"หนุ่มตรัง"บุกเดี่ยวด่า"ประยุทธ์" ฟังแต่นักธุรกิจค้ายาง ขอเวทีคุยโดยตรง-เงินถึงมือชาวสวน ด้านแกนนำเครือข่ายภาคใต้ยันไม่มีประท้วง แค่จัดเวทีร่วม 5 จังหวัดภาคตะวันออก ระดมความเห็นแก้ปัญหาเกษตรกรตัวจริง-ลูกจ้างกรีดยาง ไม่สนองตอบจะหาวิธีอื่น แต่ไม่เคลื่อนไหวกดดันแน่ ด้านผู้ว่าฯตรังสนับสนุน ไม่สั่งห้ามแกนนำเข้าร่วม แต่ต้องไม่มีชุมนุม ฝ่าฝืนดำเนินคดีทันที
เมื่อเวลา 15.45 น. วานนี้ (29 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทันทีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เคลื่อนขบวนออกจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปรากฏว่าที่เต็นท์ที่พักสื่อมวลชนภายในกระทรวง นายสิงห์สยาม มุกดา ชาวจ.ตรัง อ้างเป็นตัวแทนเครือข่ายพิทักษ์ชาวสวนยางภาคใต้ นำป้ายมาขึงพร้อมปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียง โจมตีพล.อ.ประยุทธ์เรื่องการแก้ปัญหายางพาราตกต่ำ โดยระบุว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ฟังเกษตรกร ฟังแต่นักธุรกิจ ขอให้เปิดเวทีคุยกับชาวสวนโดยตรง ไม่ใช่ฟังแต่จากรายงาน
"ราคาไม่ต้องถึงกิโลกรัมละ 80 บาทก็ได้ แค่ 60-70 บาทก็พอรับได้ แต่ขอให้เงินถึงชาวสวนตัวจริง ไม่ถูกแทรกแซงระหว่างทาง หากรัฐบาลยังแก้ไขไม่ได้ คนใต้พร้อมจะรวมตัวยกระดับออกมาขับไล่คสช."
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่กระทรวงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เข้ามาปลดป้าย ห้ามปราม และเชิญให้นายสิงห์สยามออกไปพูดต่อด้านนอกกระทรวง ขณะที่นายสิงห์สยามขัดขืน โวยวายว่าเจ้าหน้าที่จะเข้ามาทำร้าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลาพูดคุยประมาณ10 นาทีเหตุการณ์จึงสงบ
นายประทบ สุขสนาน คณะกรรมการเครือข่ายชาวสวนยางพาราภาคใต้ เขต 3 ประธานเครือข่ายชาวสวนยางพาราจังหวัดตรัง นายถนอมเกียรติ ยิ่งฉ้วน ประธานผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรอุตสาหกรรมตรัง และสมบูรณ์ ทองแย้ม กรรมการเครือข่ายชาวสวนยางพาราจังหวัดตรัง ร่วมกันแถลงว่า วันที่ 30 ม.ค. จะไม่มีการนัดชุมนุมประท้วงที่ อ.สิเกา ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ เพราะเครือข่ายจังหวัดตรัง จะจัดประชุมเครือข่าย 14 จังหวัดภาคใต้ และ 5 จังหวัดภาคตะวันออก เพื่อระดมความคิดเห็นหาแนวทางแก้ปัญหาของชาวสวนยางตัวจริง คือ ชาวสวนรายย่อย และลูกจ้างกรีดยาง ที่ปัจจุบันยังไม่ได้รับการดูแลจากรัฐบาลตามนโยบายการแก้ปัญหาที่ออกมาทุกนโยบาย
โดยประเด็นที่ต้องหารือกัน คือ ราคาน้ำยางที่ชาวสวนตัวจริงขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 35-36 บาท ต้องให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการช่วยเหลือทันที เพื่อลดความเหลื่อมล้ำระหว่างราคาน้ำยางสด ที่รับซื้อผ่านสหกรณ์การเกษตร กับราคา ณ จุดรับซื้อในตำบล หมู่บ้านที่รายย่อยกำลังพึ่งพาอยู่ ให้ได้ราคาที่พอใจ
