วานนี้ (25 ม.ค.) พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงกรณีที่องค์การพูโล กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อปลดปล่อยปัตตานี (3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ออกจากรัฐไทย ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อเสนอ 8 ข้อเรียกร้อง โดยหนึ่งในข้อเรียกร้องนั้น ขอให้ปล่อยตัวนักโทษการเมืองที่ถูกขังใน จ.ปัตตานี และ จ.ยะลา รวมถึงขอให้ยกเลิกการประกาศกฎอัยการศึกในพื้นที่ และดำเนินการสืบสวนสอบสวนอย่างเต็มรูปแบบต่อข้อกล่าวหาที่ว่า หน่วยงานรัฐใช้อำนาจในทางมิชอบ ว่า ข้อเรียกร้องดังกล่าวเป็นข้อเรียกร้องที่องค์การพูโล ฯ พยายามเรียกร้องมาอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลานาน โดยเฉพาะการขอให้ปล่อยตัวนักโทษการเมืองที่ถูกขังใน จ.ปัตตานี และ จ.ยะลา ซึ่งความเป็นจริงไม่สามารถทำได้ เพราะคนเหล่านั้นทำผิดกฎหมายอาญา มีการสังหาร และทำร้ายทั้งคนไทยพุทธ และมุสลิม ซึ่งญาติพี่น้องผู้สูญเสียไม่ยอมแน่ เรื่องนี้เป็นเรื่องของกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม ไม่สามารถยกโทษให้ใครได้ และไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะมีความพยายามเรียกร้องมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับข้อเรียกร้องที่ให้ยกเลิกการใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่นั้น เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน. ภาค. 4 สน.) พยายามไม่ใช่กฎหมายพิเศษ และไม่ใช่อำนาจพิเศษ เราพยายามใช้กฎหมายปกติ ที่ผ่านมาก็ไม่มีการปิดล้อมตรวจค้น โดยจะใช้ขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลัก
ส่วนที่เรียกร้องให้มีการดำเนินการสอบสวนอย่างเป็นอิสระ ในคดีตากใบ และกรือเซะ อย่างโปร่งใสนั้น ที่ผ่านมามีคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอยู่ ซึ่งเขามีความโปร่งใส และยินดีให้ข้อมูลกับทุกคน สิ่งใดที่เจ้าหน้าที่ผิดเราก็ยอมรับ เนื่องจากบางเรื่องเป็นเหตุสุดวิสัยและไม่ได้เป็นความตั้งใจ ซึ่งก็ต้องมานั่งคุยกัน
พล.ท.ปราการ กล่าวถึงการดูแลสถานการณ์ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ขณะนี้สถานการณ์ในพื้นที่ภาพรวมมีความดีขึ้น เหตุการณ์ความรุนแรงลดลง แต่ผู้ก่อความรุนแรงยังคงมีความพยายามก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็พยายามดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน แม้ว่าทุกฝ่ายจะมีความเหน็ดเหนื่อยก็ตาม
สำหรับข้อเรียกร้องที่ให้ยกเลิกการใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่นั้น เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน. ภาค. 4 สน.) พยายามไม่ใช่กฎหมายพิเศษ และไม่ใช่อำนาจพิเศษ เราพยายามใช้กฎหมายปกติ ที่ผ่านมาก็ไม่มีการปิดล้อมตรวจค้น โดยจะใช้ขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลัก
ส่วนที่เรียกร้องให้มีการดำเนินการสอบสวนอย่างเป็นอิสระ ในคดีตากใบ และกรือเซะ อย่างโปร่งใสนั้น ที่ผ่านมามีคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอยู่ ซึ่งเขามีความโปร่งใส และยินดีให้ข้อมูลกับทุกคน สิ่งใดที่เจ้าหน้าที่ผิดเราก็ยอมรับ เนื่องจากบางเรื่องเป็นเหตุสุดวิสัยและไม่ได้เป็นความตั้งใจ ซึ่งก็ต้องมานั่งคุยกัน
พล.ท.ปราการ กล่าวถึงการดูแลสถานการณ์ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ขณะนี้สถานการณ์ในพื้นที่ภาพรวมมีความดีขึ้น เหตุการณ์ความรุนแรงลดลง แต่ผู้ก่อความรุนแรงยังคงมีความพยายามก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็พยายามดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน แม้ว่าทุกฝ่ายจะมีความเหน็ดเหนื่อยก็ตาม