รอยเตอร์/เอเอฟพี - คิวบาปล่อยตัวชาวอเมริกันที่ถูกมองในฐานะนักโทษทางการเมืองบางส่วนในจำนวน 53 คน ภายใต้ข้อตกลงประวัติศาสตร์คืนสัมพันธ์อันดีระหว่างอเมริกาและคิวบาเมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่วอชิงตันต้องการเห็นผู้ถูกควบคุมตัวที่เหลือได้เป็นอิสระเร็วๆ นี้ กระทรวงต่างประเทศแดนลุงแซมเผยเมื่อวันอังคาร (6 ม.ค.)
“พวกเขาปล่อยตัวนักโทษบางส่วนออกมาแล้ว และเราหวังเห็นเรื่องนี้เสร็จสิ้นในอนาคตอันใกล้” เจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับผู้สื่อข่าวโดยไม่ได้เจาะจงถึงตัวเลขนักโทษที่ได้รับอิสรภาพ
อย่างไรก็ตาม โฆษกหญิงรายนี้บอกว่า การปล่อยตัวนักโทษ 53 คน ไม่ใช่เงื่อนไขก่อนการหารือเกี่ยวกับผู้อพยพ และการหวนคืนสู่สัมพันธ์ระดับปกติระหว่างสหรัฐฯ กับคิวบาที่มีกำหนดเจรจากันในช่วงปลายเดือนนี้
ซากีกล่าวว่าเธอไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัดว่าการเจรจาดังกล่าวที่ทางฝั่งสหรัฐฯนำโดยนายโรเบอร์ตา จาค็อบสัน ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ จะมีขึ้นเมื่อไหร่และที่ไหน เพียงแต่บอกว่า “เราหวังว่ามันจะได้ข้อสรุปในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้”
คำสัญญาเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนนักโทษเป็นส่วนหนึ่งในถ้อยแถลงเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ของประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ ที่บอกว่ามีแผนคืนสัมพันธ์อันปกติกับคิวบา หลังเป็นปรปักษ์กันมานานหลายทศวรรษ
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กำลังศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการถอดชื่อคิวบา ออกจากบัญชีดำประเทศที่สนับสนุนก่อการร้าย และท้ายที่สุดแล้ว โอบามาหวังได้รับความร่วมมือจากสภาครองเกสสำหรับยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางการค้าต่อคิวบาที่บังคับใช้มานานกว่า 54 ปี
ก่อนหน้าถ้อยแถลงเมื่อวันที่ 17 ธันวาคมของโอบามา เจ้าหน้าที่อาวุโสสหรัฐฯ เผยว่า ทางการคิวบาตกลงปล่อยนักโทษการเมือง 53 คน หลังจากทั้งสองประกาศรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างกัน เช่นเดียวกับผู้รับเหมาชาวอเมริกันที่ถูกควบคุมตัวนาน 5 ปีและชาวคิวบาอีกคนที่เป็นสายลับแก่วอชิงตันซึ่งถูกควบคุมตัวมานานกว่า 20 ปีและเคยได้รับการเรียกขานจากประธานาธิบดีโอบามา ว่าเป็นหนึ่งในสายลับที่สำคัญที่สุดของสหรัฐฯในคิวบา
ในทางกลับกัน สหรัฐฯ ยอมปล่อยนักโทษคิวบาจำนวน3คนที่ถูกคุมขังข้อหาสอดแนมข้อมูลของประเทศเพื่อแลกเปลี่ยน ขณะที่โอบามาเผยว่าเขาได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ทบทวนการขึ้นบัญชีดำคิวบาในฐานะรัฐที่ให้การสนับสนุนก่อการร้ายเสียใหม่
