"ประยุทธ์" เผย เกษตรขอ 3 พันล. แก้ภัยแล้งซ้ำซาก มอบ มท.-เกษตร จัดแผน ผู้ว่าฯรับผิดชอบ ย้ำ พ.ร.บ.ไซเบอร์ ไม่ล้วงตับปชช. ทำเพื่อให้ทันสมัยรับการค้า แจง ย้ายผู้ว่าฯนอกฤดูไม่มีเรื่องไม่ย้าย ยัน ไม่ตั้ง "ตั๊น" ร่วมทีม "ดาว์พงษ์" อย่าเชื่อเอกสารเขียนส่งเดช ชี้ นี้คือ เฮดสปีด
วันนี้ (27ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงการพิจารณาแก้ไขปัญหาภัยแล้งว่า กระทรวงเกษตรได้ขออนุมัติงบประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาได้แก้ปัญหาเรื่องการเกษตรไปหลายอย่างหลายมาตรการ ทั้งยางและข้าว บรรเทาความเดือดร้อน สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้เงินกองทุนไร่ละ 1,000 บาท ชะลอการชำระหนี้ ให้เงินกู้ แต่วันนี้ยังเป็นปัญหาอยู่นี่คือสิ่งที่เราจำเป็นต้องดูแลพี่น้องเกษตรกร แต่จะให้ทั่วถึงและทุกคนพอใจคงยาก เพราะใช้เงินจำนวนสูงมาก และบ้านเรามีหลายส่วนด้วยกัน ทั้งนี้ห้วงปลายปีที่ผ่านมาเราได้ให้เงินไปก้อนหนึ่งสำหรับดูแลในพื้นที่ที่ห้ามทำนาปรัง และวันนี้ที่ขอมาให้ในพื้นที่ที่เกิดภัยแล้งซ้ำซากทำนาไม่ได้เลยซึ่งมีอยู่หลายพื้นที่ จะเห็นว่าเป็นการทยอยให้ทีละพวก ถือว่าใช้เงินไปจำนวนมาก โดยได้มอบให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะไปร่วมกันจัดทำแผนงาน และขออนุมัติต่อไป โดยผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องเป็นคนรับผิดชอบ
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงร่างพ.ร.บ.ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ที่ผ่านมติครม.จะมีผลรวมไปถึงการควบคุมการดูหมิ่นด้านศาสนาอย่างที่เกิดขึ้นกับสำนักพิมพ์ชาลี เอบโดของฝรั่งเศสว่า ร่างพ.ร.บ.ไซเบอร์ ยังไม่ออกเป็นกฎหมาย ที่มีการเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไปนั้นเป็นร่างคร่าวๆ ไปก่อนว่าควรจะมีกฎหมายฉบับนี้ ประกอบกับกฎหมายอื่นที่ออกไปแล้ว ในการจะปรับเป็นดิจิตอล อีโคโนมี โดยจะต้องมีการแปรญัติในชั้นกรรมาธิการ จะเห็นด้วยหรือไม่อย่างไรต้องไปปรับแก้ตรงนั้น สิ่งสำคัญที่ส่งไปถึงสนช.เร็วก็เพื่อให้คนที่รู้ได้พิจารณา และนำคนในแวดวงที่เกี่ยวข้องมาสอบถาม ส่วนข้อกังวลว่ารัฐบาลจะเข้าไปล้วงตับประชาชนอย่างที่สื่อเขียนนั้นจะไปล้วงได้อย่างไร ถ้าไม่มีปัญหาก็ไปล้วงไม่ได้ การจะเข้าไปถึงข้อมูลส่วนบุคคลต้องมีเหตุผล เพราะเป็นการผิดกฎหมาย และละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่อย่านำกฎหมายอย่างหนึ่งไปตีอีกอย่างหนึ่ง การจะไปกล่าวพาดพิงใครโดยไม่ถูกต้องด้วยหลักการจะทำไม่ได้ บางเรื่องไม่ต้องทำเป็นกฎหมายเพราะมันทำไม่ได้ เช่นเดียวกับกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่มีไว้เพื่อปกป้องสถาบันซึ่งฟ้องร้องเองไม่ได้ ประเทศเรามีประเทศอื่นไม่มีทำให้ไม่เข้าใจเรา และจะให้มาเขียนกฎหมายอย่างเราเขาก็คงคิดไม่ถึงว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ถือเป็นบทเรียนว่าเราจะป้องกันอย่างไร ที่สำคัญคือต้องสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันว่า เป็นคนละประเด็น แต่แน่นอนว่าต้องมีสาเหตุการออกมาใช้กำลังการต่อสู้ ฆ่าคน ก่อการร้าย บานปลายพันกันไปหมด เราต้องแกะกันให้ออก และอย่าเอาประเทศไทยไปยุ่งเกี่ยวเพราะเราไม่มีปัญหาเช่นนั้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เราออกกฎหมายเพื่อให้เกิดความทันสมัยเพื่อให้เกิดการค้าขายการลงทุนที่ต้องแก้ทั้งหมด อย่างพ.