ตร.ขออำนาจศาลฝากขัง-ค้านประกัน 4 ผู้ต้องหา ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตส่งตัวเข้าเรือนจำฯ ด้านหัวหน้าการ์ด นปช.ร้อนตัวแจ้งจับผู้ต้องหาคดียิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. บิ๊กซี ราชดำริ อ้างไม่เคยรู้จักกับผู้ต้องหาที่ถูกจับทั้ง 7 ราย แก้เกี้ยวเล็งแจ้งหมิ่นนสพ.เอเอสทีวีผู้จัดการ ส่วน "ไอ้ตู่" โบ้ยไม่รู้จักทีมยิงเอ็ม 79 เล่นลิ้น นปช.ไม่นิยมความรุนแรง
วานนี้ (17 ก.ค.) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ควบคุมตัว นายทวีชัย หรือวี วิชาคำ อายุ 39 ปี, นายสุนทร หรือทร ผิผ่วนนอก อายุ 49 ปี, นายสมศรี หรือเยอะ มาฤทธิ์ อายุ 40 ปี และนายชัชวาล หรือชัช ปราบบำรุง อายุ 45 ปี ผู้ต้องหายิงเอ็ม 79 ลงหน้าห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี ราชดำริ เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา มายื่นขออำนาจศาลฝากขังเป็นครั้งแรก โดยคำร้องฝากขังระบุว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาไว้พร้อมแจ้งข้อหาว่าร่วมกับพวกที่ยังหลบหนี มีและใช้เครื่องยิงลูกระเบิดอันเป็นยุทธปัจจัยที่พลเรือนไม่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนสงครามและเครื่องประกอบยิง กับวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง
พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2557 ผู้ต้องหากับพวกที่หลบหนี ใช้อาวุธเครื่องยิงลูกระเบิดวิถีโค้งประทับไหล่ เอ็ม 79 ขนาด 40 มม. ยิงจากรถกระบะบนสะพานลอยข้ามแยกประตูน้ำเข้าใส่พื้นที่การชุมนุม กปปส. โดยประสงค์ต่อผลและมีเจตนาฆ่า น.ส.ฐิติพรรณ สุวรรณมณี อายุ 59 ปี, ด.ญ.พัชรากร ยศอุบล อายุ 6 ปี, ด.ช.กรวิชช์ ยศอุบล อายุ 4 ปี และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 21 คน
ต่อมาตำรวจจับกุมได้ พร้อมยึดของกลาง มี 1. รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีทอง หมายเลขทะเบียน ศธ 8739 กรุงเทพมหานคร 2. รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นมิวเซเว่น สีดำ หมายเลขทะเบียน ศย 8904 กรุงเทพมหานคร 3. รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน ฒษ 4664 กรุงเทพมหานคร 4. เครื่องยิงลูกระเบิดประทับไหล่วิถีโค้ง แบบเอ็ม 79 รหัสตัวปืน 105294 จำนวน 1 กระบอก 5. ลูกเอ็ม 79 ชนิด 40 มม. 25 นัด 6. อาวุธปืนสงคราม ปลย.16 หรือเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก 7. ลูกกระสุนขนาด 5.56 มม. จำนวน 70 นัด 8. อาวุธปืนยาวไรเฟิล จำนวน 1 กระบอก 9. ลูกระเบิดชนิดขว้างสังหาร วี 40 จำนวน 2 ลูก ชนิดทำในจีนจำนวน 5 ลูก, ชนิดน้อยหน่า เอ็มเค 2 จำนวน 2 ลูก, ชนิดเอ็ม 26 จำนวน 1 ลูก
ทั้งนี้ เจ้าพนักงานตำรวจได้ทำการสอบสวนผู้ต้องหามาแล้วจะครบ 48 ชั่วโมง แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ยังต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ต่างๆ จึงขอฝากขังเป็นเวลา 12 วัน และขอคัดค้านการประกันตัว ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังตามคำร้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะนำตัวไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครต่อไป
** “อารีย์” เต้นผ่างโร่ฟ้องกราวรูด
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม นายอารีย์ ไกรนรา หัวหน้าการ์ดกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผู้บังคับการกองปราบปราม (รอง ผบก.ป.) เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายชัชวาล ปราบบำรุง ผู้ต้องหาคดียิงเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ราชดำริ กทม.ซึ่งมีการให้การพาดพิงว่า นายอารีย์เป็นผู้จ้างวานโดยแจ้งดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
นายอารีย์ กล่าวว่า กรณีที่นายชัชวาล กล่าวอ้างว่าเป็นลูกน้องตน และเป็นได้รับการจ้างวานจากตนไปก่อเหตุยิงเอ็ม 79 นั้น ไม่เป็นความจริง ตนไม่รู้จักกับนายชัชวาล รวมทั้งนายต้อม และผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ที่ถูกออกหมายจับในคดียิงปืนยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ในระหว่างการชุมนุมทางการเมืองดังกล่าว นอกจากนี้หลังจากที่ตนได้ตรวจสอบก็ไม่พบว่ามีการ์ด นปช.คนใดที่ชื่อเดียวกับนายชัชวาล การกล่าวหาตนครั้งนี้ทำให้ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกเข้าใจผิด และดูหมิ่นเกลียดชัง จึงต้องแจ้งความดำเนินคดี
"ผมประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับหนังสือพิมพ์รายวัน รวม 3 ฉบับ ประกอบด้วย น.ส.พ.เอเอสทีวีผู้จัดการ น.ส.พ.แนวหน้า และ น.ส.พ.ไทยโพสต์ รวมทั้งนายภากร นครกุลเชษฐ์ ซึ่งโพสข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในกรณีเดียวกันด้วย" หัวหน้าการ์ดคนเสื้อแดงกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รับเรื่องไว้ และมอบหมายให้พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.ได้สอบปากคำผู้ร้องและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ รวมทั้งแสวงหาข้อเท็จจริงตามขั้นตอนการดำเนินคดี ก่อนนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
** “ไอ้ตู่” โอดปรักปรำ-ทำ นปช.เสียหาย
ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธ์ ประธาน นปช. กล่าวถึงกรณีการจับกุมอาวุธสงครามและมีการซัดทอด นายอารีย์ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเสียหายกับกลุ่ม นปช. ที่ยึดถือแนวทางไม่ใช้ความรุนแรงอยู่แล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงไม่เกี่ยวกับ นปช. และผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างนายอารีย์ ก็ได้ไปแจ้งความเอาผิดผู้ที่ให้การใส่ความ ปรักปรำ รวมทั้งสื่อมวลชนที่นำไปเผยแพร่แล้ว อีกทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่มีเนื้อความที่ชัดเจนแต่อย่างใด เชื่อว่าประชาชนที่ได้รับทราบข่าวสาร คงจะมีความเข้าใจ ส่วนคดีที่ผู้ต้องหายิงเอ็ม 79 ให้การว่าได้ไปรับอาวุธสงครามเพื่อก่อเหตุ ที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าวนั้น ยืนยันว่าไม่จริง เรามีการลงทะเบียนและตรวจสอบกกลุ่ม นปช.
“บุคคลที่ถูกจับกุมและซัดทอดมานั้น ผมไม่รู้จักสักคน” นายจตุพร ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัจจุบันนายอารีย์ยังเป็นผู้ดูแลการ์ด นปช.อยู่หรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ในช่วงที่ต้องยุติบทบาททางการเมืองไปก่อน จึงยังไม่มีหน้าที่อะไร
วานนี้ (17 ก.ค.) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ควบคุมตัว นายทวีชัย หรือวี วิชาคำ อายุ 39 ปี, นายสุนทร หรือทร ผิผ่วนนอก อายุ 49 ปี, นายสมศรี หรือเยอะ มาฤทธิ์ อายุ 40 ปี และนายชัชวาล หรือชัช ปราบบำรุง อายุ 45 ปี ผู้ต้องหายิงเอ็ม 79 ลงหน้าห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี ราชดำริ เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา มายื่นขออำนาจศาลฝากขังเป็นครั้งแรก โดยคำร้องฝากขังระบุว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาไว้พร้อมแจ้งข้อหาว่าร่วมกับพวกที่ยังหลบหนี มีและใช้เครื่องยิงลูกระเบิดอันเป็นยุทธปัจจัยที่พลเรือนไม่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนสงครามและเครื่องประกอบยิง กับวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง
พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2557 ผู้ต้องหากับพวกที่หลบหนี ใช้อาวุธเครื่องยิงลูกระเบิดวิถีโค้งประทับไหล่ เอ็ม 79 ขนาด 40 มม. ยิงจากรถกระบะบนสะพานลอยข้ามแยกประตูน้ำเข้าใส่พื้นที่การชุมนุม กปปส. โดยประสงค์ต่อผลและมีเจตนาฆ่า น.ส.ฐิติพรรณ สุวรรณมณี อายุ 59 ปี, ด.ญ.พัชรากร ยศอุบล อายุ 6 ปี, ด.ช.กรวิชช์ ยศอุบล อายุ 4 ปี และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 21 คน
ต่อมาตำรวจจับกุมได้ พร้อมยึดของกลาง มี 1. รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีทอง หมายเลขทะเบียน ศธ 8739 กรุงเทพมหานคร 2. รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นมิวเซเว่น สีดำ หมายเลขทะเบียน ศย 8904 กรุงเทพมหานคร 3. รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน ฒษ 4664 กรุงเทพมหานคร 4. เครื่องยิงลูกระเบิดประทับไหล่วิถีโค้ง แบบเอ็ม 79 รหัสตัวปืน 105294 จำนวน 1 กระบอก 5. ลูกเอ็ม 79 ชนิด 40 มม. 25 นัด 6. อาวุธปืนสงคราม ปลย.16 หรือเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก 7. ลูกกระสุนขนาด 5.56 มม. จำนวน 70 นัด 8. อาวุธปืนยาวไรเฟิล จำนวน 1 กระบอก 9. ลูกระเบิดชนิดขว้างสังหาร วี 40 จำนวน 2 ลูก ชนิดทำในจีนจำนวน 5 ลูก, ชนิดน้อยหน่า เอ็มเค 2 จำนวน 2 ลูก, ชนิดเอ็ม 26 จำนวน 1 ลูก
