ASTV ผู้จัดการรายวัน - ก.ล.ต.มั่นใจในปีนี้มีความชัดเจนการซื้อขายหุ้นในรูปเงินสกุลต่างประเทศ เบื้องต้นมีความเป็นไปได้ที่จะเทรดด้วยสกุลเงินหยวน เนื่องจากทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้เซ็นMOU กับ Bank of China เมื่อปลายปีที่ผ่านมา มั่นใจต่างชาติสนใจเทรดในไทย หลังรัฐวิสาหกิจเข้าระดมทุนผ่านกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน คาดกฟผ.ประเดิมในช่วงครึ่งแรกของปี
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เชื่อมั่นว่านักลงทุนต่างชาติมีความสนใจเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรพัย์แห่งประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อสามารถเปิดโอกสให้รัฐวิสาหกิจสามารถเข้ามาระดมทุนในรูปแบบกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน หรือ Infrastructure Fund ได้โดยคาดว่า กองทุนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. จะสามารถเข้ามาระดมทุนได้ภายในในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 นี้ เพราะดำเนินการไปแล้วกว่า 90% เบื้องต้นคาดมูลค่าระดมทุนราว 2 หมื่นล้านบาท ส่วนอีกราย 1 กองทุนโครงสร้างพื้นฐานของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT
นายวรพล กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ยังถือเป็นแหล่งระดมทุนที่ดีสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือ SME รวมถึงการระดมทุนทำธุรกิจใหม่ๆ ผ่านการระดมทุนในรูปแบบของ Crowd funding หรือ การระดมทุนสาธารณะ โดยหลังสำคัญ คือ การรวบรวมทุนจากผู้คนจำนวนมากเพื่อนำมาใช้ประโยชน์สนับสนุนโครงการต่างๆ ทั้งเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ หรือเพื่อช่วยเหลือสังคม ขั้นตอนทั่วไปคือผู้ที่ต้องารระดมทุนมีการนำเสนอผลงาน ผลิตภัณฑ์ หรือโครงการที่จะต้องทำผ่านเว็บไซด์ที่เป็นสื่อกลางและระบุวงเงินที่ต้องการ หากเป็นที่ถูกใจของประชาชน Crowd ก็จะได้รับเงินลงทุน เพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือโครงการตามที่ได้เสนอไว้
ทั้งนี้ การระดมทุนอาจมี 4 ลักษณะ คือ แบบที่ 1. donation คือผู้ลงทุนบริจาคเงินให้กับผู้ประกอบกิจการ โดยผู้ลงทุนจะไม่ได้รับผลประโยชน์ใดใดตอบแทน เว้นแต่อาจจะได้รับผลประโยชน์ในแง่ของการลดหย่อนภาษี แบบที่ 2. Reward คือ กรณีที่ผู้ประกอบกิจการ ระดมทุนจากผู้ระดมทุน โดยเสนอผลตอบแทนเป็นสิ่งของหรือสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับสินค้าที่ผู้ประกอบการจะดำเนินการผลิตในอนาคต โดยสิทธิประโยชน์ดังกล่าวจะไม่รวมถึงสิทธิที่ได้รับจากส่วนแบ่งกำไร ที่ผู้ประกอบกิจการได้รับ
ส่วนแบบที่ 3. Lending คือ ผู้ประกอบการกิจการระดมุทนจากผู้ลงทุน ในทำนองเดียวกับการของกู้ยืมเงินจากผู้ลงทุน หรือมีการเสนอตราสารหนี้ เพื่อตอบแทนการลงทุน ทั้งนี้ผู้ประกอบการกิจการจะคืนเงินและดอกเบี้ย(ถ้ามี) เมื่อถึงเวลาตามที่กำหนดไว้ และสุดท้าย แบบที่ 4. Equity คือ กรณีที่ผู้ประกอบการกิจการระดมทุนโดยเสนอผลตอบแทน ในรูปแบบหุ้นของบริษัท หรือการเป็นหุ้นส่วนของกิจการให้แก่ผู้ลงทุน ซึ่งทางก.ล.ต. ได้เข้ามาดูในเรื่องของกฎเกณฑ์ต่างๆ ในส่วนสุดท้ายนี้ เป็นหลัก
