รัฐประหารเสียของ?? ชะตา “ตู่” อยู่ในมือ “ป้อม”

ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - แม้จะโดน “ขั้วตรงข้าม” ใช้การเมืองระหว่างประเทศยืมมือ “พี่บึ้ม” อย่าง “สหรัฐอเมริกา” มาเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนฟ้องโลกว่า “ประเทศไทย” ในยามนี้ไม่เป็น “ประชาธิปไตย” แถมยังพ่วงข้อหาว่า “รัฐบาลบิ๊กตู่” ตามไล่ล่าคนในตระกูล “ชินวัตร” ให้หมดไปจากสาระบบการเมืองไทย จนทำให้ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ต้องออกมาแสดงความไม่พอใจ

แต่ฟันธงได้เลยว่าปัจจัยภายนอกประเทศไม่มีทางที่จะทำให้ “รัฐบาลบิ๊กตู่” สะดุดหกล้มได้ เพราะรู้กันดีว่าความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐ ไม่ได้ดีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

ทว่ากลับเป็นปัจจัยภายในประเทศมากกว่าที่ทำให้ “รัฐบาลบิ๊กตู่” ต้องประสบกับมณทินติดตัว เป็นจุด่างพล่อยที่ทำให้ “อริศัตรู” สามารถนำมาหยิบยกเป็นประเด็นโจมตีได้ตลอดเวลา และเป็นประเด็นที่ “บาดลึก” นำไปสู่แผลเหวอะหวะได้

เพราะอย่าลืมว่าคอนเนคชั่นจาก “ภาคธุรกิจ” ที่ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีอยู่อาจจะเป็นตัวแปรให้ “รัฐบาลบิ๊กตู่” ติดมลทิน-ติดภาพทุจริตได้

ที่ผ่านมา “บิ๊กป้อม” พยายามผลักดันให้คนในเครือข่ายของตัวเอง เข้าไปดำรงตำแหน่ง “ข้าราชการการเมือง” ในกระทรวงต่างๆเยอะแยะมากมาย หลายคนที่ “พี่ป้อม” ผันตัวเป็น “ป๋าดัน” ให้นั่งคุม “กรม-กอง” ได้สำเร็จ แต่มี “บางคน” ที่ “ป๋าป้อม” ดันยังไงก็ไม่ถึงฝั่งฝัน เพราะมีชนักติดหลังปักไว้โจ้งครึ้ม เรียกได้ว่าถ้าฝืนแต่งตั้งไปมีหวัง “ล้ม” กันทั้งกระดาน

โดยเฉพาะชื่อของ “น้องตี๊น - จิตภัสร์ กฤดากร” ดาวเด่นคนงามของหมู่มวลมหามิตร กปปส.ที่ยืนอยู่แนวหน้าเมื่อครั้งขับไล่ “รัฐบาลปูแดง”

ก่อนหน้านี้ชื่อ “น้องตั๊น” ถูก “บิ๊กป้อม” ทำตัวเป็นเสือซุ่มยัดใส่ในวาระ ครม. เพื่อให้ “บิ๊กตู่” ลงนามแต่งตั้ง แต่เคราะห์ที่ “บิ๊กตู่” ไหวตัวทันชิงจังหวะถอดวาระ ครม.ออกมาก่อน จึงไม่มีการพิจารณาชื่อ “น้องตั๊น” ให้ดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตามที่ “พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์” วางแผนเอาไว้

จนเป็นเหตุให้เกิดวิวาทะที่นายพลผู้น้องสวนคนเป็นพี่กลับไปว่า “พี่จะให้ผมเซ็นต์ทุกเรื่องที่พี่เสนอมาเลยหรือ” จน “บิ๊กป้อม” ต้องแอบบ่นน้อยใจว่า “นี่กูพี่มึงนะ”

แต่ไม่รู้ “บิ๊กป้อม” ไปซัดดีหมีมาจากไหนถึงไม่ละความพยายามที่จะผลักดัน “น้องตั๊น” รับตำแหน่งในรัฐบาลให้ได้ จึงต้องเดือดร้อน “บิ๊กหนุ่ย - พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ต้องรับ “เผือกร้อน” แทน

โดย “บิ๊กหนุ่ย” ยอมรับคำสั่ง “บิ๊กป้อม” ด้วยการแต่งตั้งให้ “น้องตั๊น” รับตำแหน่งคณะทำงานของกระทรวงทรัพย์ฯ แต่บังเอิญเรื่องแดงออกมาเสียก่อน เพราะมี “มือดี” นำคำสั่งแต่งตั้งออกมาปล่อยในโลกออนไลน์ ทำให้ชื่อของ “น้องตั๊น” ต้องโดนเด้งออกจากคณะทำงานกระทรวงทรัพย์ฯ ฝันสลายรอบที่สอง

ว่ากันว่ามี “บางคน” ใน “กองทัพ” หมั่นไส้ “น้องตั๊น” จึงแกล้งปล่อยเอกสารออกมาเอง โดยอ้างว่าต้องการป้องกันไม่ให้ “รัฐบาลบิ๊กตู่” ติดมลทิน

แต่บางกระแสก็บอกว่า “ผู้มีอำนาจสูงสุด” กระซิบบอกให้ “บิ๊กหนุ่ย” ปล่อยเอกสารด้วยตัวเอง เพื่อไม่ให้ถูกมองในแง่ลบภายหลัง คำให้การระหว่าง “ดาว์พงษ์” ที่บอกว่าตั้ง “น้องตั๊น” จริง แต่ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว กับคำให้การของ “บิ๊กตู่” ที่บอกว่าไม่มีคำสั่งแต่งตั้ง ออกมาคนละทิศทาง เหมือนกำลังเล่นเกม “สองหน้า” กันอยู่