ทั้งนี้ หลังระดมความคิดเห็นแล้วจะนำเสนอผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด หากไม่ได้รับการสนองตอบจากรัฐบาล จะหาวิธีการต่อไป แต่จะไม่เคลื่อนไหวกดดันแน่นอน ขอยืนยันว่าชาวสวนยางตรังจะไม่เป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลเด็ดขาด ส่วนกระแสข่าวการนัดชุมนุมประท้วงนั้น ไม่ได้ออกไปจากทีมเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางตรัง แต่ไม่อยากพูดถึงเบื้องลึก เพราะไม่ต้องการทำลายบรรยากาศการหาทางแก้ปัญหาให้เกษตรกร ส่วนการประชุมได้ประสานหน่วยงานความมั่นคงแล้วว่าจุดยืนของเครือข่ายเป็นแบบนี้ ถ้ามีความเคลื่อนไหวนอกเหนือจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการได้ทันที และขณะนี้ยังไม่มีกระแสข่าวมือที่ 3 ที่อาจสร้างสถานการณ์แต่อย่างใด
นายสมศักดิ์ ปริสุทโธเหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า ตรังถือว่าเป็นเมืองศูนย์กลางยางพารา การที่เครือข่ายชาวสวนยางพาราทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ จะประชุมที่โรงแรมวัฒนา พาร์ค วันที่ 30 ม.ค. เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือพี่น้องเชาวสวนยาง รวมร่างพ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. ... เพื่อหาข้อสรุปนำเสนอรัฐบาลแก้ปัญหา เพื่อให้กับเกษตรกรรายย่อยได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึงถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพื่อจะได้ทราบถึงปัญหาทั้งระบบ และนำไปสู่การวางแผนแก้ปัญหาที่ตรงจุด
"จังหวัดพร้อมที่จะให้การสนับสนุน และคิดว่าการคงเป็นเรื่องการประชุมอย่างเดียว เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับร่างพ.ร.บ. โดยจังหวัดจะจัดเจ้าหน้าที่จากกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง และสหกรณ์การเกษตรไปร่วมรับฟังด้วย ส่วนที่มีข่าวว่ามีคำสั่งห้ามแกนนำบางคนร่วมประชุมนั้นไม่จริง ผมไม่มีอำนาจขนาดนั้น ทุกคนร่วมประชุมได้แบบสันติ"
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนการชุมนุมประท้วงหรือเคลื่อนไหวนอกกรอบนั้นทำไม่ได้อยู่แล้ว เพราะประกาศของคสช.ยังมีผลบังคับอยู่ แต่หากไม่มีเหตุรุนแรงก็อะลุ่มอล่วยได้ แต่หากไม่เป็นเช่นนั้นก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย และขอเตือนแกนนำว่าทำอะไรอย่าให้ขัดคำสั่งคสช. ซึ่งคิดว่าทุกคนคงเข้าใจดี
เมื่อเวลา 15.45 น. วานนี้ (29 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทันทีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เคลื่อนขบวนออกจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปรากฏว่าที่เต็นท์ที่พักสื่อมวลชนภายในกระทรวง นายสิงห์สยาม มุกดา ชาวจ.ตรัง อ้างเป็นตัวแทนเครือข่ายพิทักษ์ชาวสวนยางภาคใต้ นำป้ายมาขึงพร้อมปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียง โจมตีพล.อ.ประยุทธ์เรื่องการแก้ปัญหายางพาราตกต่ำ โดยระบุว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ฟังเกษตรกร ฟังแต่นักธุรกิจ ขอให้เปิดเวทีคุยกับชาวสวนโดยตรง ไม่ใช่ฟังแต่จากรายงาน
"ราคาไม่ต้องถึงกิโลกรัมละ 80 บาทก็ได้ แค่ 60-70 บาทก็พอรับได้ แต่ขอให้เงินถึงชาวสวนตัวจริง ไม่ถูกแทรกแซงระหว่างทาง หากรัฐบาลยังแก้ไขไม่ได้ คนใต้พร้อมจะรวมตัวยกระดับออกมาขับไล่คสช."