ร.บ.หลายฉบับที่ไม่มีความทันสมัย ขอให้ทำความเข้าใจว่าแม้จะผ่านครม.แต่ยังไม่ผ่านในชั้นกรรมาธิการของสนช. 3 วาระ และประกาศใช้จะยังไม่มีผลใดๆทั้งสิ้น ซึ่งสามารถปรับแก้ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายยา ภาษีมรดก หรือสาธารณสุข จะออกมาอย่างนั้นหรือไม่ก็ยังไม่รู้เพราะกรรมาธิการต้องเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลประกอบการพิจารณา ถ้าไม่ใช่ก็ปรับแก้ แต่ที่ครม.ต้องเร่งพิจารณาเพราะมีเวลาจำกัด และกฎหมายมีหลายร้อยฉบับอะไรที่ผ่านได้ต้องผ่านไปก่อนแล้วไปพิจารณาในชั้นกรรมาธิการจะได้ไม่เกิดความรีบร้อน บางเรื่องเสนอเข้าไปตั้งแต่คสช.เริ่มมาบริหารประเทศตอนนี้ยังไม่ออกมาเลยก็มี
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่ครม.มีมติโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทยระดับผวจ. (ซี10) นอกฤดูกาลจำนวน 10 ตำแหน่งว่า เป็นไปตามความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ ตนได้บอกในที่ประชุมครม.ว่า ถ้าทุกกระทรวงมีปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่ก็สามารถย้ายได้หมดตนย้ายให้อยู่แล้ว และต้องไปดูว่ามีใครผิดถูกตรงไหน ตนถือว่าเป็นการโยกย้ายด้วยหน้าที่ที่มีอยู่ด้วยความถูกต้อง ถ้าไม่มีเรื่องก็ไม่ย้ายแค่นั้นเอง ไม่มีความผิดก็ไม่มีคดี อย่าไปมองว่าเป็นการรังแก วันนี้ตนรังแกใครไม่ได้ ย้ายให้ทุกคนมีโอกาสในการทำงานให้ทุกคนกระตือรือร้น และต้องมีการสอบโดยคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคสช.ร่วมกับคณะของรัฐบาล ไปไล่จี้ในพื้นที่ด้วยกันว่ามีงบประมาณแผนงานอย่างไรตรงกับประชาชนหรือไม่ เบิกจ่าย มีเกียร์ว่างหรือไม่ ทุจริตตรงไหน ตนทำถึงขนาดนี้ถามว่ารัฐบาลอื่นเขาทำไหม ถ้าทำกันคงไม่มีคดีจนถึงวันนี้ ซึ่งเราต้องมีการสอบกันอีกหลายเรื่อง อย่างเรื่องของสหกรณ์เยอะแยะไปหมด แล้วมาจะว่าตนไม่ทำได้อย่างไร เคลียร์ของเก่าก็จะตายอยู่แล้ว ใครผิดใครถูก คนไม่ผิดมีเยอะแยะ คนผิดก็มี ต้องมีการทำให้เห็นชัดเจน ที่ตนพูดคือบรรทัดฐานว่า ต่อไปนี้ต้องบริหารราชการด้วยความโปร่งใสไม่มีผลประโยชน์ส่อไปในทางทุจริต ถ้าทุกคนคิดว่าจะทำอะไรก็ได้ เลือกตั้งมาแล้วต้องให้เขามันเป็นบรรทัดฐานหรืออย่างไร วันหน้าก็อย่าให้เกิดตนจะได้ไม่ต้องมาอีก แต่ก็ไม่มาอยู่แล้ว เบื่อหน้าตัวเอง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวแต่งตั้งน.ส.จิตภัสร์ กฤดากร แกนนำกปปส. เป็นคณะทำงานของพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่า ไม่มี ตนไปถามมาแล้วว่าไม่มี อย่าไปเชื่อเอกสารที่ปรากฏบางอันก็เขียนส่งเดช ไปเรื่อยเปื่อย เพราะยังเคยสะกดชื่อตนผิดมาแล้วจะปลอมแปลงอะไรก็ให้ถูก ซึ่งแบบนี้เขาเรียกว่า “เฮดสปีด” เขียนกันไปข้อเท็จจริงก็ไม่ใช่จริงบ้างไม่จริงบ้าง คนพวกนี้ก็ร้อนใจ ขอยกตัวอย่างที่มีการดูถูกสนช.ว่าไม่ถอดถอนอดีตนายกฯทุกวันนี้มีใครรับผิดชอบไหม วิเคราะห์กันว่าจะไม่ถอดถอนตนจะไปคุมอะไรได้ถอดไม่ถอดก็เรื่องของสนช.และเรื่องเกาะเต่าทำไมถึงเงียบโจมตีตำรวจทหารกันเละเทะมันไปไหนกันหมด ทุกอย่างต้องเป็นไปอย่างพอสมควร มีการขุดคุ้ยก็เข้าสู่กระบวนการ ตนก็จะรับมาสั่งทุกเรื่อง และจะไปทำงานตรวบสอบกัน อย่าเพิ่งมาไล่พวกตนเลยเพิ่งเข้ามาได้ 7-8 เดือน แต่ที่บริหารประเทศมากี่สิบปีไม่ไปดูเขาบ้าง โดยเราจะเคลียร์ตรงนี้ให้เรียบร้อย