ผบ.ทบ.เซ็นคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายผู้บังคับการกรม พบเด็ก “ประวิตร-ประยุทธ์-อุดมเดช” และ ผบ.หน่วยทหารที่ช่วยงานช่วงชุมนุม กปปส. และช่วงยึดอำนาจ คสช. ได้ดีถ้วนหน้า “เอกรัตน์-ทรงวิทย์” ขึ้นนั่งรอง ผบ.พล.1 รอ. ด้าน “สุชาติ” มือขวา ผบ.ทบ. ขึ้น ผบ.ร.11 รอ. ส่วนหลานชาย “ป๋าเปรม” ข้ามห้วยไปดูงานโรงเรียนนายร้อย จปร. “วินธัย” ก็ได้เสนาธิการประจำ สลก.ทบ.
คลิกที่นี่ เพื่ออ่านคำสั่งกองทัพบก ที่ ๓๒๒/๒๕๕๗ เรื่อง ให้นายทหารรับราชการและปรับระดับเงินเดือน
วันนี้ (4 ต.ค.) พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้ลงนามในคำสั่งกองทัพบกที่ 325/2557 ลงวันที่ 3 ต.ค.2557 เรื่องให้นายทหารรับราชการและปรับระดับเงินเดือน จำนวน 371 นาย ซึ่งเป็นนายทหารระดับพันเอกพิเศษ ที่ส่วนใหญ่เป็นระดับ ผู้บังคับการกรม เพื่อต้องการให้ผู้บังคับการกรมคนใหม่สามารถปฏิบัติภารกิจได้ทันที ในการประชุมหน่วยขึ้นตรงของกองทัพบก (นขต.ทบ.) ครั้งแรก ในวันที่ 6 ต.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก
เป็นที่น่าสังเกตว่า การปรับย้ายครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นหน่วยคุมกำลังหลักของกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1 รอ.) หรือสายวงศ์เทวัญ, กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) หรือสายบูรพาพยัคฆ์ และกองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี รวมทั้งกองทัพภาค 1 หน่วยที่เป็นกำลังหลักในการดูแลพื้นที่ช่วงการชุมนุม กปปส. จนมาช่วงที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทำการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการตอบแทนที่ช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยในช่วงที่ผ่านมา และเป็นการเลือกนายทหารที่ไว้วางใจได้มาคุมกำลัง เพื่อปิดประตูปฏิวัติซ้อน ซึ่งมีนายทหารในสายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช., พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม รวมทั้ง พล.อ.อุดมเดช
สำหรับตำแหน่งสำคัญ คือ พ.อ.เอกรัตน์ ช้างแก้ว ผบ.ร.1 รอ. (นักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 23 หรือ ตท.23) ขยับเป็นรอง ผบ.พล.1 รอ. โดยให้ พ.อ.อาสาศึก ขันติรัตน์ (ตท.28) นายทหารฝ่ายเสนาธิการของ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้ช่วย ผบ.ทบ. มาเป็น ผบ.ร.1 รอ. แทน ขณะที่ พ.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี (ตท.24) ผบ.ร.11 รอ. ได้ขึ้นเป็นรอง ผบ.พล.1 รอ. โดยมีผลงานในการรักษาความสงบเรียบร้อยจากเหตุการณ์ปะทะกันที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง และสี่แยกหลักสี่ในช่วงการชุมนุม กปปส. ที่ผ่านมา แม้ว่าจะเป็นทหารสายของ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รอง ผบ.สส. และอยู่มากว่า 3 ปี จึงตัองขยับขึ้น ขณะเดียวกัน ได้ส่ง พ.อ.สุชาติ พรมใหม่ แกนนำ ตท.27 นายทหารฝ่ายเสนาธิการของ พล.อ.อุดมเดช มาเป็น ผบ.ร.11 รอ. แทน เพื่อคุมกำลัง และสร้างความมั่นใจให้ พล.อ.อุดมเดช เพราะเป็นนายทหารคนสนิท เปรียบเสมือนมือขวาที่ไว้ใจได้มากที่สุด และเติบโตจาก ร.31 รอ. เป็นลูกหม้อของ พล.1 รอ.
