รายงานการเมือง
เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเป็นรอบที่ 3 และยังไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนอีกหรือไม่ สำหรับนัดหมายชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม นปช.-เสื้อแดง ล่าสุดบอกจะนัดชุมนุมใหญ่ที่เดิมคือ ถนนอักษะ ในวันเสาร์ที่ 10 พ.ค.
เดิมทีเดียวครั้งแรกก็บอกจะนัดวันที่ 6 พ.ค. ต่อมาก็ขยับเข้าให้เร็วกว่าเดิมหนึ่งวัน คือ 5 พ.ค. เพราะแกนนำ นปช.ต้องการให้ตรงกับวันเดียวกันกับที่สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.นัดหมายมวลมหาประชาชนเพื่อร่วมกันทำพิธีถวายพระพรชัยมงคล และตั้งสัตยาธิษฐานที่สนามหลวง
อย่างไรก็ตาม ประเมินว่า เหตุที่ตอนแรก จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.เลื่อนจากวันที่ 6 มาเป็นวันที่ 5 พ.ค.เพราะตอนนั้น จตุพรและแกนนำ นปช. อยู่ระหว่างตั้งเวทีปราศรัยที่สนามกีฬาหมอนไม้ จ.อุตรดิตถ์ เมื่อช่วงเย็นวันพุธที่ 30 เม.ย. ที่เป็นวันเดียวกับที่สุเทพ ลั่นกลองรบประกาศทำศึกครั้งสุดท้ายที่สวนลุมพินี แล้วประกาศการนัดหมายใหญ่ของกปปส.ออกเป็น 3 ช่วงเวลา คือ 5 พ.ค.เพื่อร่วมกันตั้งสัตยาธิษฐาน และ 13 พ.ค. ที่เชิญร่วมทำบุญประเทศ จากนั้นวันพุธที่ 14 พฤษภาคมคือวันนัดชุมนุมใหญ่เพื่อเผด็จศึก เรียกคืนอำนาจอธิปไตย
ตรงนี้เข้าใจเบื้องต้นว่าวันดังกล่าว แกนนำ นปช.อย่างจตุพรพอทราบข้อมูลว่าสุเทพนัดหมายวันที่ 5 พ.ค. แต่ไม่ทราบรายละเอียดที่แน่ชัดถึงทิศทางการเคลื่อนไหวของกปปส.ว่าไม่ได้นัดชุมนุมใหญ่วันที่ 5 พ.ค. ก็เลยประกาศบนเวทีที่ จ.อุตรดิตถ์ ว่าจะขอขยับจาก 6 พ.ค.มาเป็น 5 พ.ค.
ครั้นพอรู้ทีหลังว่า กว่า กปปส.จะนัดชุมนุมใหญ่ ปาเข้าไป 14 พ.ค. หาก นปช.จะลากยาวนัดชุมนุมที่ถนนอักษะตั้งแต่ 5 พ.ค. เท่ากับชุมนุมล่วงหน้า กปปส.ไปแล้วร่วม 10 วัน หากมีการวัดปริมาณการแสดงพลังกันระหว่าง กปปส.ที่อาจย้ายกลับไปชุมนุมกันที่ถนนราชดำเนินในช่วงวันที่ 13 พ.ค. กับฝ่าย นปช.ที่นัดชุมนุมกันที่ถนนอักษะ ภาพมวลชนสองฝั่งในวันนัดแสดงกำลังของมวลชนทั้งสองฝั่ง ดูแล้วยังไงจำนวนคนเสื้อแดงย่อมน้อยกว่า กปปส.อย่างแน่นอน เพราะหากเสื้อแดงชุมนุมกันแต่เนิ่นๆ คนก็ต้องล้า ต่อให้พวกนักการเมืองพรรคเพื่อไทยขนคนจากต่างจังหวัดเข้ามาที่ถนนอักษะเรื่อยๆ แต่การที่ชุมนุมกันหลายวันก็เป็นเรื่องปกติที่จำนวนคนจะต้องลดลงไปเรื่อยๆ เมื่อการชุมนุมยืดเยื้อยาวนาน
ด้วยเหตุนี้ เชื่อว่าน่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ นปช.เลยเลื่อนวันนัดชุมนุมใหญ่เป็น 10 พ.ค. แทนเพื่อไม่ให้ชุมนุมนานเกินไปจนมวลชนอ่อนล้า และที่สำคัญ หากเสียเวลาชุมนุมหลายวัน เพื่อรอวันทำศึกใหญ่ ยิ่งชุมนุมนานก็ต้องใช้เงินมาก
