xs
xsm
sm
md
lg

"ประยุทธ์"นำผบ.เหล่าทัพพบ"ป๋า" "อุดมเดช"ยันไม่ปฏิวัติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 10.45 น. วานนี้ (30 ก.ย. ) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ. ) ถ.ราชดำเนิน กองทัพบกได้จัดพิธีรับ-ส่งหน้าที่ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ในฐานะ ผบ.ทบ. ได้ทำการส่งมอบหน้าที่แก่ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ. ภายหลังจากที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. ตั้งแต่ 1 ต.ค.57
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลงนามเอกสารส่งมอบหน้าที่ และการบังคับบัญชาให้กับ พล.อ.อุดมเดช และมีพิธีส่งมอบธงประจำกองทัพบก พร้อมทั้งพิธีสวนสนามเทิดเกียรติ จากกำลังพลสวนสนามจำนวน 3 กองร้อย ประกอบด้วย กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) 1 กองร้อย กองพลทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ (ม.1 รอ.)1 กองร้อย และกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 6 (ปตอ.พัน.6) จำนวน 1 กองร้อย นอกจากนี้กำลังพลของกองทัพบก ยังได้ร้องเพลงคืนความสุขให้ประเทศไทยให้แก่พล.อ.ประยุทธ์ ด้วย
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวส่งมอบหน้าที่ตอนหนึ่งว่า การปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทหารของชาติ นับเป็นเกียรติและความภาคภูมิใจสูงสุด รวมทั้งเป็นโอกาสสำคัญในชีวิตที่ได้ตอบแทนคุณแผ่นดิน และทำหน้าที่ยิ่งใหญ่ในการพิทักษ์รักษาเอกราช อธิปไตยของชาติ ค้ำจุนราชบังลังก์ และสร้างสรรค์ความมีสันติสุขให้กับประชาชน ตลอดระยะเวลาการทำงานรับใช้ประเทศชาติ และในขณะที่ดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. ตนมีความมุ่งหวังเสมอเพื่อทำให้กองทัพบกมีความเข้มแข้ง มั่นคง มีเอกภาพ และสามารถยืนหยัดอย่างมีเกียรติยศ ศักดิ์ศรี เป็นเสาหลักที่พร้อมดูแลความมั่นคงปลอดภัยและแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติ ตลอดจนเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกสถานการณ์ สมกับเป็นกองทัพเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนโดยแท้จริง
"แม้จะต้องพ้นจากหน้าที่ ผบ.ทบ.ไป แต่อุดมการณ์ที่ได้ยึดมั่นมาโดยตลอด จะยังคงอยู่ไม่เสื่อมคลาย และมีความตั้งใจที่จะใช้ความรู้และประสบการณ์ สนับสนุนการดำเนินงานของกองทัพบกให้บรรลุผลสำเร็จ เพื่ออำนวยประโยชน์ให้แก่ส่วนรวม และมีความเชื่อมั่นว่าผบ.ทบ.คนใหม่เป็นผู้มีจิตวิญญาณ ความเป็นทหารอย่างเต็มเปี่ยมนั้น จะนำพากองทัพบกพัฒนาไปในทุกๆ ด้าน และมีขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจ โดยมีผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง ตลอดจนปกครองบังคับบัญชากำลังพล ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตใจ สุขุม รอบคอบ มีสติ มีความรักความสามัคคี เสริมสร้างศักยภาพและความทันสมัยให้กองทัพบกสมฐานะที่เป็นกองทัพของชาติ และพร้อมก้าวสู่เป็นกองทัพอาเซียนต่อไป" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

