ASTVผู้จัดการรายวัน - ม็อบสวนยาง 16 จังหวัดใต้นัดชุมนุมใหญ่ 30 ม.ค.ที่จ.ตรัง คาดไม่ต่ำกว่า 5,000 คน จี้ คสช.แก้ราคายางตกต่ำ หลังนายทุนกดหัวซื้อน้ำยางสดแค่โลละ 38-39 บาท ลั่นต้องให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจเท่านั้นมารับข้อเสนอ "บิ๊กป้อม" คุยดันราคายาง 80 บาทได้แน่ ด้านชาวสวน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เจอเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ยืนต้นตายยกสวน คาดโรคราขาวระบาด วอนรัฐเร่งช่วยด่วน
วานนี้ (27 ม.ค.) นายศักดิ์สฤษดิ์ ศรีประศาสตร์ แกนนำเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพารารายย่อยภาคใต้ 16 จังหวัด เปิดเผยว่า หลังจากได้ต่อรองกับรัฐบาล ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงสร้างความสุข เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงขอเลื่อนการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ซึ่งชาวสวนยางภาคใต้ได้เดือดร้อนแสนสาหัสมาจนถึงทุกวันนี้ แต่รัฐบาลไม่ได้ใยดีต่อความอดทนของชาวสวนยาง ทางเครือข่ายจึงมีมติจะชุมนุมใหญ่วันที่ 30 มกราคมนี้แน่นอน
โดยครั้งนี้จะใช้พื้นที่บริเวณปั๊มน้ำมันบางจาก ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างจ.ตรัง กระบี่ และนครศรีธรรมราช คาดว่าจะมีแกนนำชาวสวนยางที่เคยชุมนุมปิดถนนที่ควนหนองหงส์ จ.นครศรีธรรมราช แยกเขากอบ จ.ตรัง หรือจุดอื่นๆ รวมทั้งชาวสวนยางที่ได้รับความเดือดร้อน ร่วมชุมนุมใหญ่ไม่ต่ำกว่า 5,000 คน
"ขณะนี้ทางเครือข่ายอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล เพื่อเรียกร้องต่อรัฐบาลให้ช่วยเหลือชาวสวนยาง และต้องให้ผู้ที่มีอำนาจในรัฐบาลเท่านั้น มาเป็นผู้รับข้อเสนอของเกษตรกร”
นายศักดิ์สฤษดิ์ กล่าวว่า ส่วนการที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกมาบอกว่าราคายางจะพุ่งสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 80 บาท คงเป็นไปได้เฉพาะยางแผ่นรมควันเท่านั้น แต่เครือข่ายต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือชาวสวนที่ขายน้ำยางสดมากกว่า เพราะปัจจุบันมีผู้ที่นำน้ำยางสดมาผลิตเป็นยางแผ่นประมาณ 10 % แต่การขายในรูปแบบน้ำยางสดก็ถูกนายทุนเอาเปรียบอย่างมาก โดยกดราคารับซื้อที่กิโลกรัมละ 38-39 บาทเท่านั้น แต่เมื่อผลิตเป็นยางแผ่นแล้วจะได้กิโลกรัมละ 60-62 บาท ถือว่าราคาแตกต่างกันมาก
"ดังนั้นพล.อ.ประวิตร จึงควรช่วยผลักดันให้ราคาน้ำยางสดอยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาท จึงจะทำให้ทางเครือข่ายยอมรับได้ว่า รัฐบาลชุดนี้มีความจริงใจที่จะช่วยเหลือชาวสวนยางจริงๆ"
ด้านพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้แก้ปัญหาราคายางตกต่ำไปแล้ว โดยผลักดันให้อยู่ในระดับ 80 บาทต่อกิโลกรัม จึงขอให้ชาวสวนยางอดทน เพราะรัฐบาลนี้มุ่งแก้ปัญหาเกษตรกรทุกด้าน
ข่าวแจ้งว่า ขณะที่ชาวสวนยางประสบปัญหาราคาตกต่ำ ที่จ.พังงา ชาสวสวนยางยังประสบปัญหายางยืนต้นตาย โดยนายบรรพต แซ่หลิ่ม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า กล่าวว่า ขณะนี้ชาวสวนยางพาราได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่้องจากยางทยอยยืนต้นตายจำนวนมาก โดยเริ่มจากใบเหลือง จากนั้นหลุดร่วงจนหมดต้นแล้วแห้งตาย เหมือนกับยางเป็นโรคราขาว ขณะที่ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาช่วยเหลือ มีแต่ให้คู่มือบำรุงรักษา ให้ปุ๋ย ให้ยาให้ชาวสวนดูแลกันเอง แทนที่จะมาดูว่าสาเหตุเกิดจากอะไร จนต้องปล่อยให้สวนยางรกร้าง เพราะไม่มีเงินซื้อกล้ายางปลูกใหม่ เนื่องจากราคายางตกต่ำ อยากฝากเกษตรอำเภอตะกั่วป่า และกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง ให้ลงพื้นที่มาช่วยชาวสวนยางด้วย.