ตอนนี้พวกอดีต ส.ส.เพื่อไทย รายได้อะไรต่างๆ ก็หายไปมากเพราะไม่ได้เป็น ส.ส.มาร่วม 6 เดือนแล้ว เงินอัดฉีดจากพรรคเพื่อไทยและทักษิณ ชินวัตรก็น้อยลงไปตามสภาพ การที่พวกอดีต ส.ส.เพื่อไทยทั้งหมดจะขนคนมาร่วมชุมนุม แม้อยากช่วยแต่ก็ทำได้ไม่เต็มที่ เอาที่จำเป็น แกนนำ นปช.ก็อาจเกรงใจ เลยพยายามจะไม่ให้สิ้นเปลืองมาก ก็เลยต้องกะวันนัดหมายชุมนุมให้ดีเพื่อว่าชุมนุมแล้วต้องเข้าเป้า คนแน่น มีเป้าหมายชัดเจน พวกอดีต ส.ส.เพื่อไทยและแกนนำพรรคจะได้ช่วยเต็มที่
ขณะที่เหตุผลที่ นปช.อ้างว่าที่ไม่นัดหมายชุมนุมวันที่ 5 พ.ค. เพราะไม่ต้องการให้กลายเป็นประเด็นในทางลบกับคนเสื้อแดง จริงๆ แล้วก็เป็นเหตุผลที่รับฟังได้ และถูกต้องแล้ว ที่ไม่ควรมีการชุมนุมหรือการเคลื่อนไหวการเมืองอะไรกันในวันดังกล่าว เนื่องจากวันที่ 5 พ.ค.ที่เป็นวันฉัตรมงคล เป็นวันสำคัญของประเทศไทย ให้เป็นวันปลอดจากการเมืองสักวัน ทุกคนต่างก็เห็นด้วย
ขนาด กปปส.ยังบอกเลยว่า ในการเคลื่อนขบวนจากสวนลุมพินีไปสนามหลวงวันที่ 5 พ.ค.นี้ จะไม่มีการพูดหรือปราศรัยเรื่องการเมืองอะไรทั้งสิ้นในวันนั้น และจะเป็นวันที่งดการพูดถึง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หนึ่งวัน เพื่อให้เป็นดีๆ ของคนไทย ก็ควรแล้วที่เสื้อแดง-นปช.จะไม่มีการนัดชุมนุมวันดังกล่าวเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่ชัดว่าสุดท้าย นปช.เสื้อแดงจะเอาอย่างไร เพราะเชื่อว่าแกนนำ นปช.คงประเมินสถานการณ์กันแบบวันต่อวัน เพราะอาจมีการเลื่อนวันนัดชุมนุมใหญ่ขึ้นมาให้เร็วกว่าวันที่ 10 พ.ค.นี้ก็ได้ หลังมีสัญญาณบางอย่างจากทางศาลรัฐธรรมนูญและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าอาจจะมีการลั่นไกการเมือง จัดการกับยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในช่วงไม่เกิน 8 พ.ค.นี้ก็ได้
โดยเฉพาะจากทางศาลรัฐธรรมนูญที่เริ่มมีกระแสข่าวว่าศาลรัฐธรรมนูญอาจนัดฟังคำวินิจฉัยคดียิ่งลักษณ์ย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี ในช่วงไม่เกิน 8 พ.ค.นี้ หลังมีการไต่สวนคำร้องคดีดังกล่าวในวันอังคารที่ 6 พ.ค. ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้เรียก ยิ่งลักษณ์ ในฐานะผู้ถูกร้อง-ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหาในฐานะผู้ร้อง-ถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติในฐานะผู้เกี่ยวข้องโดยตรงเพราะเป็นคนไปฟ้องคดีต่อศาลปกครองหลังถูกย้ายไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี จนศาลปกครองสูงสุดพิพากษาว่าเป็นการย้ายโดยไม่ชอบ และ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี อดีต ผบ.ตร.และอดีตเลขาธิการ สมช.
