xs
xsm
sm
md
lg

ร้านค้า “ปุ๋ย-ต้นกล้า” เมืองตรังยอดขายลดฮวบ! หลังราคายางร่วงหนัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตรัง - ผู้ค้าปุ๋ย-ต้นกล้า ใน จ.ตรัง เผยยอดขายลดลงหลังราคายางตกต่ำสุดในรอบ 15 ปี ส่งผลกระทบหนักในธุรกิจจำหน่ายปุ๋ยยาง โดยเกษตรกรชาวสวนยางเริ่มหันมาปลูกปาล์มน้ำมัน ด้านร้านจำหน่ายปุ๋ยหลายรายจึงปรับกลยุทธ์การขายหันมาจำหน่ายปุ๋ยปาล์มแทน

วันนี้ (24 ก.ย.) นายวีระ ตระกูลรัมย์ ผู้จัดการ บริษัท ตรัง-มาเลเซีย เทคโนโลยีเกษตร จำกัด ตัวแทนจำหน่ายปุ๋ยเคมีรายใหญ่ของจังหวัดตรัง กล่าวว่า ราคายางพาราที่ตกต่ำมีผลกระทบต่อธุรกิจจำหน่ายปุ๋ยยางเป็นอย่างมาก โดยในระยะแรกที่ยางอยู่ในช่วงราคา 70-80 บาท/กิโลกรัม ยังไม่มีผลกระทบเท่าไหร่ แต่ใน 2-3 เดือนที่ผ่านมา หลังจากลดลงมาเหลืออยู่ในช่วงราคา 40-50 บาท/กิโลกรัม กลับมีผลกระทบเยอะมาก ทำให้ยอดขายปุ๋ยยางลดลงไป 50% เพราะชาวสวนส่วนใหญ่ขาดกำลังซื้อ และต้องนำเงินไปใช้อย่างอื่นที่จำเป็นมากกว่า

ด้าน นายภราดร นุชิตศิริภัทรา เจ้าของแปลงยางพาราพันธุ์ดีนายขำ กล่าวว่า จากการที่ยางมีราคาตกต่ำ ทำให้มีการปลูกยางลดลงตามกระแส และยอดการจำหน่ายต้นกล้ายางลดลง แต่พื้นที่ปลูกยางในจังหวัดตรังก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะพืชผลทางการเกษตรอื่นๆ ที่จะนำมาปลูกทดแทน เช่น ผลไม้ ก็ยังมีราคาตกต่ำ นอกจากจะปรับเปลี่ยนไปปลูกปาล์มน้ำมันบ้าง แต่เป็นเพียงเฉพาะเกษตรกรรายใหญ่เท่านั้น ส่วนเกษตรกรรายเล็กยังไม่มีการปรับเปลี่ยน เพราะการทำสวนปาล์มจะต้องมีพื้นที่มากพอสมควรถึงจะประสบความสำเร็จ

ทั้งนี้ จากสถานการณ์ราคายางที่ตกต่ำสุดในรอบ 15 ปี ได้ส่งผลกระทบต่อการจำหน่ายต้นกล้ายางซึ่งใช้ต้นทุนค่อนข้างสูง โดยเฉพาะค่าแรงงานผลิตกล้ายางต้องใช้แรงงานที่มีความชำนาญ จึงต้องจ่ายค่าแรงงานอย่างต่ำวันละ 300 บาท/คน ส่วนร้านจำหน่ายปุ๋ยเพื่อใส่ยางต่างก็ได้รับผลกระทบ เพราะเมื่อยางราคาตกชาวสวนจะยอมงดใส่ปุ๋ย ถึงแม้ว่าจะเปิดกรีดมานานหลายเดือนแล้วก็ตาม ส่งผลให้ยอดจำหน่ายปุ๋ยเพื่อใส่ยางลดลงกว่า 50% ทำให้หลายร้านต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ไปจำหน่ายปุ๋ยปาล์มแทน
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น