เมื่อเวลา 08.00 น. วานนี้ (2 ก.พ.) ที่กองการบิน กรมการขนส่งทางบก (ขส.ทบ.) ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. พร้อมด้วย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และคณะ ออกเดินทางจาก ขส.ทบ. ไปยังท่าอากาศยานนครราชสีมา จ.นครราชสีมา เพื่อประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ครั้งที่ 1/2558 ณ ห้องประชุมสหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา
พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางว่า จะไปหารือในหลายๆเรื่อง หลายมิติ เรื่องแรก คือ การช่วยเหลือในห้วงที่ผ่านมา ต้องการทราบว่า ในพื้นที่มีปัญหาอย่างไร และมีการดูในทุกมาตรการ ทั้งมาตรการเร่งด่วนระยะยาว การส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในการผลิตข้าวที่มีคุณภาพ รวมถึงเรื่องการตลาด และที่เลือกไปที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เพราะทราบว่า สหกรณ์ที่นี่มีความเข้มแข็งมาก จึงจะไปพูดคุยว่า ทำอย่างไรจะสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นได้ในทุกสหกรณ์ โดยเฉพาะเรื่องการตลาด และการปลูกข้าวพันธุ์ไรซ์เบอร์รี่ ซึ่งวันนี้เริ่มมีการผลิตและราคาสูงขึ้น จึงจะไปคุยว่า ทำอย่างไรที่จะทำให้เกิดความสมดุล ระหว่างผู้ผลิต และผู้บริโภค และไม่ให้ความต้องการมากไปกว่าเดิม เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาในการหาตลาด แต่ก็น่าภาคภูมิใจ ที่พันธุ์ข้าวดังกล่าวคนไทยผลิตเอง ผสมพันธุ์ระหว่างข้าวหอมมะลิ กับพันธุ์ กข. สีม่วง ที่มีคุณภาพสูง มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงอยากให้คนไทยส่งเสริมในเรื่องดังกล่าวด้วย
** รปภ.เข้ม -ห้ามม็อบต่อต้านเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะในครั้งนี้ กำหนดให้มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด มีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ อาสาสมัครรักษาดินแดน ร่วมพันกว่านาย เฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยทั้งใน และพื้นที่โดยรอบ สหกรณ์ ตั้งแต่สนามบินกองบัญชาการกองทัพอากาศ กองบินที่ 1 ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นจุดที่นายกฯ ลงเครื่อง ขณะที่ตลอดเส้นทางที่ขบวนรถนายกฯผ่านมายัง สหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด อ.พิมาย ทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดตรวจ เป็นระยะๆ
ส่วนที่บริเวณทางเข้าด้านหน้าสหกรณ์ฯ เจ้าหน้าที่หน่วยทำลายวัตถุระเบิด (EOD) ได้ตั้งเครื่องสแกนวัตถุต้องสงสัย ตรวจค้นผู้เข้าร่วมงาน บ้านประชาชนที่อยู่บริเวณโดยรอบสหกรณ์ฯ เจ้าหน้าที่ทหาร ได้ขอความร่วมมือเข้าไปไปเป็นจุดเฝ้าระวังด้วย รวมถึงมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด มาตั้งจุดตรวจคัดกรองสุขภาพ ป้องกันไม่ให้ผู้ที่มีไข้หวัดสูง เข้าร่วม ขณะที่สื่อมวลชนที่มาติดตามทำข่าวให้มีการลงทะเบียนแลกบัตร มีการจำกัดสื่อเข้าไปทำข่าวการประชุม สำหรับสื่อมวลชนที่ได้รับอนุญาตเข้าทำข่าวการประชุม ต้องมีการติดปลอกแขนด้วยนอกเหนือจากแลกบัตร
พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา กล่าวว่า หลังเกิดเหตุระเบิดที่หน้าศูนย์การค้าสยามพารากอน ก็ได้เพิ่มมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรีเป็นพิเศษ โดยคัดกรองบุคคลและตรวจอาวุธอย่างเข้มงวด เคลียร์พื้นที่ตลอดเส้นทางที่คณผ่าน และบริเวณจัดงาน ส่วนการยื่นเรื่องร้องเรียนนั้น ทางจังหวัดได้ตั้งศูนย์ดำรงธรรมเคลื่อนที่บริเวณหน้าประตูเข้างาน ไม่ให้ยื่นถึงตัวนายกรัฐมนตรีโดยตรง สำหรับมวลชนที่จะมาต่อต้านหรือก่อกวนนั้น ตรวจสอบแล้วไม่พบ แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ประมาท และฝากไปยังมวลชนที่จะมาต่อต้านว่า การเดินทามาของนายกฯ เพื่อแก้ปัญหาให้แก่ประชาชน การจะต่อต้านขอให้ทำตามช่องทางที่มีอยู่ จะเข้ามาแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านไม่ได้เด็ดขาด
**ให้ปลูกข้าวคุณภาพเพื่อขายได้ราคา
ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมสหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด อ.พิมาย พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ครั้งที่ 1/2558 โดยนายกฯ กล่าวในที่ประชุมตอนหนึ่งว่า ต้องยอมรับว่าความเดือดร้อนของเกษตรกรเกิดจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ ประเทศเพื่อนบ้านก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ปัจจัยภายในประเทศต้องช่วยเร่งสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจภายในประเทศ เพื่อสร้างโอกาส และ ความได้เปรียบต่อประเทศเพื่อนบ้าน ข้าราชการและเกษตรกร ต้องร่วมมือรัฐบาลยกระดับเศรษฐกิจของประเทศให้เข้มแข็ง และดีขึ้น ร่วมสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชเกษตรที่เหมาะสมกับพื้นที่ โดยเฉพาะการปลูกข้าวต้องเน้นปลูกข้าวที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับปริมาณน้ำ เพื่อให้ขายได้ราคาสูง ที่แห่งใดปลูกข้าวแล้วไม่ได้คุณภาพ ก็ให้มีการส่งเสริมไปปลูกพืชชนิดอื่นแทน
**สั่งผวจ.สรุปปัญหาเกษตรกรส่งรัฐบาล
หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้พบปะตัวแทน กลุ่มเกษตรกรของจังหวัด 7 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มข้าวหอมมะลิทุ่งสัมฤทธิ์ กลุ่มมันสำปะหลัง กลุ่มปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กลุ่มยางพารา กลุ่มอ้อย กลุ่มผลิตภัณฑ์ชุมชน และกลุ่มสหกรณ์การเกษตรพิมาย เพื่อรับฟังปัญหา ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า รัฐบาลมีความจริงใจแก้ไขปัญหาเกษตรกรในระยะยาว พร้อมรับฟังปัญหาบรรเทาความเดือดร้อน ยกระดับความเป็นอยู่ให้ดียิ่งขึ้น อาศัยสหกรณ์การเกษตรคอยดูแล และให้คำปรึกษา รวมถึงดูแลราคาสินค้าพืชผลทางการเกษตร สร้างความเป็นธรรมต่อเกษตรกร ขอให้สหกรณ์การเกษตรพิมายเป็นต้นแบบสร้างการเรียนรู้ขยายเป็นเครือข่ายของสหกรณ์ที่เข้มแข็งต่อไป ส่วนปัญหาเกษตรกร มอบหมายผู้ว่าฯ รวบรวมปัญหา นำมากลั่นกรอง และแยกประเภทของปัญหาร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ หาข้อสรุป ก่อนนำเสนอรัฐบาล
**"ลุงตู่" โชว์ผัดหมี่โคราชเอาใจแม่ยก
ต่อมามานายกฯ ได้เดินลงมาดูสินค้าโอทอป ที่ได้จัดแสดงอยู่ในบริเวณสหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด ซึ่งนายกฯได้ให้ความสนใจ และสอบถามข้อมูลจากเกษตรกรตามบูธต่าง ๆ อาทิ ข้าวของเครือข่ายข้าวทุ่งสัมฤทธิ์ และยังสอบถามกลุ่มกะลามะพร้าว และไม้ไผ่บ้านนาน้อย พร้อมทั้งแนะนำให้ทางกลุ่ม ให้พัฒนาสินค้าให้สามารถขายในต่างประเทศได้ และห้นำหินสีมาประดับรวมกับกะลามะพร้าว ซึ่งจะช่วยกันสิ่งชั่วร้าย และป้องกันอันตรายต่างๆ
นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้เซ็นชื่อลงในโถดินเผา ของกลุ่มดินด่านเกวียน และยังได้โชว์ฝีมือ ผัดหมี่โคราช พร้อมกับเชิญชวนให้คนไทยทั้งประเทศกินผัดหมี่โคราช เพราะเส้นหมี่ของเขาอร่อยจริงๆ
โอกาสนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปราศรัยกับผู้ที่มาต้อนรับว่า ดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้กลับมาเยี่ยมโคราชบ้านเดียวกัน เพราะเกิดในค่ายทหารที่นี่ คนอีสาน เวลาจับข้าวเหนียวต้องจับสามนิ้ว ตนเกิดที่นี่มีพ่อเป็นทหาร ส่วนแม่ผมเป็นชาวจังหวัดชัยภูมิ จึงถือว่ามีเลือดอีสานร้อยเปอร์เซ็นต์ แม้จะไปทำงานที่อื่นก็ตาม แต่ไม่เคยลืมชาวอีสาน ไม่ว่าจะอยู่ฐานะใด
"สรุปว่าเป็นคนโคราชเด้อ ผมดีใจที่ได้กลับมาโคราชอีก กลับมาบ้านอีกครั้ง ผมเกิดที่นี่ แล้วย้ายไปลพบุรี ถ้าคุณแม่ยังอยู่ ท่านคงดีใจ แต่ท่านเสียแล้ว แต่ผมก็ดีใจที่ได้มาโคราช และหลายคนในคณะ ก็เคยทำงานในภาคอีสานทั้งนั้น" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
** ขอเวลาปฏิรูปประเทศอย่าเพิ่งขับไล่
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยืนยันว่า การเข้ามาดูแลประเทศชาติในวันที่ 22 พ.ค.นั้น ไม่ได้ต้องการอะไรเลย ไม่ต้องการอำนาจและอะไรทั้งสิ้น แม้ผลประโยชน์สลึงเดียวยังไม่ต้องการ คิดแต่ว่าทำอย่างไรให้ประเทศไทยเดินหน้าไปได้ ทุกคนรู้ดีว่าอะไรเกิดขึ้นในประเทศไทย หากไม่ต้องการเจอปัญหาต่อไป เราต้องมีความเข้มแข็ง เพื่อให้รัฐบาลสามารถขับเคลื่อนงานต่อไป วันนี้ทุกสิ่งต้องเดินหน้า แม้ทุกอย่างไม่สามารถแก้ไขได้ภายในเวลา 4 เดือน วันนี้ในฐานะนายกฯ เข้ามาทำงานในการขับเคลื่อนประเทศ เนื่องจากรัฐบาลที่ผ่านมาไม่สามารถขับเคลื่อนประเทศได้
**อ้อนอย่าปิดทีวีหนีรายการคืนความสุข
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว่า การสร้างเศรษฐกิจชุมชนให้มีความเข้มแข็งนั้น สำคัญ ซึ่งตนได้ให้มีตลาดในการจับจ่ายใช้สอย เริ่มจากชุมชน ภูมิภาค ไปจนถึงชายแดน โดยต้องมีความเชื่อมโยงกับการเปิดประชาคมอาเซียน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเตรียมความพร้อม หากยังมีปัญหาความขัดแย้งกันอยู่ จะทำให้เราเสียเปรียบเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามต้นทุนการผลิตของไทยถือว่าสูง กว่าเพื่อนบ้านในภูมิภาคนี้ จึงต้องหาวิธีการลดต้นทุนการผลิต ทั้งข้าว ยาง มันสำปะหลัง โดยต้อง แก้ทั้งระบบ ให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจโลก
นายกฯ กล่าวอีกว่า ทำงานมา 8 เดือน วันนี้ยังแก้อะไรไม่เสร็จสักอัน แล้วก็มาว่า เมื่อไรจะไปสักที อย่างนี้หมดกำลังใจ อย่ามาเสียเวลายกนิ้วประท้วง ทุกจังหวัดต้องเป็นหนึ่งเดียว คนไทยไม่เคยพ่ายแพ้ใคร พระมหากษัตริย์อย่าให้ใครมาทำลาย ดังนั้นขอเวลาบ้าง เพื่อสงบยั้งยืน ให้เวลาไม่ได้เลยเหรอ วันนี้รัฐบาลพยายามลดต้นทุน สร้างให้ราคาสู้ได้ ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ถ้าเราไม่พึ่งตนเอง ไม่ฟังรัฐบาล มันไปไม่ได้จริงๆ ไม่ได้หลอกเพื่ออยู่นาน อยู่เพื่อแก้ปัญหาให้ วันนี้เร่งแก้ปัญหาเร็วที่สุดแล้ว ดำเนินยุทธศาสตร์ 9 ด้าน จากนี้ต้องไม่เกิดการหยุดชะงัก จะแตกแยกขัดแย้งอีก ตนไม่ยอมอีกแล้ว ยอมไม่ได้ให้มาชักนำ ระยะหลังมานี้ ตนไม่ไหว เหนื่อย แต่ยังสู้ได้ เรื่องปรองดอง ปฏิรูป ตนไม่ได้ปรองดองกับใคร ไม่ต้องมาอ้างเหตุผลอื่น เรื่องของคดีว่าผิดถูกไปพิสูจน์ตามกระบวนการกฎหมาย ไม่ได้สั่งลงโทษใคร
นายกฯ กล่าวว่า สิ่งสำคัญวันข้างหน้า เราขาดพลังงาน เราต้องคิดตรงนี้ ให้ไปหาวิธีมา ทุกคนอยากได้ไฟฟ้า แต่ปักเสาไฟไม่ได้ อยากอยู่อย่างเดิมไหม วันนี้มารับนโยบาย ทุกคนต้องช่วยกัน แผ่นดินนี้แตกแยกขัดแย้งอีกต่อไปไม่ได้ ให้สัญญาด้วยชีวิต ภายใต้นโยบายทั้งหมดที่มี วันศุกร์พูดด้วย ทำไมไม่พูดด้วย ปิดทีวีหนีหมด จำไว้เลยนะ รายการเดินหน้าประเทศไทย ฟังเถอะ จะได้รู้ว่าทำอะไรให้ ส่วนตนพูดทุกอย่างที่ทำ ทุกวันนี้ตนไม่สามารถนอนหลับตาได้มา 8 เดือน แล้ว นอนไม่ค่อยหลับ ขู่จะเดินขบวน อย่าขู่กันเลย ตนใช้อำนาจเพื่อสร้างสรรค์ ไม่ใช่ใช้อำนาจจัดการใครทั้งสิ้น
ทั้งนี้ เวลา 17.30น. นายกฯและคณะได้เดินทางออกจากสหกรณ์การเกษตรพิมาย ด้วยรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด สีขาว หมายเลขทะเบียน กย 5759 นครราชสีมา โดยโบกมือ ชูสัญลักษณ์ ไอเลิฟยู ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ก่อนจะออกเดินทางไปขึ้นเครื่องบินกลับไปกรุงเทพมหานคร
พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางว่า จะไปหารือในหลายๆเรื่อง หลายมิติ เรื่องแรก คือ การช่วยเหลือในห้วงที่ผ่านมา ต้องการทราบว่า ในพื้นที่มีปัญหาอย่างไร และมีการดูในทุกมาตรการ ทั้งมาตรการเร่งด่วนระยะยาว การส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในการผลิตข้าวที่มีคุณภาพ รวมถึงเรื่องการตลาด และที่เลือกไปที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เพราะทราบว่า สหกรณ์ที่นี่มีความเข้มแข็งมาก จึงจะไปพูดคุยว่า ทำอย่างไรจะสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นได้ในทุกสหกรณ์ โดยเฉพาะเรื่องการตลาด และการปลูกข้าวพันธุ์ไรซ์เบอร์รี่ ซึ่งวันนี้เริ่มมีการผลิตและราคาสูงขึ้น จึงจะไปคุยว่า ทำอย่างไรที่จะทำให้เกิดความสมดุล ระหว่างผู้ผลิต และผู้บริโภค และไม่ให้ความต้องการมากไปกว่าเดิม เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาในการหาตลาด แต่ก็น่าภาคภูมิใจ ที่พันธุ์ข้าวดังกล่าวคนไทยผลิตเอง ผสมพันธุ์ระหว่างข้าวหอมมะลิ กับพันธุ์ กข. สีม่วง ที่มีคุณภาพสูง มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงอยากให้คนไทยส่งเสริมในเรื่องดังกล่าวด้วย
