พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน(รมว.รง.) เปิดเผยว่า ตนจะยกเลิกประกาศกระทรวง กรณีที่กฎหมายระบุให้ กสร. เป็นหน่วยงานที่จัดการเลือกตั้งคณะกรรมการไตรภาคีในกระทรวงแรงงาน ซึ่งแต่ละกรมใช้กติกาเดียวกัน แต่มีปัญหาคนกลุ่มเดิมมาเป็นคณะกรรมการไตรภาคี และคณะอนุกรรมการในชุดต่างๆ ซึ่งประกาศกระทรวงฉบับใหม่จะให้อิสระแต่ละกรมสามารถคัดเลือกคณะกรรมการฯเอง โดยไม่ต้องใช้กติกาเดียวกัน จะช่วยอุดช่องโหว่ปัญหาดังกล่าว และสามารถดึงคนนอกที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาเป็นกรรมการ และอนุกรรมการไตรภาคีในชุดต่างๆได้ คาดว่า จะออกประกาศกระทรวงฉบับใหม่ได้ในเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ รมว.แรงงาน ได้กล่าวถึงการใช้จ่ายเงินบริหาร ของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ว่า ที่ผ่านมากฎหมายประกันสังคมกำหนดให้ สปส.สามารถใช้เงินร้อยละ 10 หรือคิดเป็นเงิน 1.2 แสนล้าน ของเงินกองทุนมาใช้ในการบริหารจัดการ ซึ่งเป็นการกำหนดสัดส่วนการใช้งบที่มากเกินไป เพราะการใช้จ่ายแค่หลักพันล้าน แต่ถ้าใช้จ่ายตามที่กฎหมายกำหนด จะเป็นเงินมหาศาลเนื่องจากปัจจุบันเงินกองทุนประกันสังคมมีอยู่กว่า 1.2 ล้านล้านบาท
นอกจากนี้ ยังได้ให้นโยบายแก่ผู้บริหารสปส. ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคมนี้ จะต้องดำเนินการในเรื่องการจัดทำแผนการใช้จ่ายงบประมาณปี 2558ว่ามีรายละเอียดอย่างไร โดยให้มารายงานกับศูนย์ติดตามสถานการณ์แรงงาน และแยกงบบริหารและงบลงทุนออกจากกัน รวมทั้งทบทวนคณะกรรมการและอนุกรรมการชุดต่างๆ ต้องไม่ใช่บุคคลคนเดียวกัน และไม่ใช่พวกพ้องเพื่อให้เกิดการถ่วงดุล และนำมืออาชีพมาทำงานได้
“จากการตรวจสอบวงเงิน 1.2 พันล้าน ที่มีการเรียกคืนจากสปส.เพราะมีรายละเอียดการใช้เงินที่ไม่ชัดเจน และไม่สามารถตอบคำถามความคุ้มค่า และความจำเป็นได้เช่น โครงการไปดูงานต่างประเทศ ใช้ถึงปีละ 100 ล้านบาท งบประชาสัมพันธ์และงบฝึกอบรมอีกหลายร้อยล้าน ผมได้ให้ยกเลิกโครงการไปดูงานต่างประเทศไปแล้ว” พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าว
รมว.แรงงาน กล่าวถึง การทำงานในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาว่า ยังไม่พบว่ากรมไหนมีจุดอ่อน หรือมีข้าราชการทำตัวเป็นเกียร์ว่าง แต่ยอมรับว่าแต่ละกรมก็มีปัญหาที่สะสมมาตลอดการตั้งกระทรวงมา 24 ปี จะโทษข้าราชการยุคปัจจุบันคงไม่เป็นธรรม ซึ่งพบว่าจุดอ่อนของกระทรวงแรงงาน คือยุทธศาสตร์ด้านแรงงานขาดความชัดเจน และข้าราชการส่วนใหญ่มุ่งทำงานประจำ ไม่ได้คิดนอกกรอบ ตนจึงมาช่วยคิดงาน และให้ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ รมว.แรงงาน ได้กล่าวถึงการใช้จ่ายเงินบริหาร ของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ว่า ที่ผ่านมากฎหมายประกันสังคมกำหนดให้ สปส.สามารถใช้เงินร้อยละ 10 หรือคิดเป็นเงิน 1.2 แสนล้าน ของเงินกองทุนมาใช้ในการบริหารจัดการ ซึ่งเป็นการกำหนดสัดส่วนการใช้งบที่มากเกินไป เพราะการใช้จ่ายแค่หลักพันล้าน แต่ถ้าใช้จ่ายตามที่กฎหมายกำหนด จะเป็นเงินมหาศาลเนื่องจากปัจจุบันเงินกองทุนประกันสังคมมีอยู่กว่า 1.2 ล้านล้านบาท
นอกจากนี้ ยังได้ให้นโยบายแก่ผู้บริหารสปส. ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคมนี้ จะต้องดำเนินการในเรื่องการจัดทำแผนการใช้จ่ายงบประมาณปี 2558ว่ามีรายละเอียดอย่างไร โดยให้มารายงานกับศูนย์ติดตามสถานการณ์แรงงาน และแยกงบบริหารและงบลงทุนออกจากกัน รวมทั้งทบทวนคณะกรรมการและอนุกรรมการชุดต่างๆ ต้องไม่ใช่บุคคลคนเดียวกัน และไม่ใช่พวกพ้องเพื่อให้เกิดการถ่วงดุล และนำมืออาชีพมาทำงานได้
“จากการตรวจสอบวงเงิน 1.2 พันล้าน ที่มีการเรียกคืนจากสปส.เพราะมีรายละเอียดการใช้เงินที่ไม่ชัดเจน และไม่สามารถตอบคำถามความคุ้มค่า และความจำเป็นได้เช่น โครงการไปดูงานต่างประเทศ ใช้ถึงปีละ 100 ล้านบาท งบประชาสัมพันธ์และงบฝึกอบรมอีกหลายร้อยล้าน ผมได้ให้ยกเลิกโครงการไปดูงานต่างประเทศไปแล้ว” พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าว
รมว.แรงงาน กล่าวถึง การทำงานในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาว่า ยังไม่พบว่ากรมไหนมีจุดอ่อน หรือมีข้าราชการทำตัวเป็นเกียร์ว่าง แต่ยอมรับว่าแต่ละกรมก็มีปัญหาที่สะสมมาตลอดการตั้งกระทรวงมา 24 ปี จะโทษข้าราชการยุคปัจจุบันคงไม่เป็นธรรม ซึ่งพบว่าจุดอ่อนของกระทรวงแรงงาน คือยุทธศาสตร์ด้านแรงงานขาดความชัดเจน และข้าราชการส่วนใหญ่มุ่งทำงานประจำ ไม่ได้คิดนอกกรอบ ตนจึงมาช่วยคิดงาน และให้ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่