วานนี้ (27 ม.ค.) นายศักดิ์สฤษดิ์ ศรีประศาสตร์ แกนนำเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพารารายย่อยภาคใต้ 16 จังหวัด เปิดเผยว่า หลังจากได้ต่อรองกับรัฐบาล ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงสร้างความสุข เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงขอเลื่อนการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ซึ่งชาวสวนยางภาคใต้ได้เดือดร้อนแสนสาหัสมาจนถึงทุกวันนี้ แต่รัฐบาลไม่ได้ใยดีต่อความอดทนของชาวสวนยาง ทางเครือข่ายจึงมีมติจะชุมนุมใหญ่วันที่ 30 มกราคมนี้แน่นอน
โดยครั้งนี้จะใช้พื้นที่บริเวณปั๊มน้ำมันบางจาก ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างจ.ตรัง กระบี่ และนครศรีธรรมราช คาดว่าจะมีแกนนำชาวสวนยางที่เคยชุมนุมปิดถนนที่ควนหนองหงส์ จ.นครศรีธรรมราช แยกเขากอบ จ.ตรัง หรือจุดอื่นๆ รวมทั้งชาวสวนยางที่ได้รับความเดือดร้อน ร่วมชุมนุมใหญ่ไม่ต่ำกว่า 5,000 คน
"ขณะนี้ทางเครือข่ายอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล เพื่อเรียกร้องต่อรัฐบาลให้ช่วยเหลือชาวสวนยาง และต้องให้ผู้ที่มีอำนาจในรัฐบาลเท่านั้น มาเป็นผู้รับข้อเสนอของเกษตรกร”
นายศักดิ์สฤษดิ์ กล่าวว่า ส่วนการที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกมาบอกว่าราคายางจะพุ่งสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 80 บาท คงเป็นไปได้เฉพาะยางแผ่นรมควันเท่านั้น แต่เครือข่ายต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือชาวสวนที่ขายน้ำยางสดมากกว่า เพราะปัจจุบันมีผู้ที่นำน้ำยางสดมาผลิตเป็นยางแผ่นประมาณ 10 % แต่การขายในรูปแบบน้ำยางสดก็ถูกนายทุนเอาเปรียบอย่างมาก โดยกดราคารับซื้อที่กิโลกรัมละ 38-39 บาทเท่านั้น แต่เมื่อผลิตเป็นยางแผ่นแล้วจะได้กิโลกรัมละ 60-62 บาท ถือว่าราคาแตกต่างกันมาก
"ดังนั้นพล.อ.ประวิตร จึงควรช่วยผลักดันให้ราคาน้ำยางสดอยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาท จึงจะทำให้ทางเครือข่ายยอมรับได้ว่า รัฐบาลชุดนี้มีความจริงใจที่จะช่วยเหลือชาวสวนยางจริงๆ"
ด้านพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้แก้ปัญหาราคายางตกต่ำไปแล้ว โดยผลักดันให้อยู่ในระดับ 80 บาทต่อกิโลกรัม จึงขอให้ชาวสวนยางอดทน เพราะรัฐบาลนี้มุ่งแก้ปัญหาเกษตรกรทุกด้าน
ข่าวแจ้งว่า ขณะที่ชาวสวนยางประสบปัญหาราคาตกต่ำ ที่จ.พังงา ชาสวสวนยางยังประสบปัญหายางยืนต้นตาย โดยนายบรรพต แซ่หลิ่ม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า กล่าวว่า ขณะนี้ชาวสวนยางพาราได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่้องจากยางทยอยยืนต้นตายจำนวนมาก โดยเริ่มจากใบเหลือง จากนั้นหลุดร่วงจนหมดต้นแล้วแห้งตาย เหมือนกับยางเป็นโรคราขาว ขณะที่ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาช่วยเหลือ มีแต่ให้คู่มือบำรุงรักษา ให้ปุ๋ย ให้ยาให้ชาวสวนดูแลกันเอง แทนที่จะมาดูว่าสาเหตุเกิดจากอะไร จนต้องปล่อยให้สวนยางรกร้าง เพราะไม่มีเงินซื้อกล้ายางปลูกใหม่ เนื่องจากราคายางตกต่ำ อยากฝากเกษตรอำเภอตะกั่วป่า และกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง ให้ลงพื้นที่มาช่วยชาวสวนยางด้วย.