วานนี้ (26 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการระบายข้าวที่ค้างสต๊อกจากโครงการรับจำนำข้าวว่า วันนี้ได้มีการประมูลไปแล้วกว่า 1 ล้านตัน ซึ่งเชื่อว่าจะไม่เป็นการตีราคาข้าวในตลาด เพราะเป็นคนละส่วนกัน สำหรับข้าวที่ค้างอยู่ ตนได้สั่งการไปแล้ว และอยากให้พวกเราช่วยกัน โดยรัฐบาลจะมีนโยบายนำมาขายในประเทศให้มากขึ้น ราคาอาจจะถูก มีทั้งข้าวหอมมะลิและข้าวขาว จะให้ทำการขาย ทุกจังหวัด ส่วนข้าวที่ขายไปต่างประเทศจะเป็นข้าวใหม่ หากไม่พอ จึงจะลำเลียงข้าวเก่าเพิ่มไป ซึ่งขึ้นอยู่กับสัญญารัฐต่อรัฐว่า ต้องการข้าวแบบไหน จริงๆแล้วอยากระบายข้าวทั้งข้างในและข้างนอก แต่ต้องพิจารณาว่าจะทำอย่างไรจะไม่มีผลกระทบซึ่งกันและกัน
** แค่ค่าเก็บตกปีละ 2 หมื่นล้าน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ข้าวที่ค้างอยู่ในสต๊อกจากโครงการรับจำนำข้าวจะพยายามเร่งระบายให้หมดเร็วที่สุด เพราะวันนี้เป็นภาระค่าเช่าคลังเก็บข้าว เสียค่าใช้จ่ายเดือนละ 2 พันกว่าล้านบาท ตกวันละ 50 กว่าล้าน ซึ่งเราไม่ควรเสียค่าเช่าโกดังเก็บข้าวมากขนาดนี้ ถ้าเรายังไม่ยุติการรับจำนำข้าวก็จะทำให้เพิ่มโกดังจำนำมากขึ้น และทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้นไปอีก
“วันนี้เราควรเสียไหมเดือนละ 2.6 พันล้านบาท รวมปีละ 2 หมื่นกว่าล้าน เฉยๆ เลยนะ ถ้าระบายข้าวยกคลังได้ก็จะทำให้ภาระตรงนี้ลดลง จึงได้พยายามให้มีการระบายข้าวยกคลัง แต่คุณภาพข้าวไม่เท่ากัน ดังนั้นต้องตีตามราคาข้าวที่มีอยู่ ซึ่งเขาจะรับหรือเปล่ายังไม่รู้ เพราะข้าวบางส่วนมีเสื่อมคุณภาพ ซึ่งก็ต้องเหมาไป” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
** ลั่นไม่ได้หวังเล่นงาน รบ.เก่า
นายกฯกล่าวอีกว่า รัฐบาลคำนึงถึงเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และมีหน้าที่ต้องหาเงินคืนให้ได้มากที่สุด แต่หากขายเร็วเกินไป ก็จะทำให้ราคาข้าวตก และรัฐบาลอาจจะถูกมองว่า รีบขายทำให้ราคาข้าวตก นี่คือสิ่งที่เป็นความยากง่าย ขอยืนยันว่า รัฐบาลไม่ต้องจะขายข้าวให้ได้ราคาต่ำๆเพื่อที่จะเล่นงานรัฐบาลเก่า แต่คิดว่าจะทำอย่างไรให้ขายข้าวได้ราคามากที่สุด “เราต้องคิดว่าทำอย่างไรไม่ให้เสียประโยชน์ของรัฐ นั่นคือ ความยากง่าย ผมไม่คิดจะขายให้ได้กำไรน้อยๆ เพื่อจะไปเล่นงานเขา มันคนละเรื่อง ต้องแยกกัน” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องรายได้ของเกษตรกรชาวนา ต้องมาดูกันว่า เราจะลดรายจ่ายให้เขาได้อย่างไรบ้าง โดยเฉพาะในส่วนของต้นทุนการผลิต ซึ่งตนมีแนวคิดว่าเป็นไปได้หรือไม่ หากเราจะหาเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ให้กับเกษตรกรชาวนา หรือจะเป็นลักษณะของสหกรณ์ โดยที่ไม่ต้องให้เป็นเงิน แต่การให้เงินไปใช้หนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
** แค่ค่าเก็บตกปีละ 2 หมื่นล้าน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ข้าวที่ค้างอยู่ในสต๊อกจากโครงการรับจำนำข้าวจะพยายามเร่งระบายให้หมดเร็วที่สุด เพราะวันนี้เป็นภาระค่าเช่าคลังเก็บข้าว เสียค่าใช้จ่ายเดือนละ 2 พันกว่าล้านบาท ตกวันละ 50 กว่าล้าน ซึ่งเราไม่ควรเสียค่าเช่าโกดังเก็บข้าวมากขนาดนี้ ถ้าเรายังไม่ยุติการรับจำนำข้าวก็จะทำให้เพิ่มโกดังจำนำมากขึ้น และทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้นไปอีก
“วันนี้เราควรเสียไหมเดือนละ 2.6 พันล้านบาท รวมปีละ 2 หมื่นกว่าล้าน เฉยๆ เลยนะ ถ้าระบายข้าวยกคลังได้ก็จะทำให้ภาระตรงนี้ลดลง จึงได้พยายามให้มีการระบายข้าวยกคลัง แต่คุณภาพข้าวไม่เท่ากัน ดังนั้นต้องตีตามราคาข้าวที่มีอยู่ ซึ่งเขาจะรับหรือเปล่ายังไม่รู้ เพราะข้าวบางส่วนมีเสื่อมคุณภาพ ซึ่งก็ต้องเหมาไป” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
** ลั่นไม่ได้หวังเล่นงาน รบ.เก่า
นายกฯกล่าวอีกว่า รัฐบาลคำนึงถึงเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และมีหน้าที่ต้องหาเงินคืนให้ได้มากที่สุด แต่หากขายเร็วเกินไป ก็จะทำให้ราคาข้าวตก และรัฐบาลอาจจะถูกมองว่า รีบขายทำให้ราคาข้าวตก นี่คือสิ่งที่เป็นความยากง่าย ขอยืนยันว่า รัฐบาลไม่ต้องจะขายข้าวให้ได้ราคาต่ำๆเพื่อที่จะเล่นงานรัฐบาลเก่า แต่คิดว่าจะทำอย่างไรให้ขายข้าวได้ราคามากที่สุด “เราต้องคิดว่าทำอย่างไรไม่ให้เสียประโยชน์ของรัฐ นั่นคือ ความยากง่าย ผมไม่คิดจะขายให้ได้กำไรน้อยๆ เพื่อจะไปเล่นงานเขา มันคนละเรื่อง ต้องแยกกัน” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องรายได้ของเกษตรกรชาวนา ต้องมาดูกันว่า เราจะลดรายจ่ายให้เขาได้อย่างไรบ้าง โดยเฉพาะในส่วนของต้นทุนการผลิต ซึ่งตนมีแนวคิดว่าเป็นไปได้หรือไม่ หากเราจะหาเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ให้กับเกษตรกรชาวนา หรือจะเป็นลักษณะของสหกรณ์ โดยที่ไม่ต้องให้เป็นเงิน แต่การให้เงินไปใช้หนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง