xs
xsm
sm
md
lg

นายกรัฐมนตรีทหารของไทย

เผยแพร่:   โดย: ชัยอนันต์ สมุทวณิช

ในที่สุด เราก็ได้นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 เป็นทหารคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งก็ไม่แปลกใจเพราะการขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์นั้น เป็นไปอย่างเป็นขั้นตอนเหมือนกับมีการวางแผนล่วงหน้าไว้

เรามีนายกรัฐมนตรีที่เป็นทหารมาแล้วหลายคน ตั้งแต่พันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา นักเรียนทหารบกเยอรมัน มีเรื่องเล่าว่าสมัยเป็นนักเรียนเพื่อนๆ แข่งกันใช้นิ้วยกลูกปืนใหญ่ ท่านอดทนยกลูกปืนใหญ่จนนิ้วบวม พระยาพหลฯ เป็นคนซื่อสัตย์ และซื่อๆ จนคนขนานนามว่า “ควายแห่งกองทัพบก” ท่านมีอุปนิสัยสมถะ และก็เป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่มีสีสันอะไรมาก อันที่จริงพระยาพหลฯ เป็นเพียงคนเข้ามาขั้นจังหวะรอให้จอมพลป. พิบูลสงครามขึ้นมาแทนนั่นเอง และจอมพลป.หรือแปลกก็อยู่นาน เมื่อยังเด็กพ่อแม่เห็นว่าเด็กคนนี้แปลกคือใบหูอยู่ต่ำกว่าดวงตา คนโบราณว่าเป็นผู้มีบุญ จอมพลแปลกมีอุปนิสัยนิ่มนวล แต่ในขณะดำรงตำแหน่งมีคนพยายามลอบทำร้ายหลายหน ด้วยการวางยาพิษบ้าง ลอบยิงบ้าง จึงมีการจับกุมและประหารชีวิตคนหลายคน แต่จอมพลแปลก บอกว่าจริงๆ แล้วไม่อยากฆ่าใครแต่หลวงอดุลเดชจรัส อธิบดีตำรวจในขณะนั้นไม่ยอม

หลวงอดุลฯ คนนี้นัยน์ตาดุ หน้าเหมือนแขก ได้ชื่อว่าเป็นคนตรงฉิน สมัยของท่านตำรวจไม่ต้องวิ่งเต้นหาตำแหน่ง และกรมตำรวจเป็นยุคสมัยที่สะอาดที่สุด ท่านเคยขับรถผิดกฎจราจรแล้วถูกตำรวจจับ แทนที่จะโกรธตำรวจผู้นั้นกลับได้รับคำชมเชย พ่อผมเคยเล่าให้ฟังอย่างภาคภูมิใจว่า ท่านได้ดีสมัยหลวงอดุลฯ โดยได้เป็นสารวัตรกองตรวจ (เหมือนกับกองปราบปรามสมัยนี้) พ่อผมเล่าว่าคุณหลวงอดุลฯ เป็นคนซื่อสัตย์ และมีความยุติธรรมอย่างยิ่ง

ต่อจากจอมพลป. ก็ถึงจอมพลสฤษดิ์ อาจกล่าวได้ว่าจอมพลสฤษดิ์เป็นนายทหารรุ่นสงครามโลกครั้งที่ 2 คือเป็นทหารรุ่นเก่าเดิมอยู่ลำปาง มีข่าวว่าเกี่ยวพันกับการค้าฝิ่นด้วย จอมพลสฤษดิ์เป็นผู้บัญชาการทหารบก และก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้เพราะจอมพลป. มีปัญหาถูกประชาชนประท้วง เนื่องจากโกงการเลือกตั้งเมื่อ พ.ศ. 2500 จอมพลสฤษดิ์เป็นคนอีสานจึงเอาคนอีสานเข้ามาร่วมคณะรัฐมนตรีหลายคน การที่จอมพลสฤษดิ์สามารถปกครองประเทศได้ก็เพราะทำการพัฒนาประเทศ มีการลงทุนทางโครงสร้างหลักอย่างจริงจัง และมีกุนซือดีคือหลวงวิจิตรวาทการ มีคนเล่าว่าเวลาประชุม จอมพลสฤษดิ์มักหลับตาไม่รู้ว่าหลับจริงหรือเปล่า แต่ก็กล่าวสรุปและตัดสินใจได้ทุกครั้ง

