โฆษก ตร.เผยได้เบาะแสใกล้ถึงตัวคนจัดทำแถลงการณ์ปลอมแล้ว ทำขึ้นในประเทศไทย ด้าน"แก๊งแดง"ดิ้น ส่งทนายช่วยเหลือ แต่ทหารยังไม่ให้พบ ระบุมีอำนาจควบคุมตัวตามกฎอัยการศึก แฉภาพมือโพสต์แถลงการณ์ปลอมถ่ายรูปแนบชิดแกนนำ มีทั้ง "แม้ว-จารุพงศ์-รองโรมานอฟ" ด้าน"ตู่"ยอมรับรู้จัก อ้างตกเป็นเหยื่อโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
วานนี้ ( 5 ก.พ.) ที่กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึง กรณี นายกฤษณ์ บุดดีจีน ชาวเพชรบูรณ์ ซึ่งถูกจับกุมในคดีเผยแพร่แถลงการณ์ ฉบับที่ 13 ของสำนักพระราชวังปลอม ขณะนี้ถูกควบคุมตัวไว้ที่ ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) ว่า ก็จะมีการดำเนินคดี ตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งรัฐบาลดำเนินการด้วยความยุติธรรม และไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยหลังจากมีการเผยแพร่ ได้ตรวจสอบพบไอพีแอ็ดเดรส อยู่ที่คอมพิวเตอร์บ้านผู้ต้องหา เบื้องต้นทราบว่า เป็นแค่คนโพสต์ หรือแชร์ต่อ ยังไม่ใช่คนที่ผลิต หรือทำเอกสารปลอม ซึ่งได้มีการนำตัวผู้ต้องหามาสอบสวนหาความเชื่อมโยงถึงผู้กระทำผิด ว่าได้ข้อมูลมาจากไหน เพื่อสืบสวนให้ถึงต้นตอที่ทำข้อมูล
พล.อ.ไพบูลย์ ยังกล่าวถึง การดำเนินการกับผู้กระทำความผิดหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่หลบหนีไปต่างประเทศ ว่า ขณะนี้คณะทำงาน กำลังดำเนินการรวบรวมหลักฐาน ข้อมูล รวมถึงเหตุผลในการติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี โดยให้กระทรวงการต่างประเทศทำข้อมูลชี้แจงไปยังประเทศที่มีผู้ต้องหาตามคดีดังกล่าวพำนักอยู่ เพื่อให้ประเทศนั้นๆได้ทราบถึงความกังวล ความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยกลุ่มคนเหล่านี้ยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอด และเพื่อให้ทราบว่า คนในประเทศไทยรู้สึกอย่างไรในเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ ฝ่ายที่มีหน้าที่ปราบปรามผู้กระทำความผิด ต้องไปสืบสวนหาข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลนั้น ว่าอยู่ประเทศใด โดยมีหลักฐานยืนยันชัดเจน พร้อมทั้งรายละเอียดเคลื่อนไหวผ่านระบบโซเชียลมีเดีย ว่ามี ไอพีแอ็ดเดรส อยู่ในประเทศนั้นๆ และช่วงเวลาใดบ้าง
" เบื้องต้นได้รับข้อมูลบุคคลที่ถูกออกหมายจับ และเคลื่อนไหวในต่างประเทศ จำนวน 40 คน หลังจากนี้ คณะทำงานและกระทรวงต่างประเทศต้องดำเนินการหาข้อมูล และชี้แจงไปประเทศที่กลุ่มผู้ต้องหาพำนักอยู่ เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนความคาดหวังที่จะนำคนทั้ง 40 คน ตามหมายจับมาดำเนินการในเวลาอันใกล้นั้น คงเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากมีอุปสรรคเรื่องกฎหมาย การแลกเปลี่ยน หรือส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย รวมทั้งเรื่องสิทธิมนุษยชน ความแตกต่างในเรื่องกฎหมายของสองประเทศ อย่างไรก็ตาม คาดหวังให้ประเทศเหล่านี้ ตระหนักว่าต้องควบคุมคนเหล่านี้ไม่ให้เคลื่อนไหวใดๆได้อีก" พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว
