เมื่อเวลา 15.30 น. วานนี้ (29ต.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก พร้อมด้วย พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ได้ร่วมกันแถลงข่าวการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ครั้งที่ 10 โดยมี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) เป็นประธาน
ทั้งนี้ผบ.ทบ. ได้แสดงความห่วงใยในเรื่องภัยพิบัติ โดยเฉพาะสถานการณ์ภัยแล้ง ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะมีความรุนแรงและยาวนาน เนื่องจากปริมาณฝนมีค่าต่ำกว่าปกติ ปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่มีน้อยกว่าทุกปี จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วย ประสานความร่วมมือกับส่วนราชการต่างๆ เพื่อป้องกัน และลดผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง โดยเน้นเตรียมแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า จัดเตรียมกำลังพล เครื่องมือและยานพาหนะให้พร้อม ช่วยเหลือประชาชนให้รวดเร็วตรงกับความเดือดร้อน และให้เปิดโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้งปี 2558 ”ในเดือนม.ค.58 พร้อมรณรงค์ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด และคุ้มค่า งดการปลูกพืชผลทางการเกษตรที่ใช้น้ำมาก รวมทั้งรณรงค์ป้องกันไฟป่าและการเผาป่า เพื่อป้องกันปัญหามลพิษในอากาศ ในห้วงที่เกิดภัยแล้งด้วย
นอกจากนี้ ผบ.ทบ. ได้กำชับให้ทุกหน่วยติดตามสถานการณ์ที่มีผลกระทบต่องานด้านความมั่นคง ทั้งในส่วนของสถานการณ์โลก และภูมิภาคอย่างใกล้ชิด ให้มีการประชุม และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารในเครือข่ายงานด้านการข่าว โดยเฉพาะสถานการณ์การสู้รบของชนกลุ่มน้อยประเทศเพื่อนบ้าน ที่อาจทำให้มีผู้หนีภัยจากการสู้รบในพื้นที่ชายแดน ก็ให้ดูแลและปฏิบัติตามมาตรฐานสากล
พร้อมกันนี้ ขอให้หน่วยทหารได้พัฒนาศักยภาพของศูนย์การเรียนรู้ ที่ได้จัดตั้งอยู่แล้ว ทั้งในหน่วยทหาร และของชุมชน ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มีการพัฒนาองค์ความรู้ และจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป้าหมายของการเผยแพร่หลักเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติได้อย่างชัดเจน และกว้างขวาง
สำหรับในช่วง เทศกาลลอยกระทง ได้ให้หน่วยทหารในพื้นที่ต่างๆ สนับสนุนการจัดกิจกรรมของส่วนราชการ และภาคประชาชน โดยเฉพาะการประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรักษาความปลอดภัย ดูแลความสงบเรียบร้อยในการจัดกิจกรรมของจังหวัดต่างๆ สอดส่องดูแลและป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน และเป็นการเสริมบรรยากาศของการท่องเที่ยว
ผบ.ทบ. ยังให้ทุกหน่วย สานต่อภารกิจสนับสนุนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) โดยเฉพาะงานรักษาความสงบเรียบร้อยที่ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องการรักษาความปลอดภัย การจัดระเบียบสังคม การบังคับใช้กฎหมาย การป้องปรามการกระทำผิดกฎหมาย ดูแลทรัพยากร แก้ปัญหายาเสพติด แรงงานต่างด้าว เป็นต้น โดยให้ประสานการปฏิบัติกับทุกส่วนราชการอย่างรอบคอบ
ส่วนภารกิจการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ เพื่อมุ่งสู่การปฏิรูปนั้น ขอให้สานต่อการสร้างความเข้าใจกับประชาชนในทุกมิติ ทั้งการให้ข้อมูลความคืบหน้าการบริหารราชการแผ่นดิน และนโยบายต่างๆ ของภาครัฐ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน รวมถึงการสานต่อกิจกรรมสมานฉันท์ เวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ในทุกพื้นที่ นอกจากนี้ตามที่รัฐบาลมอบหมายให้กองทัพบก ส่งเจ้าหน้าที่ทหารสนับสนุนการปฏิบัติงานที่ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนั้น ผู้บัญชาการทหารบก กำชับให้ มณฑลทหารบก และจังหวัดทหาร ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่ ทั้งการเข้าไปรับรู้ปัญหาความเดือดร้อน มีส่วนร่วมในการคลี่คลายปัญหา รวมทั้งการช่วยกำหนดมาตรการดูแลศูนย์ไม่ให้เกิดเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์
