เซอร์ไพรส์ ไปตามๆกันที่ จู่ๆ ก็ปรากฏภาพ “พรเพชร วิชิตชลชัย” ผู้ตรวจการแผ่นดิน มานั่งร่วมชี้แจงเนื้อหารัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ร่วมกับ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษา คสช.ฝ่ายกฎหมาย
เพราะที่ผ่านมาเป็นที่ทราบกันว่า วิษณุ จะเป็นตัวหลักด้านกฎหมายของคสช. การปรากฏตัวขึ้นมาของ พรเพชร เสมือนประกาศตัวว่า เป็นอีกหนึ่งคีย์แมน ในการทำคลอดรัฐธรรมนูญฉบับนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตำแหน่ง “ที่ปรึกษาหัวหน้า คสช.”หรือพูดง่ายๆคือ“กุนซือ”ด้านกฎหมายประจำตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่นเอง ซึ่งดูจะเหนือกว่า วิษณุ ที่เป็นที่ปรึกษา คสช.
ไล่ย้อนประวัติการทำงานของ“พรเพชร”ค่อนข้างชัดเจนว่า ยืนอยู่คนละขั้ว-คนละฝั่งกับ “ระบอบแม้ว”หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาโดยตลอด
เพราะเคยเป็นองค์คณะในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (คดีทุจริตกล้ายาง) แถมยังเป็นผู้พิพากษา คดีเป็นเจ้าพนักงานทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ แปลงค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต เอื้อประโยชน์ธุรกิจ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทำให้รัฐเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท
ที่สำคัญ “พรเพชร”ยังเป็นผู้ยื่นคำร้องต่อ ศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยว่า การจัดการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ จนนำมาสู่คำวินิจฉัย ให้การเลือกตั้งที่ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ หวังใช้เป็นบันไดเกาะอำนาจไว้ เป็น“โมฆะ”
“พรเพชร”เป็นที่รู้จักดีในวงการศาลฎีกา แถมยังมีลูกศิษย์ลูกหามากมายให้ความเคารพ เมื่อช่วงปลายปี 2557 ลงสมัครตำแหน่ง “ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ”ด้วย ซึ่งมีคะแนนนำมาเป็นเต็งหนึ่งตั้งแต่เปิดตัวลงสมัคร แต่สุดท้ายกลับโดน“ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ”เบียดในช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนเบนเข็มลงสมัคร และได้เป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน
**เมื่อสืบสาวคอนเนคชั่นของ “พรเพชร”พบว่า เคยเป็นนักศึกษา วปอ.41 รุ่นเดียวกับ“วิชา มหาคุณ”กรรมการ ป.ป.ช. “สุพจน์ ไข่มุก”ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ“พล.อ.วินัย ภัทธิยะกุล”อดีตเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)
มีกระแสข่าวว่า “พรเพชร”รู้จักมักคุ้นกันดีกับ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษา คสช. และรู้จักเป็นการส่วนตัวกับ“บิ๊กตู่”อยู่ก่อนแล้ว จึงได้มีการเทียบเชิญในทางลับ ให้มาช่วยงาน คสช.
ยิ่งในช่วงที่มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว บทบาทของ “พรเพชร”ค่อนข้างสำคัญ เปรียบเสมือนเป็นคนตรวจร่าง ที่คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะพิเศษ นำโดย“มีชัย ฤชุพันธุ์-วิษณุ เครืองาม-บวรศักดิ์ อุวรรณโณ”ช่วยกันร่างขึ้นมา ก่อนส่งให้ หัวหน้าคสช. เคาะในขั้นสุดท้าย
โดยเฉพาะเรื่องจำนวนสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สามเกลอ “มีชัย-วิษณุ-บวรศักดิ์”กำหนดให้มี สนช. แค่ 200 คน และยืนจำนวน 200 คน แทบที่จะไม่มีการแก้ไข จนกระทั่งนาทีสุดท้ายก่อนนำร่างรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) ขึ้นทูลเกล้าฯ ว่ากันว่า“พรเพชร”ได้เสนอให้เพิ่มจำนวนขึ้นมาอีก 20 คน เป็น 220 คน ในนาทีสุดท้าย
ส่วนการกำหนดเข็มทิศนำทาง“รัฐธรรมนูญ”ฉบับใหม่ 11 ข้อที่ “บิ๊กตู่”ให้การบ้านคณะทำงานไปนั้น สุดท้ายคนที่คอยเติมแต่งให้บทบัญญัติทั้ง 10 ข้อ ครอบคลุมการบริหารงานราชการทั้งหมดคือ“พรเพชร”อีกเช่นกัน
**ที่สำคัญที่สุด “พรเพชร”เป็นคนเสนอต่อ“บิ๊ก คสช.”ว่า การร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ไม่ควรระบุให้ชัดเจนว่า ต้องมีการทำประชามติ หรือไม่ ทั้งที่ “มีชัย-วิษณุ-บวรศักดิ์”ระบุ ให้มีการทำประชามติ
"การทำประชามติ จะเป็นผลเสียต่อ คสช.เอง หากกระแสของคสช.ตกลง แถมการทำประชามติ จะทำให้เสียเวลา เสียงบประมาณ แถมยังไม่มีความแน่นอน" คำพูดของ“พรเพชร”ในเรื่องประชามติ
ทว่ามีการถกเถียงกันกว้างขวาง จึงมีการเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ขึ้นอีก 1 มาตรา โดยการให้อำนาจ คสช. สามารถแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนในอดีต ซึ่งหากถึงวันที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวรเสร็จสมบูรณ์ แล้วหากเห็นว่า กระแสของ คสช.ไม่ตก การตัดสินใจทำ ประชามติ ก็อาจเกิดขึ้น โดยคสช. แก้ไขในรัฐธรรมนูญชั่วคราว ก็เป็นได้
ทั้งหมดคือเบื้องหลังของชายชื่อ“พรเพชร”ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญใน คสช. และการตัดสินใจของ“บิ๊กตู่”
จึงต้องจับตาบทบาทต่อไปนี้ของ“พรเพชร”ให้ดี
**หลายคนเริ่มคาดการณ์ว่า “พรเพชร”คือตัวเต็งนั่งเก้าอี้ “ประธาน สนช.” !!!
เพราะที่ผ่านมาเป็นที่ทราบกันว่า วิษณุ จะเป็นตัวหลักด้านกฎหมายของคสช. การปรากฏตัวขึ้นมาของ พรเพชร เสมือนประกาศตัวว่า เป็นอีกหนึ่งคีย์แมน ในการทำคลอดรัฐธรรมนูญฉบับนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตำแหน่ง “ที่ปรึกษาหัวหน้า คสช.”หรือพูดง่ายๆคือ“กุนซือ”ด้านกฎหมายประจำตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่นเอง ซึ่งดูจะเหนือกว่า วิษณุ ที่เป็นที่ปรึกษา คสช.
ไล่ย้อนประวัติการทำงานของ“พรเพชร”ค่อนข้างชัดเจนว่า ยืนอยู่คนละขั้ว-คนละฝั่งกับ “ระบอบแม้ว”หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาโดยตลอด
เพราะเคยเป็นองค์คณะในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (คดีทุจริตกล้ายาง) แถมยังเป็นผู้พิพากษา คดีเป็นเจ้าพนักงานทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ แปลงค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต เอื้อประโยชน์ธุรกิจ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทำให้รัฐเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท
ที่สำคัญ “พรเพชร”ยังเป็นผู้ยื่นคำร้องต่อ ศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยว่า การจัดการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ จนนำมาสู่คำวินิจฉัย ให้การเลือกตั้งที่ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ หวังใช้เป็นบันไดเกาะอำนาจไว้ เป็น“โมฆะ”
“พรเพชร”เป็นที่รู้จักดีในวงการศาลฎีกา แถมยังมีลูกศิษย์ลูกหามากมายให้ความเคารพ เมื่อช่วงปลายปี 2557 ลงสมัครตำแหน่ง “ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ”ด้วย ซึ่งมีคะแนนนำมาเป็นเต็งหนึ่งตั้งแต่เปิดตัวลงสมัคร แต่สุดท้ายกลับโดน“ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ”เบียดในช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนเบนเข็มลงสมัคร และได้เป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน
**เมื่อสืบสาวคอนเนคชั่นของ “พรเพชร”พบว่า เคยเป็นนักศึกษา วปอ.41 รุ่นเดียวกับ“วิชา มหาคุณ”กรรมการ ป.ป.ช. “สุพจน์ ไข่มุก”ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ“พล.อ.วินัย ภัทธิยะกุล”อดีตเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)
มีกระแสข่าวว่า “พรเพชร”รู้จักมักคุ้นกันดีกับ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษา คสช. และรู้จักเป็นการส่วนตัวกับ“บิ๊กตู่”อยู่ก่อนแล้ว จึงได้มีการเทียบเชิญในทางลับ ให้มาช่วยงาน คสช.
