วานนี้ (2ก.พ.) พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ว่าได้มีการประชุมถึงการปฏิบัติงานของกองทัพบกด้านต่างๆ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนและบูรณาการตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง โดยหน่วยทหารจะเป็นศูนย์การเรียนรู้หลัก 227 ศูนย์ ร่วมมือกับพลเรือน และภาคเอกชนภายนอก เพื่อให้ผลงานจับต้องได้ และเดินหน้าต่อไปได้ รวมถึงเรื่องการดูแลชายแดน
การช่วยเหลือประชาชน และการปฏิบัติตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ในการทำความเข้าใจกับกำลังพล โดยได้ฝากให้แม่ทัพภาค ไปชี้แจงเกี่ยวกับการที่ให้ทหารเป็นเจ้าหน้าที่ลงไปขับเคลื่อนปัญหาต่างๆ ของประชาชน ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ได้สั่งการว่า ต้องทำความเข้าใจกับนายทหารระดับผู้บังคับกองพันขึ้นไป ในการจัดกำลังช่วยเหลือส่วนราชการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาทุกด้าน
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ในการปะชุมครั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้กำชับให้ทุกหน่วยพัฒนางานด้านสวัสดิการให้กับกำลังพลในด้านอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น การจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จัดตลาดนัดราคาถูก ใช้ที่ดินว่างเปล่าให้เกิดประโยชน์ ฝึกอาชีพเสริม การลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ โดยให้หน่วยทหารพิจารณาปลูกพืชผลทางการเกษตร ปลูกผักในที่พักและในที่ดินหน่วย เพื่อใช้บริโภคและเป็นอาชีพต่อไป
"สำหรับการดำรงความพร้อมของกำลังพลในการปฏิบัติภารกิจนั้น ผู้บัญชาการทหารบก กำชับให้ทุกหน่วยทำการฝึกเสริมทักษะส่วนบุคคล การต่อสู้ในระยะประชิด การฝึกในเวลากลางคืน ส่วนการฝึกผสม และการฝึกร่วมกับมิตรประเทศที่จะมีขึ้นในระยะนี้ เช่น คชสีห์ 2015 , การฝึกร่วมผสมไทย–สหรัฐฯ รหัส คอบบร้าโกล์ด 2015 ให้ทุกหน่วยเตรียมการฝึกตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีต่อมิตรประเทศ และเกิดประโยชน์ต่อการนำไปใช้ในการปฏิบัติงานของหน่วย" พ.อ.หญิงศิริจันทร์ ระบุ
สำหรับกองกำลังชายแดน ให้ดำรงภารกิจป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย และป้องกันการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ โดยเฉพาะในเรื่องปัญหาแรงงานต่างด้าว และการค้ามนุษย์ ให้ดำเนินมาตรการอย่างเหมาะสม เช่น การตรวจค้นจับกุม การตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงบริเวณชายแดน กำจัดขบวนการค้ามนุษย์ ค้าแรงงาน เป็นต้น ส่วนภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อย ให้ดำรงความต่อเนื่องในการตรวจค้นอาวุธสงครามและสิ่งผิดกฎหมาย เพื่อขยายผลไปสู่ผู้กระทำผิดและเครือ ข่าย มุ่งสร้างความปลอดภัยให้กับสังคม ลดและป้องกันการเกิดอาชญากรรมต่างๆ ในพื้นที่ที่หน่วยทหารรับผิดชอบ โดยให้ปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองอย่างใกล้ชิด
การช่วยเหลือประชาชน และการปฏิบัติตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ในการทำความเข้าใจกับกำลังพล โดยได้ฝากให้แม่ทัพภาค ไปชี้แจงเกี่ยวกับการที่ให้ทหารเป็นเจ้าหน้าที่ลงไปขับเคลื่อนปัญหาต่างๆ ของประชาชน ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ได้สั่งการว่า ต้องทำความเข้าใจกับนายทหารระดับผู้บังคับกองพันขึ้นไป ในการจัดกำลังช่วยเหลือส่วนราชการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาทุกด้าน
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ในการปะชุมครั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้กำชับให้ทุกหน่วยพัฒนางานด้านสวัสดิการให้กับกำลังพลในด้านอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น การจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จัดตลาดนัดราคาถูก ใช้ที่ดินว่างเปล่าให้เกิดประโยชน์ ฝึกอาชีพเสริม การลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ โดยให้หน่วยทหารพิจารณาปลูกพืชผลทางการเกษตร ปลูกผักในที่พักและในที่ดินหน่วย เพื่อใช้บริโภคและเป็นอาชีพต่อไป
"สำหรับการดำรงความพร้อมของกำลังพลในการปฏิบัติภารกิจนั้น ผู้บัญชาการทหารบก กำชับให้ทุกหน่วยทำการฝึกเสริมทักษะส่วนบุคคล การต่อสู้ในระยะประชิด การฝึกในเวลากลางคืน ส่วนการฝึกผสม และการฝึกร่วมกับมิตรประเทศที่จะมีขึ้นในระยะนี้ เช่น คชสีห์ 2015 , การฝึกร่วมผสมไทย–สหรัฐฯ รหัส คอบบร้าโกล์ด 2015 ให้ทุกหน่วยเตรียมการฝึกตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีต่อมิตรประเทศ และเกิดประโยชน์ต่อการนำไปใช้ในการปฏิบัติงานของหน่วย" พ.อ.หญิงศิริจันทร์ ระบุ
สำหรับกองกำลังชายแดน ให้ดำรงภารกิจป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย และป้องกันการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ โดยเฉพาะในเรื่องปัญหาแรงงานต่างด้าว และการค้ามนุษย์ ให้ดำเนินมาตรการอย่างเหมาะสม เช่น การตรวจค้นจับกุม การตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงบริเวณชายแดน กำจัดขบวนการค้ามนุษย์ ค้าแรงงาน เป็นต้น ส่วนภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อย ให้ดำรงความต่อเนื่องในการตรวจค้นอาวุธสงครามและสิ่งผิดกฎหมาย เพื่อขยายผลไปสู่ผู้กระทำผิดและเครือ ข่าย มุ่งสร้างความปลอดภัยให้กับสังคม ลดและป้องกันการเกิดอาชญากรรมต่างๆ ในพื้นที่ที่หน่วยทหารรับผิดชอบ โดยให้ปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองอย่างใกล้ชิด
