“ไพบูลย์” ปัดปฏิวัติซ้อนหลังชวดเก้าอี้ ผบ.ทบ. แจงเข้าพบ “ป๋าเปรม” รู้จักมานานแล้ว

เผยบทสัมภาษณ์ รมว.ยุติธรรม หลังพลาดหวังเก้าอี้ ผบ.ทบ. ปัดปฏิวัติซ้อน ย้อนถามกลับมีพลังมากพอเหรอ แจงเข้าพบประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ไปหาเป็นประจำตั้งแต่เป็น ผบ. พล.1 รอ. แล้ว ตำหนิสื่อเอาไปโยงแคนดิเดต ผบ.ทบ. เกินไป

เว็บไซต์สำนักข่าวอิศราได้เผยแพร่คำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม วานนี้ (15 ก.ย.) หลังมีกระแสข่าวว่าพลาดหวังจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) คนใหม่ ซึ่งเป็นของ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เพราะมีกระแสข่าวว่าจะมีการรัฐประหารซ้อน ประกอบกับก่อนหน้านี้ได้เข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์

โดยระบุว่า “ใครกลัวผม คุณลองบอกหน่อยว่าใครกลัว ที่คุณบอกว่าผมจะรัฐประหารซ้อนนี่ใครกลัวผม ถ้าคุณตอบผมตรงนี้ไม่ได้ ผมจะไปตอบคุณได้อย่างไร แล้วถ้าผมจะรัฐประหารจริงผมจะบอกคุณหรือ และจริงๆ แล้วผมมีพลังมากพอที่จะทำอย่างนั้นได้หรือ คุณถามแบบนี้ หมายความว่าผมมีพลังที่จะทำแบบนั้นได้อย่างนั้นหรือ ผมขอถามคุณนะ คุณเชื่อข่าวนี้ไหม”

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ถ้าคุณไม่เชื่อคุณจะถามทำไม แปลว่าคุณเชื่ออยู่ลึกๆ ว่ามันจะมีใช่ไหม คุณจึงมาถามผม คุณเชื่อว่ามันจะมีใช่ไหม ถ้าคุณไม่ถาม ถ้าคุณคิดว่า เพ้อเจ้อ โอ๊ย ไม่จริงหรอกเรื่องนี้ คุณก็ไม่ถามผมหรอก ถ้าคุณไม่เชื่อคุณไม่มาถามผมแบบนี้หรอก นี่เป็นประเด็นที่หนึ่ง ประเด็นที่สอง ถ้าผมเป็นจริง ผมก็ไม่บอกอยู่แล้ว ประเด็นที่สาม คุณต้อง ไปถามคนที่กลัวผม ประเด็นที่สี่ คุณคิดว่าผมทำได้จริงหรือ

เมื่อถามว่า เหตุใดถึงไปพบ พล.อ.เปรม ในวันเกิด พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ตนไปพบตั้งแต่เมื่อครั้งที่เป็น ผบ.พล1 รอ. (ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์) แล้ว เนื่องจากในช่วงนั้นเป็น ปี 2551 - 2552 ที่เริ่มมีการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ทำงานตนอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้าน พล.อ.เปรม ตนก็ได้รับคำสั่งจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ขณะนั้น ให้ไปกราบ พล.อ.เปรม วันเกิด ตั้งแต่นั้น ตนก็ไปกราบทุกปี

“แล้วยังไง ทำไมผมไปในวันนี้ จึงกลายเป็นเรื่อง ตอนผมเป็นแม่ทัพภาค 1 ผมก็ไป ผมว่าคุณเอาเรื่องนี้ไปผูกกับการเป็นแคนดิเดต ผบ.ทบ. เกินไป คุณต้องดูว่า คนๆ นี้ เขาทำประจำไหม ซึ่งผมทำมาเป็นประจำ ผมตรงไปตรงมา ผมรัก ผมเคารพใคร ผมก็แสดงออก ไม่ว่าใครเป็นรัฐบาล ผมก็ไปของผมประจำ ถ้าผมไม่เคยไป แล้วไปตอนนี้ คุณก็ค่อยเขียน แล้วสิ่งที่กลัวๆ กันนี่ ถามว่ามันเกิดขึ้นไหม เมื่อ มี ผบ.ทบ แล้ว มีอะไรเกิดขึ้นไหม ไม่ว่าใครเป็นรัฐบาล ผมก็ยังไปพบท่านในวันสำคัญ” พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ตั้งแต่ตอนที่ตนเป็น ผบ.พล 1 รอ. ตนก็ไปดูแล พล.อ.เปรม ตั้งแต่ตอนนั้น ไปดูแลบ้าน ดูแล พล.อ.เปรม เพราะเป็นรัฐบุรุษ เป็นประธานองคมนตรี เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ตนก็รู้จักมานานแล้ว แต่ พล.อ.เปรม ไม่รู้จักตน กระทั่งเมื่อได้รู้จักตน พล.อ.เปรมก็เมตตา แล้วบังเอิญว่าเมื่อเมตตา เมื่อตนจะไปพบ พล.อ.เปรม ก็ให้เข้าพบได้

เมื่อถามว่า เข้าพบ พล.อ.เปรม เป็นประจำหรือไม่ เข้าพบในโอกาสไหนบ้าง พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า พล.อ.เปรม เป็นประธานองคมนตรี ไม่ใช่ว่าใครจะพบได้ แต่เมื่อตนประสานไป พล.อ.เปรม ก็บอกว่า “เออ ปูนเหรอ ก็มาสิ” ตนเองเมื่อจะไปพบ ก็ต้องประสานคนติดตาม พล.อ.เปรมก่อนว่าไปพบได้ไหม ก็ไม่ใช่ จะไปทันที ตนจะไปพบทุกครั้งที่เป็นวันสำคัญสามวันคือ วันเกิด วันสงกรานต์ และวันปีใหม่ ทุกครั้งที่เป็นสามวันนี้ ตนก็ไปมาตลอดสี่-ห้าปีนี้ แต่ไม่ใช่ว่าตนไปพบ พล.อ.เปรม คนเดียว ผู้ใหญ่คนอื่นที่ตนเคารพ ตนก็ไปพบเช่นกัน พอเกิดเรื่องนี้ ตนก็ไม่เข้าใจสังคมเหมือนกัน ไม่เข้าใจผู้สื่อข่าว ว่าทำไมไปผูกกับเรื่องนั้น

เมื่อถามว่า กระแสข่าวที่เกิดขึ้น กดดันต่อการทำงานไหม พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าเขียนเรื่องแบบนี้ทำไม กลัวตนเป็น ผบ.ทบ. หรือ ตนก็เคยคิด เมื่อตอนเราเป็นข้าราชการเด็กๆ เราก็ไปนี่ นักข่าวเต็ม ก็ไม่เห็นมีใครลงข่าว แต่พอตนไปวันนี้ เป็นเรื่องเลย เอาไปผูกกับอะไร หรือไปผูกกับเรื่องบางเรื่องมากเกินไปหรือเปล่า แต่ตนก็เข้าใจ มองในแง่ดีว่า หรือเพราะว่าตนเป็นคนน่าสนใจ เพราะตนก็เป็นแค่เด็กบ้านนอก แต่วันนี้มีคนมาสนใจเรา ตนก็ขอมองในมุมนี้ นึกไปแบบนี้ก็แล้วกัน

คลิกที่นี่ เพื่ออ่านเนื้อหาเต็มจากเว็บไซต์สำนักข่าวอิศรา