ยิ่งในช่วงที่มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว บทบาทของ “พรเพชร”ค่อนข้างสำคัญ เปรียบเสมือนเป็นคนตรวจร่าง ที่คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะพิเศษ นำโดย“มีชัย ฤชุพันธุ์-วิษณุ เครืองาม-บวรศักดิ์ อุวรรณโณ”ช่วยกันร่างขึ้นมา ก่อนส่งให้ หัวหน้าคสช. เคาะในขั้นสุดท้าย
โดยเฉพาะเรื่องจำนวนสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สามเกลอ “มีชัย-วิษณุ-บวรศักดิ์”กำหนดให้มี สนช. แค่ 200 คน และยืนจำนวน 200 คน แทบที่จะไม่มีการแก้ไข จนกระทั่งนาทีสุดท้ายก่อนนำร่างรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) ขึ้นทูลเกล้าฯ ว่ากันว่า“พรเพชร”ได้เสนอให้เพิ่มจำนวนขึ้นมาอีก 20 คน เป็น 220 คน ในนาทีสุดท้าย
ส่วนการกำหนดเข็มทิศนำทาง“รัฐธรรมนูญ”ฉบับใหม่ 11 ข้อที่ “บิ๊กตู่”ให้การบ้านคณะทำงานไปนั้น สุดท้ายคนที่คอยเติมแต่งให้บทบัญญัติทั้ง 10 ข้อ ครอบคลุมการบริหารงานราชการทั้งหมดคือ“พรเพชร”อีกเช่นกัน
**ที่สำคัญที่สุด “พรเพชร”เป็นคนเสนอต่อ“บิ๊ก คสช.”ว่า การร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ไม่ควรระบุให้ชัดเจนว่า ต้องมีการทำประชามติ หรือไม่ ทั้งที่ “มีชัย-วิษณุ-บวรศักดิ์”ระบุ ให้มีการทำประชามติ
"การทำประชามติ จะเป็นผลเสียต่อ คสช.เอง หากกระแสของคสช.ตกลง แถมการทำประชามติ จะทำให้เสียเวลา เสียงบประมาณ แถมยังไม่มีความแน่นอน" คำพูดของ“พรเพชร”ในเรื่องประชามติ
ทว่ามีการถกเถียงกันกว้างขวาง จึงมีการเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ขึ้นอีก 1 มาตรา โดยการให้อำนาจ คสช. สามารถแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนในอดีต ซึ่งหากถึงวันที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวรเสร็จสมบูรณ์ แล้วหากเห็นว่า กระแสของ คสช.ไม่ตก การตัดสินใจทำ ประชามติ ก็อาจเกิดขึ้น โดยคสช. แก้ไขในรัฐธรรมนูญชั่วคราว ก็เป็นได้
ทั้งหมดคือเบื้องหลังของชายชื่อ“พรเพชร”ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญใน คสช. และการตัดสินใจของ“บิ๊กตู่”
จึงต้องจับตาบทบาทต่อไปนี้ของ“พรเพชร”ให้ดี
**หลายคนเริ่มคาดการณ์ว่า “พรเพชร”คือตัวเต็งนั่งเก้าอี้ “ประธาน สนช.” !!!