"Crowdfunding เป็นการสร้างโอกาสให้ผู้มีแนวความคิดใหม่ๆ และมีความคิดดี ไอเดียดี ที่ไม่เงินทุนในการขยาย หรือต่อยอดความคิดของตัวเอง เข้ามาหาแหล่งเงินทุนในหลายๆ รูปแบบ ซึ่งทางก.ล.ต. ได้เข้ามาช่วยในการสนับสนุน เพื่อที่จะให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รองรับการเติบโตของเศรษฐกิจในอนาคต" นายวรพล กล่าว
เลขาธิการ ก.ล.ต. ยังคาดว่า กฎเกณฑ์การนำบริษัทต่างประเทศมาจดทะเบียนโดยตรง หรือ Primary Listing ผ่านตลาดหลักทรัพย์ไทยจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4/58 ซึ่งเป็นไปตามแผนที่ ก.ล.ต.มีความมุ่งหวังที่จะให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการะดมทุนในภูมิภาค โดยเฉพาะกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง หรือ GMS ทั้งนี้ ก.ล.ต. อยู่ระหว่างหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เกี่ยวกับหลักเกณฑ์เพื่อที่จะให้นักลงทุนสามารถซื้อขายเป็นสกุลเงินอื่น นอกเหนือจากเงินบาท โดยอาจเริ่มต้นที่เงินสกุลหยวน เนื่องจากในช่วงปลายปี 57 ก.ล.ต. ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเบื้อบต้น หรือ MOU กับ Bank of China ไปแล้ว
"เรามุ่งหวังที่จะเป็นศูนย์การในการระดมทุนของหลายๆ ประเทศ โดยเราต้องทำให้นักลงทุนสนใจ ทำให้ตลาดทุนไทยมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และมีสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง ดังนั้นการซื้อขายด้วยสกุลเงินอื่นๆ ก็เป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อที่จะให้นักลงทุนสามารถซื้อขายได้คล่องตัว เราก็คาดว่าคงจะได้ซื้อขายหุ้นเป็นสกุลเงินหยวนก่อน และหลังจากนั้นคงเป็นสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งตอนนี้ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์มีความพร้อมแล้ว ส่วนที่เหลือจะต้องรอทางแบงก์ชาติ เรื่องกฎเกณฑ์ต่างๆ" นายวรพล กล่าว
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เชื่อมั่นว่านักลงทุนต่างชาติมีความสนใจเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรพัย์แห่งประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อสามารถเปิดโอกสให้รัฐวิสาหกิจสามารถเข้ามาระดมทุนในรูปแบบกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน หรือ Infrastructure Fund ได้โดยคาดว่า กองทุนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. จะสามารถเข้ามาระดมทุนได้ภายในในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 นี้ เพราะดำเนินการไปแล้วกว่า 90% เบื้องต้นคาดมูลค่าระดมทุนราว 2 หมื่นล้านบาท ส่วนอีกราย 1 กองทุนโครงสร้างพื้นฐานของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT
นายวรพล กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ยังถือเป็นแหล่งระดมทุนที่ดีสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือ SME รวมถึงการระดมทุนทำธุรกิจใหม่ๆ ผ่านการระดมทุนในรูปแบบของ Crowd funding หรือ การระดมทุนสาธารณะ โดยหลังสำคัญ คือ การรวบรวมทุนจากผู้คนจำนวนมากเพื่อนำมาใช้ประโยชน์สนับสนุนโครงการต่างๆ ทั้งเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ หรือเพื่อช่วยเหลือสังคม ขั้นตอนทั่วไปคือผู้ที่ต้องารระดมทุนมีการนำเสนอผลงาน ผลิตภัณฑ์ หรือโครงการที่จะต้องทำผ่านเว็บไซด์ที่เป็นสื่อกลางและระบุวงเงินที่ต้องการ หากเป็นที่ถูกใจของประชาชน Crowd ก็จะได้รับเงินลงทุน เพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือโครงการตามที่ได้เสนอไว้