**"สุวพันธุ์" จี้การบ้านทุกกระทรวง
เมื่อเวลา 13.30 น.วานนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการทำงานตามนโยบายรัฐบาล เป็นประธานประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ ครั้งที่ 1 / 2557 โดยมีตัวแทนของทุกกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วม ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง โดยนายสุวพันธุ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้ชี้แจงกรอบแนวทางอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการชุดดังกล่าว มีตนเป็นประธาน และเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธาน ซึ่งมีหน้าที่ขับเคลื่อน เร่งรัด การดำเนินงานของรัฐบาล รวมถึงเป็นตัวกลางคอยประสานการสั่งการของนายกรัฐมนตรีไปยังแต่ละกระทรวง และติดตามว่ามีการแก้ไขปัญหาเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลหรือไม่
นอกจากนี้ มีอำนาจกำหนดรูปแบบ ติดตามประเมินผล และจัดทำรายงานผลการดำเนินงานตามมติครม.เสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รวมทั้งจัดทำรายงานเผยแพร่ต่อสาธารณะทุกเดือน
"แต่ละกระทรวง จะต้องส่งรายงานผลการทำงานนับตั้งแต่แถลงนโยบายรัฐบาลต่อ สนช. วันที่ 12 ก.ย.-31ต.ค. ที่ผ่านมาครั้งแรกในวันที่ 5 พ.ย.นี้ โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าว จะติดตามว่าแผนงานของแต่กระทรวงทำงานเป็นไปตาม แผนปฎิบัติการตามนโยบายของรัฐบาล (แอคชั่นแพลน) มีความคืบหน้าเป็นอย่างไรบ้าง แต่คณะกรรมการชุดดังกล่าวฯ ไม่มีอำนาจหน้าที่ไปให้คุณให้คุณให้โทษ หรือไปจับผิดการทำงานของข้าราชการ เมื่อคณะกรรมการรับรายงานแต่ละกระทรวงมาแล้ว จะรวบรวมเสนอให้ครม.รับทราบจากนั้นจึงส่งรายงานให้ สนช.รับทราบต่อไป ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้ จะนัดประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 10 พ.ย.นี้" นายสุวพันธุ์ กล่าว
ทั้งนี้ผบ.ทบ. ได้แสดงความห่วงใยในเรื่องภัยพิบัติ โดยเฉพาะสถานการณ์ภัยแล้ง ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะมีความรุนแรงและยาวนาน เนื่องจากปริมาณฝนมีค่าต่ำกว่าปกติ ปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่มีน้อยกว่าทุกปี จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วย ประสานความร่วมมือกับส่วนราชการต่างๆ เพื่อป้องกัน และลดผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง โดยเน้นเตรียมแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า จัดเตรียมกำลังพล เครื่องมือและยานพาหนะให้พร้อม ช่วยเหลือประชาชนให้รวดเร็วตรงกับความเดือดร้อน และให้เปิดโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้งปี 2558 ”ในเดือนม.ค.58 พร้อมรณรงค์ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด และคุ้มค่า งดการปลูกพืชผลทางการเกษตรที่ใช้น้ำมาก รวมทั้งรณรงค์ป้องกันไฟป่าและการเผาป่า เพื่อป้องกันปัญหามลพิษในอากาศ ในห้วงที่เกิดภัยแล้งด้วย
นอกจากนี้ ผบ.ทบ. ได้กำชับให้ทุกหน่วยติดตามสถานการณ์ที่มีผลกระทบต่องานด้านความมั่นคง ทั้งในส่วนของสถานการณ์โลก และภูมิภาคอย่างใกล้ชิด ให้มีการประชุม และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารในเครือข่ายงานด้านการข่าว โดยเฉพาะสถานการณ์การสู้รบของชนกลุ่มน้อยประเทศเพื่อนบ้าน ที่อาจทำให้มีผู้หนีภัยจากการสู้รบในพื้นที่ชายแดน ก็ให้ดูแลและปฏิบัติตามมาตรฐานสากล
พร้อมกันนี้ ขอให้หน่วยทหารได้พัฒนาศักยภาพของศูนย์การเรียนรู้ ที่ได้จัดตั้งอยู่แล้ว ทั้งในหน่วยทหาร และของชุมชน ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มีการพัฒนาองค์ความรู้ และจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป้าหมายของการเผยแพร่หลักเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติได้อย่างชัดเจน และกว้างขวาง
