ่มสถิติการแพ้สะสมให้ ลงเอยลูกความตายเรียบ ไม่ติดคุกก็หนีคดีออกนอกประเทศ เตลิดเปิดเปิงกันไปหมดทุกราย
แต่ต่อให้กลับตัวกลับใจคงไม่ทัน เพราะความฉิบหายประจานกันโจ่งครึ่ม คนรู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง โดยเฉพาะการทุจริตการระบายข้าวแบบ “จีทูเจี๊ยะ” ของบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กับพวก ที่ร่วมหัวจมท้ายกันอุปโลกน์ บริษัทเอกชนว่าได้รับมอบอำนาจจากรัฐบาลจีน มารับซื้อข้าว แต่ดันเอามาเวียนขายกันในประเทศกินกันเองมูมมาม
สุดท้ายกลายเป็นการ “ขายลม”ยิ่งลักษณ์ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้เลย ในฐานะที่ละเลยเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว
**เปอร์เซ็นต์คอหลุดออกจากบ่าในศาลฎีกาฯ ของยิ่งลักษณ์สูงลิ่ว โทษในชั้นนี้มีแต่คุก ไม่มีรอลงอาญา อย่างน้อยสำหรับอดีตนายกรัฐมนตรีหญิง ต้องมีสัก 2 –3 ปีเป็นอย่างต่ำ เซ่นความบรรลัยในโครงการรับจำนำข้าว เฉพาะโทษความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ก็เสียวสันหลังวาบ 1 –10 ปี
การไม่ให้กระพือปีกไปซบตักพี่ชายที่ฮ่องกง คงเป็นคำตอบที่แน่ชัดว่า อย่างไรก็คุก ถ้าจะหนีตอนนี้คงยาก ช่องทางสนามบินถือว่าหมดสิทธิ์ใช้บริการ เหลือเพียงหนีออกตามตะเข็บชายแดนติดกับฝั่งเพื่อนบ้าน ที่ลิ่วล้อขี้ข้าใช้เป็นช่องทางหลบหนีกันก่อนหน้านี้ แต่ไม่ใช่ คสช.ไม่รู้ ไม่เช่นนั้นคงไม่ให้สั่งฝ่ายความมั่นคงตามประกบติดแจไม่ให้คลาดสายตา เหมือนกรณีค้นรถที่เชียงใหม่
ตอนนี้คงทำได้แต่เพียงรออีกทีในชั้นศาล ที่พอจะมีช่อง และโอกาสเปิดให้ ที่ผ่านมาคนใหญ่คนโตในบ้านเมืองที่ต้องมีคดีความมักจะขอประกันตัวออกไป บางครั้งมาขออนุญาตออกนอกประเทศ ก็อยู่ในดุลยพินิจของศาล ว่าจะให้หรือไม่ก็ได้ แต่ส่วนใหญ่มักจะไฟเขียว
กรณียิ่งลักษณ์ ดูทรงแล้วถ้าได้รอบนี้หนีแน่นอน คงจะไปรีบไปลับไม่กลับมาประเทศ ระเห็จระเหินไปอยู่กับนักโทษชายทักษิณ ไม่ยอมติดคุกติดตะรางเหมือนพี่ชาย แล้วก็ไปจะตะโกนปาวๆ อยู่ภายนอกว่าถูกกลั่นแกล้ง และคุกคามจากคณะรัฐประหารเหมือนกัน
**ลิ่วล้อทักษิณที่บอกยิ่งลักษณ์จะตายคาสนามประชาธิปไตย ไม่หนีแน่นอน ขอสู้ตามกระบวนการยุติธรรม เตรียมหน้าแหกศัลยกรรมแพทย์ไม่รับเย็บ รอดูได้ถึงเวลานายหญิงจะอยู่สู้เคียงบ่าเคียงไหล่จริงหรือไม่ กลัวจะหันไปอีกทีโผล่ดูไบ โผล่อเมริกา โผล่ฮ่องกง กันแล้วน่ะซิ
ไม่มีหรอกที่จะยืนต่อสู้อย่างปากว่า มันก็แค่วาทกรรมสรรค์สร้าง เรื่องอย่างนี้ใครอยากจะเล่นกับคุก อีกอย่างยิ่งลักษณ์ เคยพูดเมื่อวันถูกถอดถอนแล้วว่าประชาธิปไตยไทย ตายไปแล้ว
**ดังนั้น ไม่มีสนามประชาธิปไตยให้ตายแล้ว ยิ่งลักษณ์จะอยู่เพื่ออะไร เผ่นแน่บชัวร์ !!!
ทุกย่างก้าวยิ่งลักษณ์ ตั้งแต่โดนสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กระซวกไส้เขี่ยพ้นกระดานการเมืองยาว อัยการสูงสุด (อสส.) มีความเห็นสั่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดนสะกดรอยตามไม่ห่างสายตา ไปไหนมาไหนหน่วยงานความมั่นคงสแกนตลอด 24 ชั่วโมง กะว่าไม่ให้ผุดให้เกิดทางการเมืองเลย
ยิ่งมาโดนสกัดไม่ให้บินไปกินโจ๊กกับนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร พี่ชายหนีคุกที่เกาะฮ่องกง ทั้งที่ขั้นตอนยังอยู่ในชั้น อสส. ยังไม่ได้สั่งฟ้องต่อศาลฎีกาฯ ใครก็แปรรหัสได้ว่า เตรียมตัวเข้าคุกเข้าตะรางได้เลย ไม่ต้องลุ้นให้เมื่อยตุ้ม ได้คำตอบสมหวังอย่างที่อยากรู้ หลังหยั่งเชิงคสช. ลองขออนุญาตไปเมืองนอกแล้วว่า ผลเป็นอย่างไร
**การไม่ให้ออกเป็นคำตอบกลายๆว่า โดนแน่ คสช.ลอกบทเรียนมาแล้วในอดีต ปล่อยเสือเข้าป่า ปล่อยจระเข้ลงน้ำ สุดท้ายไปแล้วไปลับไม่กลับมา แถมยังหาลู่ทางปั่นป่วนประเทศทุกช่องทาง เหมือนกับที่พี่ชายเคยทำ
คสช.เองประเมินแล้ว ขืนให้ออกนอกราชอาณาจักรก่อนศาลฎีกาฯ จะประชุมนัดแรก มิวายยิ่งลักษณ์ จะไปโพนทะนาว่า ถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม เลยไม่ขอเข้าสู่กระบวนการ แจ้นฟ้องโลกประจานประเทศตัวเองแน่ สร้างแบรนด์วีรสตรีต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่ตายไปแล้ว แต่หากคสช.กักบริเวณยิ่งลักษณ์เอาไว้ก่อน รอให้การประชุมศาลฎีกาฯ เพื่อพิจารณาคดีนัดแรกเสร็จสิ้น จากนั้น ยิ่งลักษณ์ จะไปตะแล๊ดแต๊ดแต๋ที่ไหนก็ช่าง เพราะศาลสามารถพิจารณาลับหลังจำเลยได้ ไม่ต้องง้อ อยากหนี ก็หนีไป
**สัญญาณทุกช่องทุกทางยิ่งลักษณ์ไม่มีทางไหนบอกเลยว่าจะรอดคมดาบไปได้ แม้แต่แง่มุมกฎหมายที่ไร้เดียงสาของทีมทนายความชุดนี้ จัดอยู่ในฝีมือบรมห่วย สู้คดีไหนไม่เคยชนะ แพ้กราวรูด ตั้งแต่นักโทษชายทักษิณ มาว่าที่นักโทษหญิงยิ่งลักษณ์
ตั้งแต่ในชั้นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอาแต่เถียงงูๆ ปลาๆ หาว่า ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจไต่สวน คัดค้านกรรมการป.ป.ช.คนนั้นคนนี้ ขุดเรื่องเก่าๆ เอามาดิสเครดิต สร้างวาทกรรมสองมาตรฐานมันอยู่เรื่อย มีแต่มุมมองทางการเมือง แทบจะไม่มีประเด็นกฎหมาย ทั้งที่เป็นหลักใหญ่ใจความ
คำก็ถูกกลั่นแกล้ง คำก็ถูกไล่ล่า เถียงข้างๆ คูๆ ฟังไม่ศัพท์จับไปกระเดียดมันอยู่ประจำ ข้อกฎหมายที่ยกมาแต่ละอัน ออกแนวศรีธนญชัยมันอยู่อย่างเดียว ไม่พัฒนาตัวเอง ไม่เป็นมืออาชีพ เอาแต่สร้างสงครามน้ำลายไปวันๆ ถูกแล้วที่คนเขาค่อนแคะว่า แพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้งถ้ายังใช้ทนายชุดนี้อยู่ ไม่รู้ในพรรคควานหาคนที่เก่งกว่านี้ไม่ได้หรืออย่างไร