** รปภ.เข้ม -ห้ามม็อบต่อต้านเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะในครั้งนี้ กำหนดให้มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด มีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ อาสาสมัครรักษาดินแดน ร่วมพันกว่านาย เฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยทั้งใน และพื้นที่โดยรอบ สหกรณ์ ตั้งแต่สนามบินกองบัญชาการกองทัพอากาศ กองบินที่ 1 ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นจุดที่นายกฯ ลงเครื่อง ขณะที่ตลอดเส้นทางที่ขบวนรถนายกฯผ่านมายัง สหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด อ.พิมาย ทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดตรวจ เป็นระยะๆ
ส่วนที่บริเวณทางเข้าด้านหน้าสหกรณ์ฯ เจ้าหน้าที่หน่วยทำลายวัตถุระเบิด (EOD) ได้ตั้งเครื่องสแกนวัตถุต้องสงสัย ตรวจค้นผู้เข้าร่วมงาน บ้านประชาชนที่อยู่บริเวณโดยรอบสหกรณ์ฯ เจ้าหน้าที่ทหาร ได้ขอความร่วมมือเข้าไปไปเป็นจุดเฝ้าระวังด้วย รวมถึงมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด มาตั้งจุดตรวจคัดกรองสุขภาพ ป้องกันไม่ให้ผู้ที่มีไข้หวัดสูง เข้าร่วม ขณะที่สื่อมวลชนที่มาติดตามทำข่าวให้มีการลงทะเบียนแลกบัตร มีการจำกัดสื่อเข้าไปทำข่าวการประชุม สำหรับสื่อมวลชนที่ได้รับอนุญาตเข้าทำข่าวการประชุม ต้องมีการติดปลอกแขนด้วยนอกเหนือจากแลกบัตร
พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา กล่าวว่า หลังเกิดเหตุระเบิดที่หน้าศูนย์การค้าสยามพารากอน ก็ได้เพิ่มมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรีเป็นพิเศษ โดยคัดกรองบุคคลและตรวจอาวุธอย่างเข้มงวด เคลียร์พื้นที่ตลอดเส้นทางที่คณผ่าน และบริเวณจัดงาน ส่วนการยื่นเรื่องร้องเรียนนั้น ทางจังหวัดได้ตั้งศูนย์ดำรงธรรมเคลื่อนที่บริเวณหน้าประตูเข้างาน ไม่ให้ยื่นถึงตัวนายกรัฐมนตรีโดยตรง สำหรับมวลชนที่จะมาต่อต้านหรือก่อกวนนั้น ตรวจสอบแล้วไม่พบ แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ประมาท และฝากไปยังมวลชนที่จะมาต่อต้านว่า การเดินทามาของนายกฯ เพื่อแก้ปัญหาให้แก่ประชาชน การจะต่อต้านขอให้ทำตามช่องทางที่มีอยู่ จะเข้ามาแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านไม่ได้เด็ดขาด
**ให้ปลูกข้าวคุณภาพเพื่อขายได้ราคา
ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมสหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด อ.พิมาย พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ครั้งที่ 1/2558 โดยนายกฯ กล่าวในที่ประชุมตอนหนึ่งว่า ต้องยอมรับว่าความเดือดร้อนของเกษตรกรเกิดจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ ประเทศเพื่อนบ้านก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ปัจจัยภายในประเทศต้องช่วยเร่งสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจภายในประเทศ เพื่อสร้างโอกาส และ ความได้เปรียบต่อประเทศเพื่อนบ้าน ข้าราชการและเกษตรกร ต้องร่วมมือรัฐบาลยกระดับเศรษฐกิจของประเทศให้เข้มแข็ง และดีขึ้น ร่วมสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชเกษตรที่เหมาะสมกับพื้นที่ โดยเฉพาะการปลูกข้าวต้องเน้นปลูกข้าวที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับปริมาณน้ำ เพื่อให้ขายได้ราคาสูง ที่แห่งใดปลูกข้าวแล้วไม่ได้คุณภาพ ก็ให้มีการส่งเสริมไปปลูกพืชชนิดอื่นแทน