**"อุดมเดช"พร้อมสานต่อภารกิจ

ด้าน พล.อ.อุดมเดช กล่าวรับหน้าที่ว่า ขอน้อมรับหน้าที่สำคัญ ด้วยความสำนึกและความรับผิดชอบ การปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยึดมั่นในอุดมการณ์ของทหารตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผบ.ทบ.ได้สร้างคุณประโยชน์ต่อกองทัพ และประเทศชาติ โดยเสียสละทุ่มเทในการทำหน้าที่เพื่อส่วนรวม และจงรักภักดีอย่างมั่นคงในสถานบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ทำให้กองทัพมีความเข้มแข็ง และมีศักยภาพ มีการวางรากฐานพัฒนาปรับปรุงให้เกิดประสิทธิภาพทุกด้าน
"ผมพร้อมรับต่อภารกิจสถานการณ์ และภัยคุกคามทุกรูปแบบที่มีความซับซ้อนกว้างขวางมากขึ้น ตลอดจนเตรียมความพร้อมสู่การเป็นกองทัพที่เข็มแข็งของอาเซียนในอนาคต ขณะเดียวกัน ผบ.ทบ.ได้กำหนดบทบาทของกองทัพให้สอดคล้องกับสถานการณ์และยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โดยดำรงจุดยืนในการยืนอยู่เคียงข้างประชาชนทุกโอกาส และเป็นหลักในการเข้าคลี่คลายปัญหาสำคัญที่ส่งผลประทบต่อความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของชาติ รวมทั้งความสงบสุขปลอดภัยของประชาชน ทำให้กองทัพสามารถดำรงไว้ซึ่งเกียรติ และศักดิ์ศรี จนได้รับความไว้วางใจจากสังคม ดังนั้น การปฏิบัติหน้าที่ ผบ.ทบ.ต่อไป ขอตระหนักถึงความรับผิดชอบภาระหน้าที่สำคัญจะอุทิศทั้งกำลังกายและกำลังใจ รวมถึงสติปัญญา ขอให้ทุกคนมุ่งมั่น ซึ่งต่อไปนี้จะตั้งใจดำเนินภารกิจทุกด้านอย่างดีที่สุด ซื่อสัตย์ สุจริต ปกครอง บังคับบัญชายึดหลักความถูกต้องและเป็นธรรม โดยเฉพาะการสานต่อนโยบายทุกด้านให้เกิดผลสัมฤทธิ์ และสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลเพื่อสร้างสรรค์สังคมที่มีแต่ความสามัคคีปรองดอง มีสันติสุข และเสริมสร้างความมั่นคง มีเสถียรภาพให้กับชาติบ้านเมืองต่อไป" พล.อ.อุดมเดช กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเสร็จสิ้นพิธีฯ ระหว่างเดินทางออกจาก บก.ทบ. ทาง พล.อ.ประยุทธ์ได้เปลี่ยนรถประจำตำแหน่งจากเดิมใช้รถเบนซ์ประจำตำแหน่ง ผบ.ทบ. สีดำ ทะเบียบ ศท 1251 กทม. เป็นรถเบนซ์สีดำ ญค 1881 กทม. โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้เปิดกระจกรถเพื่อโบกมือลาผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยขบวนรถของ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เคลื่อนขบวนออกด้านหน้าบก.ทบ. ไปอย่างช้าๆ