จากนี้ยังต้องจับกันอีกหลายยกว่าคำสั่งแต่งตั้ง “น้องตั๊น” จะถูก “ผู้มากบารมี” จับยัดใส้ไปใส่ไว้ในกระทรวงใด แต่ที่รู้ๆ “เจ้ากระทรวง” คงไม่มีใครอยากต้อนรับ “คนสวย” มากสักเท่าไร เพราะกลัวมีมลทินติดตัว

ซึ่งหาก “บิ๊กป้อม” แน่จริง-กล้าจริง ควรใส่ชื่อ “น้องตั๊น” มารับตำแหน่งในกระทรวงกลาโหมเลยดีกว่า เพราะจะได้ไม่เดือดร้อนน้องๆ

ถัดมาก็เป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนที่ “บิ๊กป้อม” เข้านั่งเป็นประธานคณะกรรมการพืชผลทางเกษตกรหลายชุด ก็ยิ่งมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างออกมาเป็นระยะ อย่างล่าสุดคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ที่มีมติชงให้ ครม.อนุมัติซื้อ “ปาล์มน้ำมัน” จากต่างประเทศวงเงิน 1,500 ล้านบาท ถูกมองว่ามีนอก-มีใน กับ “ผู้มากบารมีจากแดนใต้”

ลองคิดว่าราคา “ปาล์มน้ำมัน” ก่อนนำเข้าอยู่ที่ 5-6 บาทต่อกิโลกรัม หากเป็นรัฐบาลชุดอื่น หลังนำเข้าราคา “ปาล์มน้ำมัน” จะตกลงทันที่ ซึ่งอาจจะอยู่ที่ 3-4 บาทต่อกิโลกรัม แต่ “รัฐบาลบิ๊กตู่” พร้อมอุดหนุนราคาให้ไม่ต่ำกว่า 5 บาทต่อกิโลกรัม ผลกระทบที่ส่งตรงไปยังเกษตรกรจึงมีน้อย แรงต้านที่ออกมาจึงมีน้อยตามไปด้วย

และหากมีแรงต้านจาก “เกษตกรรากหญ้า” ก็คงไม่มีพลังมาเพียงพอที่จะทำให้ “รัฐบาลบิ๊กตู่” เดือดร้อนหรือสั่นสะเทือนได้ เพราะฝีมือระดับ “แกนนำ กปปส.” การันตีได้เลยว่าในพื้นที่ไม่ขยับแน่นอน นอกจากนี้ราคา “ยาง” ที่ตกต่ำมากเป็นพิเศษ ว่ากันว่าหากเป็น “รัฐบาลปูแดง” คงโดนไล่กันไปแล้ว แต่ “รัฐบาลบิ๊กตู่” โชคดีที่มี “พระ (สุเทพ)” คอยคุ้ม

ล่าสุด “พระสุเทพ” ออกมาให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ฟ้าวันใหม่ว่า “ขอให้พี่น้องชาวสวนยางเข้าใจการทำงานของรัฐบาล ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะช่วยให้ราคายางไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 80 บาท” แค่ “พระสุเทพ” ออกแรงพูดแค่นี้ “รัฐบาลบิ๊กตู่” ก็อุ่นใจได้แล้ว

แต่ที่ควรระวังไว้อีกอย่างคือ การระบาย “สต๊อคข้าว” ของกระทรวงพาณิชย์ที่มี “บิ๊กนมชง - พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ” สายตรงของ “พี่ป้อม” นั่งคุมกระทรวงพาณิชย์อยู่ ข่าวแว่วมาว่า มีการระบายข้าวใน “สต๊อกรัฐบาล” ออกไปหลายล็อตแล้ว แต่ไม่มีตัวเลขแจ้งให้ “สื่อมวลชน” ได้รับทราบ เหมือนทำกันเงียบๆ รู้กันเฉพาะคนในรัฐบาล ส่วนข้าวที่ขายไปมีบางส่วนถูกยกจำนวนแทงเป็นข้าวเสียไปแบบมีเงื่อนงำ

และลือหนักอีกว่าขุมข่ายธุรกิจของ “บิ๊กป้อม” เข้าไปมีส่วนในการช่วยระบายข้าวอีกตามเคย!!!

อย่าลืมว่า “เกษตรกรปลูกข้าว” เป็นฐานเสียงหลักของ “พรรคเพื่อไทย” หาก “รัฐบาลบิ๊กตู่” เดินหมากพลาด มีการทุจริตเมื่อไร มีหวังต้องล้มหมอนนอนเสื่อกันเลย เพราะ “เด็กแม้ว” รอขย่มไม่ให้เหลือซากอยู่แล้ว

ดังนั้นอันตรายของ “รัฐบาลบิ๊กตู่” ไม่ได้อยู่ที่ความเคลื่อนไหว-เสียงต่อต้านของ “คนเสื้อแดง-พรรคเพื่อไทย-สหรัฐอเมริกา” แต่อยู่ที่ตัวของ “บิ๊กป้อม” และเครือข่ายมากมาย

หากรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 จะ “เสียของ” ในที่สุด คนที่ถูกด่ามากที่สุดหนีไม่พ้น “บิ๊กตู่” แต่คนที่จะอิ่มท้องมากที่สุดหนีไม่พ้น “บิ๊กป้อม” มากที่สุดเช่นกัน