**ผู้ทำแถลงการณ์ปลอมอยู่ในไทย
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าการติดตามจับกุมตัวผู้จัดทำแถลงการณ์สำนักพระราชวังปลอม ซึ่งถูกเผยแพร่เมื่อค่ำวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า จากการไล่ตรวจสอบเส้นทางที่มาข้อการเผยแพร่แถลงการณ์ดังกล่าว ได้เบาะแสใกล้ถึงตัวคนจัดทำแล้ว ซึ่งมีหลักฐานยืนยันได้ว่า คนจัดทำอยู่ประเทศไทย และมีการพิมพ์แล้วสแกนเอกสารส่งต่อไปมาทางโซเชียลมีเดีย ทั้งไทยและต่างประเทศ คาดมีความชัดเจนมากขึ้นในเร็วๆ นี้
ส่วนที่แกนนำเสื้อแดงหลาย คนออกมาปฏิเสธว่า นายกฤษณ์ บุดดีจีน ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ไม่ใช่แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ แดงเทียมนั้น ยืนยันว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพเอง และจากการตรวจสอบประวัติ หรือเพจของผู้ต้องหารายนี้ มีการเคลื่อนไหว และทำกิจกรรมร่วมกับคนเสื้อแดงมาตลอด ส่วนตัวผู้ต้องหาขณะนี้ อยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ทหาร ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ตามกฎอัยการศึก ซึ่งยังไม่สามารถประกันตัวได้
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังกล่าวด้วยว่า หากพบว่าบุคคลใดยังเผยแพร่แถลงการณ์ดังกล่าวอยู่ หากตรวจสอบพบจะต้องถูกดำเนินคดี แต่ยอมรับว่า หลังจากที่รู้ว่าแถลงการณ์ดังกล่าวเป็นของปลอม ส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือ และหยุดเผยแพร่ทันที
**แฉภาพมือโพสต์แนบชิด แม้ว-จารุพงศ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบปากคำนายกฤษณ์ เบื้องต้นผู้ต้องหายอมรับว่า เป็นเครือข่าย นปช. ซึ่งทำงานและช่วยหัวหน้าแกนนำนปช. จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งยังมีการเคลื่อนไหวในลักษณะต่างๆ อยู่ในพื้นที่ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโพสต์เอกสารดังกล่าวจริง แต่ไม่ได้เป็นคนทำแถลงการณ์ขึ้นมา โดยรับมาจากแนวร่วมนปช. อีกคน และเจตนาโพสต์ เนื่องจากเห็นว่าเป็นข้อมูลใหม่ จึงต้องการเผยแพร่ไปยังสมาชิกในเฟซบุ๊ก ที่มีอยู่กว่า 4 พันคน
นอกจากนี้ ในสังคมออนไลน์ มีการเผยแพร่ภาพ นายกฤษณ์ ในอดีต ซึ่งเคยถ่ายภาพคู่กับบุคคลสำคัญของพรรคเพื่อไทย และกลุ่มคนเสื้อแดงหลายคน อาทิ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนักโทษชายหนีคดี , นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ปัจจุบันได้หลบหนีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมก่อตั้งองค์การเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในสหรัฐอเมริกา โดยดำรงตำแหน่งเลขาธิการ , พ.อ.ดร.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง ซึ่งปัจจุบันได้เสียชีวิตไปแล้ว , น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย รวมไปถึง นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง
**ไม่ให้ทนายนปช.เข้าเยี่ยม"กฤษณ์"
วานนี้ (5 ก.พ.) นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดเผยว่า ตนพร้อมทีมทนายความของนปช. จะเดินทางไปเยี่ยม นายกฤษณ์ บุดดีจีน ผู้ต้องหาในคดีเผยแพร่แถลงการณ์ฉบับที่ 13 ของสำนักพระราชวังปลอม ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) ในฐานะทนายความ หากมีการสอบสวน ก็จะต้องเข้าร่วมสอบสวนด้วย โดยตนได้รับมอบหมายมาจาก นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. เพื่อให้การช่วยเหลือทางด้านคดีแก่นายกฤษณ์ ทั้งนี้ต้องประสานกับ พ.อ.สุชาติ พรมใหม่ ผบ.ร. 11 รอ. อีกครั้งว่าจะให้ตน และทีมทนายสามารถเข้าไปใน ร.11 รอ. ได้หรือไม่