ทั้งนี้ เจ้าพนักงานตำรวจได้ทำการสอบสวนผู้ต้องหามาแล้วจะครบ 48 ชั่วโมง แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ยังต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ต่างๆ จึงขอฝากขังเป็นเวลา 12 วัน และขอคัดค้านการประกันตัว ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังตามคำร้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะนำตัวไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครต่อไป
** “อารีย์” เต้นผ่างโร่ฟ้องกราวรูด
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม นายอารีย์ ไกรนรา หัวหน้าการ์ดกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผู้บังคับการกองปราบปราม (รอง ผบก.ป.) เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายชัชวาล ปราบบำรุง ผู้ต้องหาคดียิงเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ราชดำริ กทม.ซึ่งมีการให้การพาดพิงว่า นายอารีย์เป็นผู้จ้างวานโดยแจ้งดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
นายอารีย์ กล่าวว่า กรณีที่นายชัชวาล กล่าวอ้างว่าเป็นลูกน้องตน และเป็นได้รับการจ้างวานจากตนไปก่อเหตุยิงเอ็ม 79 นั้น ไม่เป็นความจริง ตนไม่รู้จักกับนายชัชวาล รวมทั้งนายต้อม และผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ที่ถูกออกหมายจับในคดียิงปืนยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ในระหว่างการชุมนุมทางการเมืองดังกล่าว นอกจากนี้หลังจากที่ตนได้ตรวจสอบก็ไม่พบว่ามีการ์ด นปช.คนใดที่ชื่อเดียวกับนายชัชวาล การกล่าวหาตนครั้งนี้ทำให้ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกเข้าใจผิด และดูหมิ่นเกลียดชัง จึงต้องแจ้งความดำเนินคดี
"ผมประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับหนังสือพิมพ์รายวัน รวม 3 ฉบับ ประกอบด้วย น.ส.พ.เอเอสทีวีผู้จัดการ น.ส.พ.แนวหน้า และ น.ส.พ.ไทยโพสต์ รวมทั้งนายภากร นครกุลเชษฐ์ ซึ่งโพสข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในกรณีเดียวกันด้วย" หัวหน้าการ์ดคนเสื้อแดงกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รับเรื่องไว้ และมอบหมายให้พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.ได้สอบปากคำผู้ร้องและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ รวมทั้งแสวงหาข้อเท็จจริงตามขั้นตอนการดำเนินคดี ก่อนนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
** “ไอ้ตู่” โอดปรักปรำ-ทำ นปช.เสียหาย
ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธ์ ประธาน นปช. กล่าวถึงกรณีการจับกุมอาวุธสงครามและมีการซัดทอด นายอารีย์ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเสียหายกับกลุ่ม นปช. ที่ยึดถือแนวทางไม่ใช้ความรุนแรงอยู่แล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงไม่เกี่ยวกับ นปช. และผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างนายอารีย์ ก็ได้ไปแจ้งความเอาผิดผู้ที่ให้การใส่ความ ปรักปรำ รวมทั้งสื่อมวลชนที่นำไปเผยแพร่แล้ว อีกทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่มีเนื้อความที่ชัดเจนแต่อย่างใด เชื่อว่าประชาชนที่ได้รับทราบข่าวสาร คงจะมีความเข้าใจ ส่วนคดีที่ผู้ต้องหายิงเอ็ม 79 ให้การว่าได้ไปรับอาวุธสงครามเพื่อก่อเหตุ ที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าวนั้น ยืนยันว่าไม่จริง เรามีการลงทะเบียนและตรวจสอบกกลุ่ม นปช.
“บุคคลที่ถูกจับกุมและซัดทอดมานั้น ผมไม่รู้จักสักคน” นายจตุพร ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัจจุบันนายอารีย์ยังเป็นผู้ดูแลการ์ด นปช.อยู่หรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ในช่วงที่ต้องยุติบทบาททางการเมืองไปก่อน จึงยังไม่มีหน้าที่อะไร