ทั้งนี้ การระดมทุนอาจมี 4 ลักษณะ คือ แบบที่ 1. donation คือผู้ลงทุนบริจาคเงินให้กับผู้ประกอบกิจการ โดยผู้ลงทุนจะไม่ได้รับผลประโยชน์ใดใดตอบแทน เว้นแต่อาจจะได้รับผลประโยชน์ในแง่ของการลดหย่อนภาษี แบบที่ 2. Reward คือ กรณีที่ผู้ประกอบกิจการ ระดมทุนจากผู้ระดมทุน โดยเสนอผลตอบแทนเป็นสิ่งของหรือสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับสินค้าที่ผู้ประกอบการจะดำเนินการผลิตในอนาคต โดยสิทธิประโยชน์ดังกล่าวจะไม่รวมถึงสิทธิที่ได้รับจากส่วนแบ่งกำไร ที่ผู้ประกอบกิจการได้รับ
ส่วนแบบที่ 3. Lending คือ ผู้ประกอบการกิจการระดมุทนจากผู้ลงทุน ในทำนองเดียวกับการของกู้ยืมเงินจากผู้ลงทุน หรือมีการเสนอตราสารหนี้ เพื่อตอบแทนการลงทุน ทั้งนี้ผู้ประกอบการกิจการจะคืนเงินและดอกเบี้ย(ถ้ามี) เมื่อถึงเวลาตามที่กำหนดไว้ และสุดท้าย แบบที่ 4. Equity คือ กรณีที่ผู้ประกอบการกิจการระดมทุนโดยเสนอผลตอบแทน ในรูปแบบหุ้นของบริษัท หรือการเป็นหุ้นส่วนของกิจการให้แก่ผู้ลงทุน ซึ่งทางก.ล.ต. ได้เข้ามาดูในเรื่องของกฎเกณฑ์ต่างๆ ในส่วนสุดท้ายนี้ เป็นหลัก
"Crowdfunding เป็นการสร้างโอกาสให้ผู้มีแนวความคิดใหม่ๆ และมีความคิดดี ไอเดียดี ที่ไม่เงินทุนในการขยาย หรือต่อยอดความคิดของตัวเอง เข้ามาหาแหล่งเงินทุนในหลายๆ รูปแบบ ซึ่งทางก.ล.ต. ได้เข้ามาช่วยในการสนับสนุน เพื่อที่จะให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รองรับการเติบโตของเศรษฐกิจในอนาคต" นายวรพล กล่าว
เลขาธิการ ก.ล.ต. ยังคาดว่า กฎเกณฑ์การนำบริษัทต่างประเทศมาจดทะเบียนโดยตรง หรือ Primary Listing ผ่านตลาดหลักทรัพย์ไทยจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4/58 ซึ่งเป็นไปตามแผนที่ ก.ล.ต.มีความมุ่งหวังที่จะให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการะดมทุนในภูมิภาค โดยเฉพาะกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง หรือ GMS ทั้งนี้ ก.ล.ต. อยู่ระหว่างหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เกี่ยวกับหลักเกณฑ์เพื่อที่จะให้นักลงทุนสามารถซื้อขายเป็นสกุลเงินอื่น นอกเหนือจากเงินบาท โดยอาจเริ่มต้นที่เงินสกุลหยวน เนื่องจากในช่วงปลายปี 57 ก.ล.ต. ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเบื้อบต้น หรือ MOU กับ Bank of China ไปแล้ว
"เรามุ่งหวังที่จะเป็นศูนย์การในการระดมทุนของหลายๆ ประเทศ โดยเราต้องทำให้นักลงทุนสนใจ ทำให้ตลาดทุนไทยมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และมีสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง ดังนั้นการซื้อขายด้วยสกุลเงินอื่นๆ ก็เป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อที่จะให้นักลงทุนสามารถซื้อขายได้คล่องตัว เราก็คาดว่าคงจะได้ซื้อขายหุ้นเป็นสกุลเงินหยวนก่อน และหลังจากนั้นคงเป็นสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งตอนนี้ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์มีความพร้อมแล้ว ส่วนที่เหลือจะต้องรอทางแบงก์ชาติ เรื่องกฎเกณฑ์ต่างๆ" นายวรพล กล่าว