ต่อมานายวิญญัติ เปิดเผยว่า หลังติดต่อไปนายทหารพระธรรมนูญ ที่กรมทหารรราบที่ 11 รักษาพระองค์แล้ว แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพบ โดยนายทหารพระธรรมนูญ ระบุว่า นายกฤษณ์ ถูกควบคุมตัวตามกฎอัยการศึกไดั 7 วัน พร้อมย้ำด้วยว่าสถานการณ์ขณะนี้อยู่ในช่วงการประกาศกฎอัยการศึก จึงถือเป็นกฎหมายหลักที่บังคับใช้
อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายว่า แม้จะบังคับใช้กฎอัยการศึก แต่ผู้ต้องหาก็ต้องได้รับการคุ้มครองตามหลักสิทธิมนุษยชน และตามรัฐธรรมนูญ
ด้านนายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ โฆษก นปช. กล่าวว่า กรณีนี้ควรต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ด้วยว่า เข้าองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ เพราะเป็นการโพสต์ จากการแชร์ต่อกันมา แต่กลับเลือกจับกุมตัวเฉพาะผู้ที่เป็นเครือข่ายประสานงานของนปช. จึงขอให้ผู้เกี่ยวข้องได้ทบทวนอีกครั้งว่า มีเจตนากลั่นแกล้งทางการเมือง กับคนเสื้อแดงหรือไม่
**"ตู่"ยอมรับรู้จักมือโพสต์
ด้านนายจตุพร พรหมพันธ์ ประธาน นปช. กล่าวผ่านรายการมองไกล ทางพีซทีวี ซึ่งเป็นทีวีคนเสื้อแดง ว่า เมื่อตนเห็นหน้า นายกฤษณ์ บุดดีจีน นปช. เพชรบูรณ์ แล้วนึกหน้าได้ว่า เป็นคนเสื้อแดงจริง เคยพบตอนงานศพ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย แกนนำคนเสื้อแดง
"ผมได้มอบหมายให้ นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความนปช. เดินทางไป กรมทหารราบ11 เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านทนาย กับนายกฤษณ์ ที่พูดนี่ไม่ได้ปกป้อง ใครผิดก็ว่าไปตามผิด ใครถูกก็ว่าไปตามถูก"
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า นายกฤษณ์ ไม่ใช่คนเขียนแถลงการณ์ปลอม เป็นเพียงเหยื่อในโลกไซเบอร์ และ เชื่อว่านายกฤษณ์ รู้เท่าไม่ถึงการณ์
"ความรุนแรงพวกผมปฏิเสธมาตลอด ไม่เชื่อว่า สงครามจะชนะด้วยสงคราม ปืนจะชนะด้วยปืน ระเบิดจะชนะด้วยระเบิด แต่จะจบด้วยเจรจาสันติภาพ การวางระเบิดหน้าสยามพารากอน คนเหล่านี้จงใจให้เห็นหน้า เพราะการวางระบิดรอยต่อปีใหม่ 49-50 ไม่เห็นหน้าใคร เหตุหน้าสยามพารากอน ผู้ต้องหาต้องการให้เห็นตัวคน เพื่อตำรวจจะได้ตั้งเค้าเป็นคนเสื้อแดง เราเป็นลูกผู้ชาย ใจเป็นนักเลงพอ นปช.เมื่อประกาศจะแสดงความเห็นในที่ตั้ง ก็ทำตามนั้น เราเป็นคนมีเกียรติ แต่วิธีการที่ยั่ว ปฏิบัติการณ์ที่จะเอาเรื่องให้ได้ มนุษย์ไม่มีใครยอมถูกกระทืบฝ่ายเดียว อย่าพยายามยั่วโมโหกันให้มาก" นายจตุพร กล่าว
**คสช.คุมตัวคนแชร์แถลงการณ์ 7 วัน
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ในฐานะคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีนายกฤษณ์ บุตรดีจีน ผู้ที่แชร์ หรือแพร่แถลงการณ์สำนักพระราชวังปลอมว่า ขณะนี้อยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินการในขั้นตอนการสอบสวนซักถาม ซึ่งอาจใช้เวลาระยะหนึ่งไม่เกิน 7 วัน เนื่องจากเป็นคดีที่ละเอียดอ่อน มีผลกระทบต่อจิตใจคนไทย ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวัง และใช้เวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริง อย่างถี่ถ้วน เพื่อให้ได้ตัวผู้ที่กระทำผิด และผู้เกี่ยวข้องมาเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย
ส่วนสถานที่ควบคุมนั้น ตนยังไม่มีข้อมูล ถือเป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ แต่มั่นใจว่า ทางเจ้าหน้าที่จะมีการดูแลให้อย่างเหมาะสม เหมือนกรณีอื่นๆที่ผ่านมา อีกทั้ง ถ้ายังไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆ ก็จะไม่มีการปฏิบัติต่อผู้ถูกควบคุม ในลักษณะของผู้ทำความผิด ตามแนวทางปกติที่ผ่านมา
**จ่อสอบดาบ.ตร.ที่อยู่กับมือโพสต์
พล.ต.ต.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ กล่าวถึง เครือข่ายหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ หลังเจ้าหน้าที่จับกุม นายกฤษณ์ หรือ “เน็ท”บุดดีจีน รองประธาน นปช.เพชรบูรณ์ ในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ว่า เครือข่ายหมิ่นเบื้องสูง ก็ยังมีอยู่ตลอด เพียงแต่ว่า พฤติกรรมที่มีการแสดงออกเป็นห้วงระเวลาที่จะทำกันออกมา โดยทางเจ้าหน้าที่ไม่อาจจะทราบได้ว่า จะทำลักษณะนี้กันเมื่อไหร่ แต่เมื่อเปิดออกมาก็ต้องไล่ตามว่าต้นตอมาจากไหนและมีเจตนาเพื่ออะไร เจตนาเพื่อปลุกกระแสความเคลื่อนไหว หรือเพื่อความสนุกสนาน
พล.ต.ต.อภิชาติ ยังยกตัวอย่างกรณีนายกฤษณ์ ว่า อย่างรายนี้พอเริ่มแพร่ และมีถิ่นที่อยู่ๆในเพชรบูรณ์ ทางส่วนกลางมีการติดตามสืบสวนสอบสวน จากนั้นจึงเอาข้อมูลมาประสานกับทางพื้นที่ เพื่อเข้าไปตรวจสอบ โดยใช้อำนาจของกฎอัยการศึก แล้วก็มีการนำตัวผู้ต้องหาไป ทางเราเป็นแค่ปลายทาง และสนับสนุนการทำงานเท่านั้นเอง
สำหรับกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารเข้าตรวจค้นในคืนเดียวกับการตรวจค้นบ้านพักนายกฤษณ์ ล่าสุดตำรวจสันติบาลรายนี้ ได้ถูกเรียกตัวกลับต้นสังกัดไปเรียบร้อยแล้ว
ส่วนนายคมกฤษณ์ ลิขิตเจริญพงษ์ สมาชิกในกลุ่มคนเสื้อแดงเพชรบูรณ์อีกราย ทางเจ้าหน้าที่ตรวจพบโพยหวยกินรวบ จำนวน 366 ฉบับ รวมยอดเงิน 2.9 ล้านบาทเศษ จึงนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ดำเนินคดีในข้อหาเล่นการพนันสลากกินรวบฝ่ายเจ้ามือ (ผู้เดินโพย) ล่าสุดยังอยู่ในชั้นสอบสวน โดยนายคมกฤษณ์ ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ด้านครอบครัวนายกฤษณ์ หนุ่มเสื้อแดงมือโพสแถลงการณ์ปลอม เริ่มได้รับผลกระทบตามมาแล้ว โดยเฉพาะธุรกิจการค้า ซึ่งเดิมเคยมีลูกค้าอุดหนุนกันหนาแน่น แต่ปัจจุบันกับเริ่มเบาบางลง
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปขอสอบถามข้อมูล ก็ได้รับจากปฎิเสธจากพ่อ และแม่ของนายกฤษณ์ โดยอ้างว่า หลังมีภาพมารดานายกฤษณ์ ให้สัมภาษณ์ไปปรากฏทางสื่อทีวี ทำให้เริ่มมีผลกระทบตามมา นอกจากนี้ยังหวั่นเกรงว่าญาติพี่น้อง และคนใกล้ชิด จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม พ่อและแม่ของนายกฤษณ์ ต่างยืนยันว่า สิ่งที่ลูกชายทำไป เพียงเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์เท่านั้น และเมื่อพบเห็นสิ่งผิดปกติ ก็ลบทิ้งทันที
ส่วนการที่ลูกชายเข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มคนเสื้อแดง ก็เป็นแค่การแสดงออกเพราะมีความเห็นต่าง และไม่ได้ทำให้ใครเกิดความเสียหาย