**สั่งผวจ.สรุปปัญหาเกษตรกรส่งรัฐบาล
หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้พบปะตัวแทน กลุ่มเกษตรกรของจังหวัด 7 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มข้าวหอมมะลิทุ่งสัมฤทธิ์ กลุ่มมันสำปะหลัง กลุ่มปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กลุ่มยางพารา กลุ่มอ้อย กลุ่มผลิตภัณฑ์ชุมชน และกลุ่มสหกรณ์การเกษตรพิมาย เพื่อรับฟังปัญหา ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า รัฐบาลมีความจริงใจแก้ไขปัญหาเกษตรกรในระยะยาว พร้อมรับฟังปัญหาบรรเทาความเดือดร้อน ยกระดับความเป็นอยู่ให้ดียิ่งขึ้น อาศัยสหกรณ์การเกษตรคอยดูแล และให้คำปรึกษา รวมถึงดูแลราคาสินค้าพืชผลทางการเกษตร สร้างความเป็นธรรมต่อเกษตรกร ขอให้สหกรณ์การเกษตรพิมายเป็นต้นแบบสร้างการเรียนรู้ขยายเป็นเครือข่ายของสหกรณ์ที่เข้มแข็งต่อไป ส่วนปัญหาเกษตรกร มอบหมายผู้ว่าฯ รวบรวมปัญหา นำมากลั่นกรอง และแยกประเภทของปัญหาร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ หาข้อสรุป ก่อนนำเสนอรัฐบาล
**"ลุงตู่" โชว์ผัดหมี่โคราชเอาใจแม่ยก
ต่อมามานายกฯ ได้เดินลงมาดูสินค้าโอทอป ที่ได้จัดแสดงอยู่ในบริเวณสหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด ซึ่งนายกฯได้ให้ความสนใจ และสอบถามข้อมูลจากเกษตรกรตามบูธต่าง ๆ อาทิ ข้าวของเครือข่ายข้าวทุ่งสัมฤทธิ์ และยังสอบถามกลุ่มกะลามะพร้าว และไม้ไผ่บ้านนาน้อย พร้อมทั้งแนะนำให้ทางกลุ่ม ให้พัฒนาสินค้าให้สามารถขายในต่างประเทศได้ และห้นำหินสีมาประดับรวมกับกะลามะพร้าว ซึ่งจะช่วยกันสิ่งชั่วร้าย และป้องกันอันตรายต่างๆ
นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้เซ็นชื่อลงในโถดินเผา ของกลุ่มดินด่านเกวียน และยังได้โชว์ฝีมือ ผัดหมี่โคราช พร้อมกับเชิญชวนให้คนไทยทั้งประเทศกินผัดหมี่โคราช เพราะเส้นหมี่ของเขาอร่อยจริงๆ
โอกาสนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปราศรัยกับผู้ที่มาต้อนรับว่า ดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้กลับมาเยี่ยมโคราชบ้านเดียวกัน เพราะเกิดในค่ายทหารที่นี่ คนอีสาน เวลาจับข้าวเหนียวต้องจับสามนิ้ว ตนเกิดที่นี่มีพ่อเป็นทหาร ส่วนแม่ผมเป็นชาวจังหวัดชัยภูมิ จึงถือว่ามีเลือดอีสานร้อยเปอร์เซ็นต์ แม้จะไปทำงานที่อื่นก็ตาม แต่ไม่เคยลืมชาวอีสาน ไม่ว่าจะอยู่ฐานะใด
"สรุปว่าเป็นคนโคราชเด้อ ผมดีใจที่ได้กลับมาโคราชอีก กลับมาบ้านอีกครั้ง ผมเกิดที่นี่ แล้วย้ายไปลพบุรี ถ้าคุณแม่ยังอยู่ ท่านคงดีใจ แต่ท่านเสียแล้ว แต่ผมก็ดีใจที่ได้มาโคราช และหลายคนในคณะ ก็เคยทำงานในภาคอีสานทั้งนั้น" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