ท่ามกลางข่าวว่า หลังศาลไต่สวนเสร็จวันที่ 6 พ.ค.หากไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ วันดังกล่าว ศาลก็น่าจะประกาศว่าจะนัดตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแถลงคดีด้วยวาจาและนัดลงมติคำร้องในวันไหน ที่ก็น่าจะอยู่ในช่วงไม่วันที่ 7 ก็วันที่ 8 พ.ค.นี้ หรือไม่ก็วันพุธที่ 14 พ.ค.หรือศุกร์ที่ 16 พ.ค.ไปเลย
อย่างไรก็ตาม พอมีข่าวว่าศาลรัฐธรรมนูญยกเลิกการจัดงานสัมมนาสื่อมวลชนประจำปีที่จังหวัดกระบี่ ที่เดิมจะจัดช่วงวันที่ 7-9 พ.ค.ที่นอกจากจะมีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญไปร่วมงานจำนวนมากแล้วก็ยังจะมีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหลายคนเดินทางไปร่วมงานด้วย
พอมีการแจ้งยกเลิกการสัมมนาดังกล่าว ก็เลยทำให้มีการคาดหมายกันว่า มีความเป็นไปได้ไม่น้อยที่ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดฟังคำวินิจฉัยคำร้องคดีนี้ในช่วงไม่เกิน 8 พ.ค. เพราะหลายคดีที่ผ่านมาในช่วงหลังเช่นล่าสุดคดีที่ศาลรธน.วินิจฉัยให้การเลือกตั้ง 2 ก.พ.เป็นโมฆะ พอศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนคำร้องในวันพุธที่ 19 มี.ค.ก็มีการอ่านคำวินิจฉัยในวันศุกร์ที่ 21 มี.ค.ทันทีหากศาลรัฐธรรมนูญจะนัดฟังคำวินิจฉัยโดยห่างจากวันไต่สวนคำร้อง 6 พ.ค.ออกมาเป็น 7 หรือ 8 พ.ค. ดูแล้วก็ไม่ถือว่าเร็วแต่อย่างใด
แม้บางคนจะตั้งข้อสังเกตุว่า การที่สุเทพ-กปปส.นัดหมายชุมนุมใหญ่ วันที่ 14 พ.ค. ทำให้คนต่อจิ๊กซอว์กันไปว่า น่าจะเป็นเพราะแกนนำ กปปส.อาจได้ข่าววงในบางอย่างมาว่าศาลรัฐธรรมนูญน่าจะวินิจฉัยคดีในสัปดาห์หน้ามากกว่าไม่ใช่ก่อน 8 พ.ค.
ก็เป็นการวิเคราะห์กันไป เพราะต้องไม่ลืมว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้มีอะไรกับ กปปส. เพราะศาลรัฐธรรมนูญคือองค์กรอิสระที่ปลอดจากการเมือง ดังนั้น หากศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยช่วงก่อน 8 พ.ค. หรือก่อน 16 พ.ค.ก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น
น่าเชื่อว่า ช่วง 1-2 วันนี้ แกนนำน ปช.คงรอเช็กข่าวและประเมินสถานการณ์กันอีกทีว่าจะเอาอย่างไร ดูแล้ว แกนนำ นปช.คงรอฟังวันที่ 6 พ.ค.นี้ ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะนัดอ่านคำวินิจฉัยคดีในวันไหน แล้วค่อยมาประเมินอีกทีว่าจะเอาอย่างไร คือจะนัดชุมนุมในวันที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยหรือจะนัดชุมนุมหากว่าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดีให้ยิ่งลักษณ์พ้นจากตำแหน่งพร้อมกับ ครม.ชุดนี้ทั้งคณะ ที่อาจเป็นหลังศาลวินิจฉัยไปสัก 1-2 วันเพื่อให้เสื้อแดงมีเวลาเตรียมตัว
ชุมนุมใหญ่เสื้อแดง จะเกิดขึ้นช่วงไหนและมีเป้าหมายอย่างไร จึงเป็นเรื่องที่ต้องจับตามองมากพอๆ กับการชุมนุมใหญ่ กปปส.เช่นกัน