** ยืนยันไม่มีปฏิวัติซ้อน

พล.อ.อุดมเดช ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับตำแหน่งว่า หน้าที่ของกองทัพบกคือ พิทักษ์ รักษาและเทิดทูนสถาบันด้วยชีวิต และจะไม่ยอมให้ใครมาล่วงละเมิด การทำงานหลังจากนี้ ตนจะปฏิบัติตามภาระหน้าที่ที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งหน้าที่หลักคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและดูแลพื้นที่ของประเทศไทยให้มีแต่ความสงบเรียบร้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาเขตแดนจะต้องรักษาไว้ไม่ให้มีปัญหา โดยอยู่ภายใต้ความระมัดระวังและ ความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นสิ่งสำคัญ
ส่วนการดูแลพื้นที่ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนตั้งใจว่าจะดำเนินการและพยายามทำให้ดีที่สุด ตามที่นายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายไว้โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับนโยบาย ระดับขับเคลื่อน และ ระดับการนำนโยบายไปสู่การ
ในส่วนของการดูแลความสงบเรียบร้อยทั่วประเทศ โดยเฉพาะในช่วงนี้ ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังคงอยู่ต่อไป เพื่อช่วยสนับสนุนรัฐบาล กองทัพบกยังคงเป็นหลักเรื่องการรักษาความสงบ ตนมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการให้เกิดความสงบให้ได้ ผู้ที่มีความคิดไม่เข้าใจหรือผู้เห็นต่าง ในภาพรวมต้องทำความเข้าใจและจะต้องร่วมมือกัน ทางคสช. และรัฐบาลกำลังดำเนินการเรื่องสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ซึ่งทางรัฐบาลทราบดีว่า เป็นยุทธศาสตร์ความสำเร็จในการปรองดองสมานฉันท์ต่อไป เพราะฉะนั้นทางกองทัพจะสนับสนุนส่วนนี้ ส่วนที่บุคคลที่ไม่ได้ถูกคสช. คัดสรรเป็น สปช.นั้น ก็สามารถมีส่วนร่วมในการให้แนวคิดตามที่นายกรัฐมนตรีได้ระบุไว้
" หากมีการประกาศรายชื่อสปช. แล้วจะต้องสนับสนุนกัน อย่าไปทำสิ่งที่นอกเหนือกฎหมาย กองทัพบกจะไม่ยอมให้เกิดความไม่สงบ จะต้องมีความสงบเรียบร้อย กองทัพบกเป็นกลไกหลักของรัฐบาล เพราะรัฐบาลปัจจุบันนี้เป็นรัฐบาลรักษาการ เพื่อรอการเลือกตั้ง ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้แสดงเจตนารมณ์ว่า มาด้วยความจริงใจ และต้องการทำให้ชาติบ้านเมืองนั้นดีขึ้นจริง " พล.อ.อุดมเดช กล่าว
เมื่อถามว่าจะให้ความมั่นใจต่อประชาชนอย่างไรว่าในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. จะดูแลไม่ให้เกิดการปฏิวัติซ้อน เพื่อบ่อนทำลายรัฐบาล พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า "ไม่มีหรอกครับ ไม่ว่าจะเป็นใครที่อยู่ในปัจจุบัน หรืออนาคต ทางผู้บังคับบัญชาได้ทำความเข้าใจไว้หมดแล้ว และทุกคนก็เดินทางในแนวทางเดียวกัน บางครั้งที่มีการเขียนต่างๆ ก็มีความเข้าใจไปกันเอง หลายครั้งมีการมาสอบถามว่าคิดอย่างไร และทำอย่างไร แต่ปรากฏว่าเป็นความเข้าใจผิด ของการถ่ายทอดและขอให้ทุกคนสบายใจ ไม่มีอย่างแน่นอน กองทัพบกจะเป็นฐานสำคัญที่จะทำให้ประเทศชาติสงบ คสช.และรัฐบาลจะดำเนินการเคียงคู่กันไปจนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย ตามกรอบแนวทางที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายไว้." ผบ.ทบ. กล่าว

** นำผบ.เหล่าทัพ เข้าพบ"ป๋าเปรม"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้นำผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพทั้งหมด ประกอบด้วย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ที่บ้านสี่เสา เทเวศร์ เพื่ออำลาตำแหน่งหลังเกษียณอายุราชการ ซึ่ง พล.อ.เปรม ได้มอบรูปหล่อหลวงปู่ทวด รุ่นบ้านเกิด ให้กับทุกคน เพื่อเป็นสิริมงคล ทั้งนี้ การเข้าพบพล.อ.เปรม ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกหลังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ภายหลังการเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยเพียงสั้นๆว่า เป็นการเข้ามากราบลา และพล.อ.เปรม ก็ได้ให้พรกับทุกคน ซึ่งการพบครั้งนี้ ต่างฝ่ายต่างให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ในการทำงาน
กำลังโหลดความคิดเห็น