เอพี/เอเอฟพี – กลุ่มนักปีนเขาชาวชิลีเปิดเผยว่า พวกเขาพบซากของเครื่องบินซึ่งตกในแถบเทือกเขาแอนดีสเมื่อ 54 ปีก่อน และเข้าใจกันว่าผู้ที่อยู่บนเครื่องบินทั้ง 24 คนเสียชีวิตทั้งหมด โดยในจำนวนนี้เป็นนักฟุตบอลของทีมค้าแข้งในลีกสูงสุดของชิลี 8 คน และสตาฟฟ์โคชอีก 2 คน
เมื่อวันอาทิตย์ (8 ก.พ.) โทรทัศน์ของชิลีได้เผยแพร่ภาพซากเครื่องบินโดยสารแบบ ดักลาส ดีซี-3 ของสายการบิน แลนแอร์ไลนส์ ที่อยู่ในสภาพบิดเบี้ยวซีกขาด หลังจากตกลงมาโหม่งโลกในวันที่ 3 เมษายน ปี 1961 โดยภาพเหล่านี้ได้มาจากคณะนักปีนเขา ซึ่งระบุว่าพบซากดังกล่าวบนเทือกเขาแอนดีส ณ ระดับความสูงประมาณ 10,500 ฟุต (3,200 เมตร) ห่างจากกรุงซันติอาโก ไปทางใต้ราว 360 กิโลเมตร ลีโอนาร์โด อัลบอร์นอซ สมาชิกคนหนึ่งของคณะนักปีนเขานี้บอกกับโทรทัศน์ช่อง 7 ของชิลีว่า พวกเขาขอเก็บพิกัดแน่นอนที่พบซากเครื่องบินลำนี้เอาไว้เป็นความลับ เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครไปรบกวนปล้นชิง
การหายสาบสูญเมื่อกว่าครึ่งศวรรษของเครื่องบินโดยสารซึ่งมีสมาชิกของทีมฟุตบอล “กรีนครอสส์” ที่อยู่ในดิวิชั่นสูงสุดของชิลี เดินทางไปด้วย ถือเป็นหนึ่งในเรื่องปริศนาใหญ่ที่ยังไม่มีคำเฉลยในประเทศแถบอเมริกาใต้แห่งนี้ รวมทั้งยังสร้างความตื่นตะลึงให้แก่โลกกีฬาในเวลานั้นด้วย
ทีมกรีนครอสส์ ได้เดินทางไปเล่นนัดเยือนในรายการแข่งขันชิงถ้วย โกปา เด ชิลี ที่เมืองโอซอร์โน และกำลังเดินทางกลับซันติอาโก โดยนักฟุตบอลและสตาฟฟ์ได้แบ่งกันเดินทางใน 2 เที่ยวบิน ปรากฏว่าเครื่องบินลำหนึ่งไปถึงเมืองหลวงของชิลีอย่างปลอดภัย ทว่าอีกลำหนึ่งหายสาบสูญ โดยผู้ที่โดยสารในลำดังกล่าวมีนักฟุตบอลทีมกรีนครอสส์ 8 คน พร้อมกับ อาร์นัลโด บาสเกซ โค้ชของทีม และทีมงานอีกคนหนึ่ง ตลอดจนเพื่อนๆ ของพวกเขา
เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการค้นหาเครื่องบินที่หายไป ทว่าคว้าน้ำเหลว ในเวลาต่อมาได้มีการจัดพิธีศพเป็นสัญลักษณ์ขึ้นสำหรับนักฟุตบอลซึ่งสาปสูญไปเหล่านี้ ปรากฏว่ามีผู้คนจำนวนมากมายเข้าร่วม
ทีมกรีนครอสส์เล่นอยู่ในดิวิชั่นสูงสุดของชิลีต่อมาอีกไม่กี่ปี ก็มีการยุบสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ไปควบรวมกับสโมสรอื่นในปี 1965
อัลบอร์นอซ บอกว่า ช่วงขณะที่พบเครื่องบินลำนี้ “เป็นช่วงขณะที่น่าตื่นเต้นเหลือเกิน พวกเราต่างมีอารมณ์ความรู้สึกทุกๆ ชนิดเลย ทุกๆ คนสามารถรู้สึกได้ถึงพลังของสถานที่ตรงนั้น และต่างหายใจเอาความเจ็บปวดเข้ามา”
นักปีนเขาคณะนี้บอกว่า พวกเขาสามารถมองเห็นชิ้นส่วนลำตัวเครื่องบินชิ้นหนึ่งซึ่งยังอยู่ในสภาพดี โดยที่ไม่ต้องขุดมันขึ้นมาแต่อย่างใด นอกจากนั้นก็พบเศษซากเครื่องบินและเศษกระดูกตกอยู่เกลื่อน
หลังจากเครื่องบินลำนี้สูญหายไป ได้มีนักบินของสายการบินแลนแอร์ไลนส์ผู้หนึ่งแจ้งว่า ได้พบเห็นอะไรบางอย่างซึ่งเขาคิดว่าเป็นเครื่องบินลำที่ตก ในบริเวณใกล้ๆ กับเมืองลินาเรส ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงซันติอาโกไปทางใต้ราว 303 กิโลเมตร และจากนั้นเอกสารของทางการก็มักอ้างอิงว่าเครื่องบินลำนี้น่าจะตกที่บริเวณดังกล่าว ซึ่งปรากฏว่าเป็นคนละบริเวณกับจุดที่คณะนักปีนเขาพบซากของมันจริงๆ