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่กระทรวงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เข้ามาปลดป้าย ห้ามปราม และเชิญให้นายสิงห์สยามออกไปพูดต่อด้านนอกกระทรวง ขณะที่นายสิงห์สยามขัดขืน โวยวายว่าเจ้าหน้าที่จะเข้ามาทำร้าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลาพูดคุยประมาณ10 นาทีเหตุการณ์จึงสงบ
นายประทบ สุขสนาน คณะกรรมการเครือข่ายชาวสวนยางพาราภาคใต้ เขต 3 ประธานเครือข่ายชาวสวนยางพาราจังหวัดตรัง นายถนอมเกียรติ ยิ่งฉ้วน ประธานผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรอุตสาหกรรมตรัง และสมบูรณ์ ทองแย้ม กรรมการเครือข่ายชาวสวนยางพาราจังหวัดตรัง ร่วมกันแถลงว่า วันที่ 30 ม.ค. จะไม่มีการนัดชุมนุมประท้วงที่ อ.สิเกา ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ เพราะเครือข่ายจังหวัดตรัง จะจัดประชุมเครือข่าย 14 จังหวัดภาคใต้ และ 5 จังหวัดภาคตะวันออก เพื่อระดมความคิดเห็นหาแนวทางแก้ปัญหาของชาวสวนยางตัวจริง คือ ชาวสวนรายย่อย และลูกจ้างกรีดยาง ที่ปัจจุบันยังไม่ได้รับการดูแลจากรัฐบาลตามนโยบายการแก้ปัญหาที่ออกมาทุกนโยบาย
โดยประเด็นที่ต้องหารือกัน คือ ราคาน้ำยางที่ชาวสวนตัวจริงขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 35-36 บาท ต้องให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการช่วยเหลือทันที เพื่อลดความเหลื่อมล้ำระหว่างราคาน้ำยางสด ที่รับซื้อผ่านสหกรณ์การเกษตร กับราคา ณ จุดรับซื้อในตำบล หมู่บ้านที่รายย่อยกำลังพึ่งพาอยู่ ให้ได้ราคาที่พอใจ
ทั้งนี้ หลังระดมความคิดเห็นแล้วจะนำเสนอผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด หากไม่ได้รับการสนองตอบจากรัฐบาล จะหาวิธีการต่อไป แต่จะไม่เคลื่อนไหวกดดันแน่นอน ขอยืนยันว่าชาวสวนยางตรังจะไม่เป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลเด็ดขาด ส่วนกระแสข่าวการนัดชุมนุมประท้วงนั้น ไม่ได้ออกไปจากทีมเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางตรัง แต่ไม่อยากพูดถึงเบื้องลึก เพราะไม่ต้องการทำลายบรรยากาศการหาทางแก้ปัญหาให้เกษตรกร ส่วนการประชุมได้ประสานหน่วยงานความมั่นคงแล้วว่าจุดยืนของเครือข่ายเป็นแบบนี้ ถ้ามีความเคลื่อนไหวนอกเหนือจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการได้ทันที และขณะนี้ยังไม่มีกระแสข่าวมือที่ 3 ที่อาจสร้างสถานการณ์แต่อย่างใด
นายสมศักดิ์ ปริสุทโธเหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า ตรังถือว่าเป็นเมืองศูนย์กลางยางพารา การที่เครือข่ายชาวสวนยางพาราทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ จะประชุมที่โรงแรมวัฒนา พาร์ค วันที่ 30 ม.ค. เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือพี่น้องเชาวสวนยาง รวมร่างพ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. ... เพื่อหาข้อสรุปนำเสนอรัฐบาลแก้ปัญหา เพื่อให้กับเกษตรกรรายย่อยได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึงถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพื่อจะได้ทราบถึงปัญหาทั้งระบบ และนำไปสู่การวางแผนแก้ปัญหาที่ตรงจุด
"จังหวัดพร้อมที่จะให้การสนับสนุน และคิดว่าการคงเป็นเรื่องการประชุมอย่างเดียว เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับร่างพ.ร.บ. โดยจังหวัดจะจัดเจ้าหน้าที่จากกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง และสหกรณ์การเกษตรไปร่วมรับฟังด้วย ส่วนที่มีข่าวว่ามีคำสั่งห้ามแกนนำบางคนร่วมประชุมนั้นไม่จริง ผมไม่มีอำนาจขนาดนั้น ทุกคนร่วมประชุมได้แบบสันติ"
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนการชุมนุมประท้วงหรือเคลื่อนไหวนอกกรอบนั้นทำไม่ได้อยู่แล้ว เพราะประกาศของคสช.ยังมีผลบังคับอยู่ แต่หากไม่มีเหตุรุนแรงก็อะลุ่มอล่วยได้ แต่หากไม่เป็นเช่นนั้นก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย และขอเตือนแกนนำว่าทำอะไรอย่าให้ขัดคำสั่งคสช. ซึ่งคิดว่าทุกคนคงเข้าใจดี