** ขอเวลาปฏิรูปประเทศอย่าเพิ่งขับไล่
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยืนยันว่า การเข้ามาดูแลประเทศชาติในวันที่ 22 พ.ค.นั้น ไม่ได้ต้องการอะไรเลย ไม่ต้องการอำนาจและอะไรทั้งสิ้น แม้ผลประโยชน์สลึงเดียวยังไม่ต้องการ คิดแต่ว่าทำอย่างไรให้ประเทศไทยเดินหน้าไปได้ ทุกคนรู้ดีว่าอะไรเกิดขึ้นในประเทศไทย หากไม่ต้องการเจอปัญหาต่อไป เราต้องมีความเข้มแข็ง เพื่อให้รัฐบาลสามารถขับเคลื่อนงานต่อไป วันนี้ทุกสิ่งต้องเดินหน้า แม้ทุกอย่างไม่สามารถแก้ไขได้ภายในเวลา 4 เดือน วันนี้ในฐานะนายกฯ เข้ามาทำงานในการขับเคลื่อนประเทศ เนื่องจากรัฐบาลที่ผ่านมาไม่สามารถขับเคลื่อนประเทศได้
**อ้อนอย่าปิดทีวีหนีรายการคืนความสุข
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว่า การสร้างเศรษฐกิจชุมชนให้มีความเข้มแข็งนั้น สำคัญ ซึ่งตนได้ให้มีตลาดในการจับจ่ายใช้สอย เริ่มจากชุมชน ภูมิภาค ไปจนถึงชายแดน โดยต้องมีความเชื่อมโยงกับการเปิดประชาคมอาเซียน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเตรียมความพร้อม หากยังมีปัญหาความขัดแย้งกันอยู่ จะทำให้เราเสียเปรียบเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามต้นทุนการผลิตของไทยถือว่าสูง กว่าเพื่อนบ้านในภูมิภาคนี้ จึงต้องหาวิธีการลดต้นทุนการผลิต ทั้งข้าว ยาง มันสำปะหลัง โดยต้อง แก้ทั้งระบบ ให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจโลก
นายกฯ กล่าวอีกว่า ทำงานมา 8 เดือน วันนี้ยังแก้อะไรไม่เสร็จสักอัน แล้วก็มาว่า เมื่อไรจะไปสักที อย่างนี้หมดกำลังใจ อย่ามาเสียเวลายกนิ้วประท้วง ทุกจังหวัดต้องเป็นหนึ่งเดียว คนไทยไม่เคยพ่ายแพ้ใคร พระมหากษัตริย์อย่าให้ใครมาทำลาย ดังนั้นขอเวลาบ้าง เพื่อสงบยั้งยืน ให้เวลาไม่ได้เลยเหรอ วันนี้รัฐบาลพยายามลดต้นทุน สร้างให้ราคาสู้ได้ ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ถ้าเราไม่พึ่งตนเอง ไม่ฟังรัฐบาล มันไปไม่ได้จริงๆ ไม่ได้หลอกเพื่ออยู่นาน อยู่เพื่อแก้ปัญหาให้ วันนี้เร่งแก้ปัญหาเร็วที่สุดแล้ว ดำเนินยุทธศาสตร์ 9 ด้าน จากนี้ต้องไม่เกิดการหยุดชะงัก จะแตกแยกขัดแย้งอีก ตนไม่ยอมอีกแล้ว ยอมไม่ได้ให้มาชักนำ ระยะหลังมานี้ ตนไม่ไหว เหนื่อย แต่ยังสู้ได้ เรื่องปรองดอง ปฏิรูป ตนไม่ได้ปรองดองกับใคร ไม่ต้องมาอ้างเหตุผลอื่น เรื่องของคดีว่าผิดถูกไปพิสูจน์ตามกระบวนการกฎหมาย ไม่ได้สั่งลงโทษใคร
นายกฯ กล่าวว่า สิ่งสำคัญวันข้างหน้า เราขาดพลังงาน เราต้องคิดตรงนี้ ให้ไปหาวิธีมา ทุกคนอยากได้ไฟฟ้า แต่ปักเสาไฟไม่ได้ อยากอยู่อย่างเดิมไหม วันนี้มารับนโยบาย ทุกคนต้องช่วยกัน แผ่นดินนี้แตกแยกขัดแย้งอีกต่อไปไม่ได้ ให้สัญญาด้วยชีวิต ภายใต้นโยบายทั้งหมดที่มี วันศุกร์พูดด้วย ทำไมไม่พูดด้วย ปิดทีวีหนีหมด จำไว้เลยนะ รายการเดินหน้าประเทศไทย ฟังเถอะ จะได้รู้ว่าทำอะไรให้ ส่วนตนพูดทุกอย่างที่ทำ ทุกวันนี้ตนไม่สามารถนอนหลับตาได้มา 8 เดือน แล้ว นอนไม่ค่อยหลับ ขู่จะเดินขบวน อย่าขู่กันเลย ตนใช้อำนาจเพื่อสร้างสรรค์ ไม่ใช่ใช้อำนาจจัดการใครทั้งสิ้น
ทั้งนี้ เวลา 17.30น. นายกฯและคณะได้เดินทางออกจากสหกรณ์การเกษตรพิมาย ด้วยรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด สีขาว หมายเลขทะเบียน กย 5759 นครราชสีมา โดยโบกมือ ชูสัญลักษณ์ ไอเลิฟยู ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ก่อนจะออกเดินทางไปขึ้นเครื่องบินกลับไปกรุงเทพมหานคร