จอมพลสฤษดิ์ได้ชื่อว่าเป็นนักรักผู้ยิ่งใหญ่ มีผู้หญิงมากมาย ส่วนมากจะเป็นคู่นอนชั่วครั้งชั่วคราว โดยที่จอมพลสฤษดิ์รักใคร่ภรรยาคือ ท่านผู้หญิงวิจิตรามาก เนื่องจากการใช้ชีวิตอย่างโชกโชนกินเหล้าหนักจึงอายุสั้น แต่ก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่นำความเจริญมาให้ประเทศชาติ

จอมพลถนอมได้รับการยอมรับให้ขึ้นมาเป็นผู้นำคนต่อไป เพราะความเป็นครู และมีความนุ่มนวลเป็นที่รักใคร่ของผู้ใต้บังคับบัญชา แต่จอมพลถนอมมีจอมพลประภาสคอยค้ำจุนบัลลังก์ให้ โดยที่ลูกสาวจอมพลประภาสแต่งงานกับลูกชายคนโตของจอมพลถนอม ในสมัยนี้จอมพลถนอมเหมือนกับผู้นำที่อยู่ท่ามกลางเสือหลายตัว คือมีจอมพลประภาส พล.อ.อ.ทวี จุลละทรัพย์ และพล.ต.อ.ประเสริฐ รุจิรวงศ์ พล.ต.ต.สง่า กิตติขจร น้องชายเคยทำบันทึกลับบรรยายลักษณะและพฤติกรรมของคนแวดล้อมจอมพลถนอม เป็นทำนองการเตือนสติ ปรากฏว่าจอมพลถนอมเอาบันทึกนั้นแจกจ่ายให้คนที่อยู่ในบันทึกนั้นอ่าน

ความนุ่มนวลของจอมพลถนอมกลายเป็น “ความอ่อนแอ” บรรดา ส.ส.ก็ไม่ยำเกรง จนในที่สุดจอมพลถนอมก็ต้องปฏิวัติตนเองเพื่อยุบสภา การปกครองประเทศของจอมพลถนอมนั้น มีผู้ช่วยคนสำคัญซึ่งเป็นคนดี ซื่อสัตย์ และมีความเก่งกาจมากคือ พล.อ.แสวง เสนาณรงค์ พล.อ.แสวงเป็นคนหัวก้าวหน้า และมีความคิดเห็นเป็นประชาธิปไตย จึงได้รับการยอมรับนับถือจากบรรดา ส.ส.และนักวิชาการจำนวนมาก

นายทหารที่ไม่เคยคิดฝันว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี ได้แก่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ทหารม้า แต่ด้วยความสนับสนุนของพวกยังเติร์กจึงได้เป็นนายกรัฐมนตรี หลังพล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ซึ่งเป็นทหารมาจากสายเสนาธิการ พล.อ.เกรียงศักดิ์ เป็นนายกฯ อยู่ได้เพราะการสนับสนุนจากยังเติร์กในระยะแรก แต่ต่อมาก็เกิดการแตกแยกกัน พล.อ.เปรมเป็นคนพูดน้อยจึงได้เปรียบเพราะไม่มีใครเดาใจออกว่าคิดอะไรอยู่ แต่พล.อ.เปรม ก็อยู่ในตำแหน่งถึง 8 ปี ผมเองเคยเป็นที่ปรึกษาของพล.อ.เปรม ท่านเป็นคนซื่อสัตย์และรอบคอบระมัดระวังตัวมาก
พล.อ.ประยุทธ์ มีลักษณะไม่เหมือนกับทหารที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ผมสังเกตว่าพล.อ.ประยุทธ์เป็นคนฉลาด และเรียนรู้เร็ว สังเกตได้จากการเป็นคนคุมสถานการณ์หลังการปฏิวัติ และเป็นคนมุ่งมั่นขยันทำงาน และมีความซื่อสัตย์ การเข้ามาดำรงตำแหน่งสูงสุดทางการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นระยะเวลาที่สังคมกำลังแตกแยกอย่างหนัก ดังนั้น การเป็นนายกรัฐมนตรีก็เหมือนกับการเข้ามาคั่นกลางระหว่างฝ่ายที่ขัดแย้งกัน คุณสมบัติพิเศษก็คือการรู้จักแบ่งงาน ใช้คนและใช้ทหารอย่างทั่วถึงเต็มพื้นที่

ผมไม่คิดว่าพล.อ.ประยุทธ์จะอยู่แค่ปีเดียว สถานการณ์จะทำให้ต้องอยู่ยาวกว่านี้ เพราะปัญหามีมากที่กำลังรอการแก้ไข และคิดว่าความขัดแย้งจะปะทุขึ้นอีกในเวลาไม่นาน
กำลังโหลดความคิดเห็น