ตรัง - เกษตรกรรายใหญ่ผู้เพาะชำต้นกล้ายางพาราเมืองตรัง เผยประสบปัญหาขาดทุนย่อยยับในรอบ 5 ปี เนื่องจากราคายางพาราร่วงลงอย่างหนัก ชี้ในอดีตที่ผ่านมา เคยขายได้ถึงต้นละ 18 บาท แต่ปัจจุบันเหลือเพียงต้นละ 3 บาทเท่านั้น
วันนี้ (23 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอารมณ์ จันทรรักษ์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/1 หมู่ที่ 2 ตำบลปะเหลียน อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง เกษตรกรรายใหญ่ผู้เพาะชำต้นกล้ายางพารานับแสนต้น บนเนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ กำลังประสบปัญหาราคาต้นกล้ายางพาราตกต่ำ อันเนื่องมาจากความต้องการของเกษตรกรที่ลดลง จากเดิมที่เคยขายได้ต้นละไม่ต่ำกว่า 15-18 บาท แต่ปีนี้เหลือเพียงต้นละ 3 บาท ทำให้ต้องขาดทุนอย่างหนัก
นอกจากนั้น เกษตรกรส่วนหนึ่งยังหันไปปลูกปาล์มน้ำมันแทนยางพารา ทำให้ต้นกล้ายางพาราที่เพาะชำเอาไว้อายุกว่า 8 เดือน ยังไม่ได้รับการติดตาเพื่อทำเป็นยางตาเขียว และยางชำถุงเพราะเกษตรกรยังรอดูท่าทีความช่วยเหลือเรื่องราคายางพาราตกต่ำจากทางรัฐบาล เพราะหากมีราคาขยับขึ้นก็จะทำให้ต้นกล้ายางพาราขยับขึ้นตามไปด้วย ประกอบกับช่วงนี้ต้องประสบปัญหาขาดน้ำหวั่นทำให้ต้นกล้าเหี่ยวเฉา
นายอารมณ์ กล่าวว่า ตนเองจำเป็นต้องปล่อยให้ต้นกล้ายางพาราเติบโตต่อไปเรื่อยๆ หรือจนกว่าจะมีลูกค้ามาสั่งซื้อเพื่อนำไปปลูก โดยปีที่แล้วยังพอที่จะขายต้นกล้ายางพาราได้ในราคาต้นละ 5 บาท แต่ปีนี้ยังไม่สามารถขายต้นกล้ายางพาราได้เลย ในช่วงระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ตนเองต้องประสบต่อปัญหาขาดทุนเป็นอย่างมากในรอบ 5 ปี