สำหรับในช่วง เทศกาลลอยกระทง ได้ให้หน่วยทหารในพื้นที่ต่างๆ สนับสนุนการจัดกิจกรรมของส่วนราชการ และภาคประชาชน โดยเฉพาะการประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรักษาความปลอดภัย ดูแลความสงบเรียบร้อยในการจัดกิจกรรมของจังหวัดต่างๆ สอดส่องดูแลและป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน และเป็นการเสริมบรรยากาศของการท่องเที่ยว
ผบ.ทบ. ยังให้ทุกหน่วย สานต่อภารกิจสนับสนุนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) โดยเฉพาะงานรักษาความสงบเรียบร้อยที่ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องการรักษาความปลอดภัย การจัดระเบียบสังคม การบังคับใช้กฎหมาย การป้องปรามการกระทำผิดกฎหมาย ดูแลทรัพยากร แก้ปัญหายาเสพติด แรงงานต่างด้าว เป็นต้น โดยให้ประสานการปฏิบัติกับทุกส่วนราชการอย่างรอบคอบ
ส่วนภารกิจการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ เพื่อมุ่งสู่การปฏิรูปนั้น ขอให้สานต่อการสร้างความเข้าใจกับประชาชนในทุกมิติ ทั้งการให้ข้อมูลความคืบหน้าการบริหารราชการแผ่นดิน และนโยบายต่างๆ ของภาครัฐ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน รวมถึงการสานต่อกิจกรรมสมานฉันท์ เวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ในทุกพื้นที่ นอกจากนี้ตามที่รัฐบาลมอบหมายให้กองทัพบก ส่งเจ้าหน้าที่ทหารสนับสนุนการปฏิบัติงานที่ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนั้น ผู้บัญชาการทหารบก กำชับให้ มณฑลทหารบก และจังหวัดทหาร ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่ ทั้งการเข้าไปรับรู้ปัญหาความเดือดร้อน มีส่วนร่วมในการคลี่คลายปัญหา รวมทั้งการช่วยกำหนดมาตรการดูแลศูนย์ไม่ให้เกิดเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์
**"สุวพันธุ์" จี้การบ้านทุกกระทรวง
เมื่อเวลา 13.30 น.วานนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการทำงานตามนโยบายรัฐบาล เป็นประธานประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ ครั้งที่ 1 / 2557 โดยมีตัวแทนของทุกกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วม ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง โดยนายสุวพันธุ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้ชี้แจงกรอบแนวทางอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการชุดดังกล่าว มีตนเป็นประธาน และเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธาน ซึ่งมีหน้าที่ขับเคลื่อน เร่งรัด การดำเนินงานของรัฐบาล รวมถึงเป็นตัวกลางคอยประสานการสั่งการของนายกรัฐมนตรีไปยังแต่ละกระทรวง และติดตามว่ามีการแก้ไขปัญหาเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลหรือไม่
นอกจากนี้ มีอำนาจกำหนดรูปแบบ ติดตามประเมินผล และจัดทำรายงานผลการดำเนินงานตามมติครม.เสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รวมทั้งจัดทำรายงานเผยแพร่ต่อสาธารณะทุกเดือน
"แต่ละกระทรวง จะต้องส่งรายงานผลการทำงานนับตั้งแต่แถลงนโยบายรัฐบาลต่อ สนช. วันที่ 12 ก.ย.-31ต.ค. ที่ผ่านมาครั้งแรกในวันที่ 5 พ.ย.นี้ โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าว จะติดตามว่าแผนงานของแต่กระทรวงทำงานเป็นไปตาม แผนปฎิบัติการตามนโยบายของรัฐบาล (แอคชั่นแพลน) มีความคืบหน้าเป็นอย่างไรบ้าง แต่คณะกรรมการชุดดังกล่าวฯ ไม่มีอำนาจหน้าที่ไปให้คุณให้คุณให้โทษ หรือไปจับผิดการทำงานของข้าราชการ เมื่อคณะกรรมการรับรายงานแต่ละกระทรวงมาแล้ว จะรวบรวมเสนอให้ครม.รับทราบจากนั้นจึงส่งรายงานให้ สนช.รับทราบต่อไป ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้ จะนัดประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 10 พ.ย.นี้" นายสุวพันธุ์ กล่าว