เมื่อวันอาทิตย์ (8 ก.พ.) โทรทัศน์ของชิลีได้เผยแพร่ภาพซากเครื่องบินโดยสารแบบ ดักลาส ดีซี-3 ของสายการบิน แลนแอร์ไลนส์ ที่อยู่ในสภาพบิดเบี้ยวซีกขาด หลังจากตกลงมาโหม่งโลกในวันที่ 3 เมษายน ปี 1961 โดยภาพเหล่านี้ได้มาจากคณะนักปีนเขา ซึ่งระบุว่าพบซากดังกล่าวบนเทือกเขาแอนดีส ณ ระดับความสูงประมาณ 10,500 ฟุต (3,200 เมตร) ห่างจากกรุงซันติอาโก ไปทางใต้ราว 360 กิโลเมตร ลีโอนาร์โด อัลบอร์นอซ สมาชิกคนหนึ่งของคณะนักปีนเขานี้บอกกับโทรทัศน์ช่อง 7 ของชิลีว่า พวกเขาขอเก็บพิกัดแน่นอนที่พบซากเครื่องบินลำนี้เอาไว้เป็นความลับ เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครไปรบกวนปล้นชิง
การหายสาบสูญเมื่อกว่าครึ่งศวรรษของเครื่องบินโดยสารซึ่งมีสมาชิกของทีมฟุตบอล “กรีนครอสส์” ที่อยู่ในดิวิชั่นสูงสุดของชิลี เดินทางไปด้วย ถือเป็นหนึ่งในเรื่องปริศนาใหญ่ที่ยังไม่มีคำเฉลยในประเทศแถบอเมริกาใต้แห่งนี้ รวมทั้งยังสร้างความตื่นตะลึงให้แก่โลกกีฬาในเวลานั้นด้วย
ทีมกรีนครอสส์ ได้เดินทางไปเล่นนัดเยือนในรายการแข่งขันชิงถ้วย โกปา เด ชิลี ที่เมืองโอซอร์โน และกำลังเดินทางกลับซันติอาโก โดยนักฟุตบอลและสตาฟฟ์ได้แบ่งกันเดินทางใน 2 เที่ยวบิน ปรากฏว่าเครื่องบินลำหนึ่งไปถึงเมืองหลวงของชิลีอย่างปลอดภัย ทว่าอีกลำหนึ่งหายสาบสูญ โดยผู้ที่โดยสารในลำดังกล่าวมีนักฟุตบอลทีมกรีนครอสส์ 8 คน พร้อมกับ อาร์นัลโด บาสเกซ โค้ชของทีม และทีมงานอีกคนหนึ่ง ตลอดจนเพื่อนๆ ของพวกเขา
เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการค้นหาเครื่องบินที่หายไป ทว่าคว้าน้ำเหลว ในเวลาต่อมาได้มีการจัดพิธีศพเป็นสัญลักษณ์ขึ้นสำหรับนักฟุตบอลซึ่งสาปสูญไปเหล่านี้ ปรากฏว่ามีผู้คนจำนวนมากมายเข้าร่วม
ทีมกรีนครอสส์เล่นอยู่ในดิวิชั่นสูงสุดของชิลีต่อมาอีกไม่กี่ปี ก็มีการยุบสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ไปควบรวมกับสโมสรอื่นในปี 1965
อัลบอร์นอซ บอกว่า ช่วงขณะที่พบเครื่องบินลำนี้ “เป็นช่วงขณะที่น่าตื่นเต้นเหลือเกิน พวกเราต่างมีอารมณ์ความรู้สึกทุกๆ ชนิดเลย ทุกๆ คนสามารถรู้สึกได้ถึงพลังของสถานที่ตรงนั้น และต่างหายใจเอาความเจ็บปวดเข้ามา”
นักปีนเขาคณะนี้บอกว่า พวกเขาสามารถมองเห็นชิ้นส่วนลำตัวเครื่องบินชิ้นหนึ่งซึ่งยังอยู่ในสภาพดี โดยที่ไม่ต้องขุดมันขึ้นมาแต่อย่างใด นอกจากนั้นก็พบเศษซากเครื่องบินและเศษกระดูกตกอยู่เกลื่อน
หลังจากเครื่องบินลำนี้สูญหายไป ได้มีนักบินของสายการบินแลนแอร์ไลนส์ผู้หนึ่งแจ้งว่า ได้พบเห็นอะไรบางอย่างซึ่งเขาคิดว่าเป็นเครื่องบินลำที่ตก ในบริเวณใกล้ๆ กับเมืองลินาเรส ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงซันติอาโกไปทางใต้ราว 303 กิโลเมตร และจากนั้นเอกสารของทางการก็มักอ้างอิงว่าเครื่องบินลำนี้น่าจะตกที่บริเวณดังกล่าว ซึ่งปรากฏว่าเป็นคนละบริเวณกับจุดที่คณะนักปีนเขาพบซากของมันจริงๆ