ข้อกฎหมายมีให้สู้ให้เถียงกันเยอะแยะ เช่น เรื่องนโยบายของรัฐบาล ถ้าเป็นนักการเมืองชั้นอ๋องชั้นเซียนเขี้ยวลากดิน ต้องมีเหตุผล และข้อต่อสู้ที่หนักแน่นกว่านี้ คงงัดง้างไปแล้วว่า การออกนโยบายเป็นเอกสิทธิ์คุ้มครองที่รัฐบาลจะได้รับ แม้ป.ป.ช.เตือนให้เลิกทำ แต่หากเลิกทำความเสียหายมันอาจจะมโหฬารมากกว่าไม่เลิก ขาดทุนบานเบอะกว่านี้ ประชาชนจะเสียประโยชน์อย่างไร ให้ว่าไป ชั่งตวงตัวเลขกันให้เห็น ไม่ใช่เอาแต่สีข้างเข้าแถ บอกเลิกไม่ได้ เป็นโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาไว้ หน่อมแน้มเกินไป
ขืนยังสู้แบบเดิม ทนายชุดนี้เตรียมสร้างสถิติใหม่ได้เลย คดีจำนำข้าวของยิ่งลักษณ์ ในชั้นศาลฎีกาฯ น่าจะเพิ่มสถิติการแพ้สะสมให้ ลงเอยลูกความตายเรียบ ไม่ติดคุกก็หนีคดีออกนอกประเทศ เตลิดเปิดเปิงกันไปหมดทุกราย
แต่ต่อให้กลับตัวกลับใจคงไม่ทัน เพราะความฉิบหายประจานกันโจ่งครึ่ม คนรู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง โดยเฉพาะการทุจริตการระบายข้าวแบบ “จีทูเจี๊ยะ” ของบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กับพวก ที่ร่วมหัวจมท้ายกันอุปโลกน์ บริษัทเอกชนว่าได้รับมอบอำนาจจากรัฐบาลจีน มารับซื้อข้าว แต่ดันเอามาเวียนขายกันในประเทศกินกันเองมูมมาม
สุดท้ายกลายเป็นการ “ขายลม”ยิ่งลักษณ์ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้เลย ในฐานะที่ละเลยเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว
**เปอร์เซ็นต์คอหลุดออกจากบ่าในศาลฎีกาฯ ของยิ่งลักษณ์สูงลิ่ว โทษในชั้นนี้มีแต่คุก ไม่มีรอลงอาญา อย่างน้อยสำหรับอดีตนายกรัฐมนตรีหญิง ต้องมีสัก 2 –3 ปีเป็นอย่างต่ำ เซ่นความบรรลัยในโครงการรับจำนำข้าว เฉพาะโทษความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ก็เสียวสันหลังวาบ 1 –10 ปี
การไม่ให้กระพือปีกไปซบตักพี่ชายที่ฮ่องกง คงเป็นคำตอบที่แน่ชัดว่า อย่างไรก็คุก ถ้าจะหนีตอนนี้คงยาก ช่องทางสนามบินถือว่าหมดสิทธิ์ใช้บริการ เหลือเพียงหนีออกตามตะเข็บชายแดนติดกับฝั่งเพื่อนบ้าน ที่ลิ่วล้อขี้ข้าใช้เป็นช่องทางหลบหนีกันก่อนหน้านี้ แต่ไม่ใช่ คสช.ไม่รู้ ไม่เช่นนั้นคงไม่ให้สั่งฝ่ายความมั่นคงตามประกบติดแจไม่ให้คลาดสายตา เหมือนกรณีค้นรถที่เชียงใหม่
ตอนนี้คงทำได้แต่เพียงรออีกทีในชั้นศาล ที่พอจะมีช่อง และโอกาสเปิดให้ ที่ผ่านมาคนใหญ่คนโตในบ้านเมืองที่ต้องมีคดีความมักจะขอประกันตัวออกไป บางครั้งมาขออนุญาตออกนอกประเทศ ก็อยู่ในดุลยพินิจของศาล ว่าจะให้หรือไม่ก็ได้ แต่ส่วนใหญ่มักจะไฟเขียว
กรณียิ่งลักษณ์ ดูทรงแล้วถ้าได้รอบนี้หนีแน่นอน คงจะไปรีบไปลับไม่กลับมาประเทศ ระเห็จระเหินไปอยู่กับนักโทษชายทักษิณ ไม่ยอมติดคุกติดตะรางเหมือนพี่ชาย แล้วก็ไปจะตะโกนปาวๆ อยู่ภายนอกว่าถูกกลั่นแกล้ง และคุกคามจากคณะรัฐประหารเหมือนกัน
**ลิ่วล้อทักษิณที่บอกยิ่งลักษณ์จะตายคาสนามประชาธิปไตย ไม่หนีแน่นอน ขอสู้ตามกระบวนการยุติธรรม เตรียมหน้าแหกศัลยกรรมแพทย์ไม่รับเย็บ รอดูได้ถึงเวลานายหญิงจะอยู่สู้เคียงบ่าเคียงไหล่จริงหรือไม่ กลัวจะหันไปอีกทีโผล่ดูไบ โผล่อเมริกา โผล่ฮ่องกง กันแล้วน่ะซิ
ไม่มีหรอกที่จะยืนต่อสู้อย่างปากว่า มันก็แค่วาทกรรมสรรค์สร้าง เรื่องอย่างนี้ใครอยากจะเล่นกับคุก อีกอย่างยิ่งลักษณ์ เคยพูดเมื่อวันถูกถอดถอนแล้วว่าประชาธิปไตยไทย ตายไปแล้ว
**ดังนั้น ไม่มีสนามประชาธิปไตยให้ตายแล้ว ยิ่งลักษณ์จะอยู่เพื่ออะไร เผ่นแน่บชัวร์ !!!