ขณะเดียวกัน ยังได้แต่งตั้ง พ.อ.คชาชาต บุญดี แกนนำ ตท.27 จาก ผบ.กรม ทพ.36 มาเป็น ผบ.ป.1 รอ. คุมกำลังทหารปืนใหญ่ ในกรุงเทพฯ ที่ผ่านมา พ.อ.คชาชาต เคยอยู่ ป.พัน 31 รอ. จ.ลพบุรี ถือเป็นลูกหม้อ พล.1 รอ. ก่อนที่จะไปใช้ชีวิตนักรบที่เติบโตมาจากชายแดนภาคเหนือ ทั้งที่เป็นคนกรุงเทพฯ โดยมีผลงานสำคัญในภาคเหนือ คือ ปราบปรามผู้มีอิทธิพล และนักการเมืองมาตลอด และการดูแลปัญหาลักลอบตัดไม้ จึงชื่อว่าเป็น “นักรบแห่งลุ่มน้ำสาละวิน” ทำให้ พล.อ.อุดมเดช นำมาทำงานสำคัญ คุมกำลังกลางกรุง โดยขยับ พ.อ.นฤดล ท้าวฤทธิ์ (ตท.24) จาก ผบ.ป.1 รอ. ไปเป็น รอง จทบ.กาญจนบุรี แม้ไม่ได้คุมกำลัง แต่ก็เป็นรองนายพล
ส่วนตำแหน่งต่างๆ นั้น เช่น พ.อ.ศักดิ์ศรี งอยปัดพันธ์ เสธ.มทบ.13 เป็นรอง ผบ.มทบ.13, พ.อ.กัณฑ์ชัย ประจวบอารีย์ ผบ.ร.31 รอ. เป็น เสธ.มทบ.13 หลังถูกทหารลูกน้องร้องเรียนถึงทำเนียบรัฐบาล, พ.อ.พงษ์ศักดิ์ เอี่ยมพญา รอง ผบ.ร.21 รอ. เป็นผบ.ร.31 รอ., พ.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ร.21 รอ. เป็นรอง ผบ.พล.ร.2 รอ., พ.อ.วรยุทธ แก้ววิบูลย์พันธุ์ เสธ.พล.ร.2 รอ. เป็น ผบ.ร.21 รอ., พ.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ผบ.ร.19 เป็นรอง ผบ.พล.ร. 9, พ.อ.วุฒิชัย นาควานิช ผบ.ร.29 เป็นรอง ผบ.พล.ร.9, พ.อ.พงษ์สวัสดิ์ ภาชนะทิพย์ ผบ.กรม ทพ.14 เป็น ผบ.ร.19, พ.อ.สุรินทร์ นิลเหลือง ผบ.ร.9 เป็นรอง ผบ.จทบ.ส.บ., พ.อ.ยุทธพงศ์ คงนิล รอง ผบ.ร.9 เป็น ผบ.ร.9, พ.อ.ณรงค์ กลั่นวารี รอง ผบ.ป.6 เป็น ผบ.ป.6, พ.อ.สวราชย์ แสงผล รอง ผบ.ร.8 เป็น ผบ.ร.8
พ.อ.ธานินทร์ สนิทชน ผบ.ร.13 เป็นรอง ผบ.พล.ร.3, พ.อ.สัญชัย รุ่งศรีทอง ผบ.ร.3 เป็น ผบ.ร.13, พ.อ.ปราโมทย์ นาคจันทึก เสธ.พล.ร.3 เป็น ผบ.ร.3, พ.อ.ยุวัต ขันธปรีชา รอง ผบ.ป.3 เป็น ผบ.ป.3, พ.อ.จรัส ปัญญาดี ผอ.กยก.ทภ.3 เป็น ผบ.ร.7, พ.อ.โสภณ นันทสุวรรณ ผบ.ร.14 เป็น ผบ.ร.4, พ.อ.เกรียงชัย อนันตศานต์ ผอ.กขว.ทน.3 เป็น ผบ.ร.14, พ.อ.ทะเบียน เมืองพระฝาง รอง ผบ.ร.15 เป็น ผบ.ร.153, พ.อ.เสนีย์ ศรีหิรัญ รอง เสธ.พล.ร.5 เป็น ผบ.ร.15, พ.อ.ประเสริฐ กิตติรัต รอง ผบ.ป.5 เป็น ผบ.ป.5, พ.อ.นวกร สงวนศักดิ์โยธิน ผอ.กยก.นปอ. เป็น ผบ.ปตอ.1, พ.อ.วีระพงษ์ ศรีรัตน์ รอง ผบ.ป.1 รอ. เป็น ผบ.ป.71, พ.อ.นิติ ติณสูลานนท์ รอง เสธ.มทบ.42 ซึ่งเป็นหลานชายของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้เป็นรอง ผบ.กรม นนร.รอ.รร.จปร. ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษก ทบ. และทีมโฆษก คสช. ซึ่งเป็นรอง ผอ.กอง สลก.ทบ. ได้ขยับเป็นฝ่ายเสนาธิการประจำสำนักงานเลขานุการกองทัพบก เป็นต้น