ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ต้องเรียกว่า “ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรกอีก” กับกรณีของ “เสี่ยตัน ภาสกรนที” นักการตลาดแถวหน้าของเมืองไทย เจ้าของผลิตภัณฑ์ “ชาอิชิตัน”
หลังขนเกลือบริสุทธิ์ 40 ตัน มาทำเป็นหิมะเทียม ในโครงการ Think Park หัวมุมถนนนิมมานเหมินท์ กลางเมืองเชียงใหม่ เมื่อปลายปี 2557 จนถูกรุมวิจารณ์กันทั่วบ้านทั่วเมือง ต้องเลิกงาน ขนเกลือกลับก่อนกำหนดมาหมาดๆ
คราวนี้ “อิชิตัน” ของเสี่ยตัน ก็ทำให้พิธีรับพระราชทานปริญญาบัตร ครั้งที่ 49 มช.ต้องปั่นป่วนอีกครั้ง
“ถ่ายมุมไหน ก็ติดหมด ยกเว้นจะย้ายไปถ่ายรูปในจุดที่มีดอกไม้ไม่มากนักเท่านั้น” เป็นความรู้สึกโดยสรุปจากญาติ และบัณฑิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่พยายามหามุมสวยๆ ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ในโอกาสพิเศษซ้อมรับปริญญา ระหว่าง 19-21 ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะเข้าพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตรจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 22 ม.ค.2558 ณ หอประชุม มช.ถนนนิมมานเหมินท์ อ.เมืองเชียงใหม่
เพราะหลังบัณฑิต - ญาติ ออกจากหอประชุม มช. แล้วเดินข้ามถนนนิมมานเหมินท์ ไปยังฝั่งตรงข้ามหอประชุมฯ ซึ่งมีแปลงดอกไม้ที่ออกดอกเบ่งบานสะพรั่งหลากสี ที่มหาวิทยาลัยฯ จัดเตรียมไว้ให้บัณฑิตถ่ายรูปเป็นที่ระลึก โดยมีทิวเขาดอยสุเทพเป็นแบ็กกราวด์ กลับพบว่า มีลูกโป่งรูปขวดยักษ์ขนาดสูงไม่ต่ำกว่า 4-5 เมตร ติดโลโก้สินค้าชา “อิชิตัน” ตั้งตระหง่านอยู่หลังแปลงดอกไม้ ถึง 3 ลูก พร้อมกับเต็นท์ขายเครื่องดื่มชาอิชิตัน
นั่นหมายถึงถ้าบัณฑิต-ญาติ จะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกให้แปลงดอกไม้หลากสีเป็นฉากหน้า ทิวเขาดอยสุเทพ เป็นฉากหลัง ภาพทุกภาพจะต้องมีลูกโป่งยักษ์รูปขวดติดโลโก้ชา “อิชิตัน” ติดไปด้วยทุกช็อต
กรณีดังกล่าว หลัง ASTVผู้จัดการ นำเสนอเป็นข่าว (ถ่ายยังไงก็ติด!ขวดยักษ์”อิชิตัน”ตั้งหรามุมถ่ายรูปบัณฑิตมช.http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000008034) ก็แชร์ต่อกันอย่างแพร่หลาย และเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์แพร่สะพัดในโซเชียลมีเดีย
หลากหลายคอมเมนท์ มองว่า ลูกโป่งรูปขวดยักษ์ “อิชิตัน” ได้ก่อให้เกิด “ทัศนอุจาด” ในงานรับพระราชทานปริญญา มช.ครั้งที่ 49 ส่งผลกระทบต่อการถ่ายรูปเป็นที่ระลึกของบัณฑิตและญาติ ในโอกาสพิเศษในชีวิต
ขณะที่บางส่วนมองว่า เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากในวันพระราชทานปริญญาบัตร (22 ม.ค.) ถนนนินมานเหมินท์ เป็นเส้นทางเสด็จฯ ขณะที่ลูกโป่งยักษ์รูปขวด “อิชิตัน” ตั้งตระหง่านอยู่ฝั่งตรงข้ามหอประชุม มช.สถานที่พระราชทานปริญญาบัตร , การนำลูกโป่งยักษ์มาตั้งอยู่ลานกลางแจ้ง ท่ามกลางแสดงแดดแผดกล้า ร้อนระอุ อาจเสี่ยงทำให้เกิดการระเบิด จนเป็นอันตรายต่อผู้ที่อยู่ใกล้เคียงได้ ฯลฯ
อย่างไรก็ตามหลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างแพร่หลายในช่วงวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา ค่ำวันเดียวกันผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก็ได้สั่งที่ยกลูกโป่งยักษ์ดังกล่าวออกทันที
รศ.ธีรภัทร วรรณฤมล ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายมวลชนสัมพันธ์และนักศึกษาเก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยกับ “ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์” ว่า ต้องขอโทษทั้งบัณฑิตที่เข้าร่วมพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ผู้ปกครอง และศิษย์เก่า รวมทั้งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความจริงแล้วทางผู้บริหารเองก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ เพราะนึกไม่ถึง มหาวิทยาลัยไม่เคยอนุญาตให้นำลูกโป่ง หรือป้ายโฆษณาดังกล่าว เข้ามาติดตั้งในพื้นที่ของมหาวิทยาลัย
แต่เนื่องจากช่วงนี้นอกจากจะมีงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแล้ว ยังมีงานฉลองวาระครบ 50 ปี มช.ด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเตรียมงานหลายทางอาจดูแลไม่ทั่วถึงจึงเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตามหลังจากมีผู้แจ้งให้ทราบ อธิการบดีก็ได้สั่งการโดยตรงให้ปลดออกทันที
รศ.ธีรภัทร บอกว่า แต่เดิมบริเวณดังกล่าวเป็นแปลงเกษตรเก่า ผู้บริหารมหาวิทยาลัยฯเห็นว่า ควรนำมาใช้สอยให้เป็นประโยชน์ในช่วงรับปริญญา จึงทำการปรับเกรดพื้นที่ทั้งหมดแล้วปลูกดอกไม้ให้สวยงาม เพื่อให้บัณฑิตได้ใช้เป็นที่ถ่ายรูป ประกอบกับมีพื้นที่ว่างอีกบางส่วน ก็ทำการปรับเป็นลานจอดรถ และบางส่วนให้ฝ่ายสิทธิประโยชน์ทำการจัดสรรให้เช่าบูทประเภทน้ำดื่ม หรือถ้าเป็นสมัยก่อนก็จะเป็นการให้เช่าบูทจำหน่ายฟิล์ม หรือจำหน่ายดอกไม้ ของที่ระลึกในงานรับปริญญา อะไรประเภทนั้น
ส่วนเงื่อนไขที่มีการทำสัญญาในการเข้ามาจำหน่ายสินค้าในพื้นที่นั้น มีฝ่ายสิทธิประโยชน์ของมหาวิทยาลัยเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบในการพิจารณาและกำหนดกรอบแต่ละรายตั้งร้านและทำกิจกรรมอย่างเหมาะสมรู้จักกาลเทศะ เช่น การแสดงความยินดีกับผู้รับปริญญาหรือตั้งซุ้มให้ถ่ายภาพอย่างสวยงามเหมาะสม เป็นต้น ซึ่งตามปกติส่วนใหญ่ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ต้องเจาะจงอะไรมาก
แต่กรณีที่เกิดปัญหาขึ้นในครั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นการกระทำที่ไม่อยู่ในข้อตกลงที่ทางเครื่องดื่มยี่ห้อนี้ได้ทำร่วมกับทางมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางมหาวิทยาลัยไม่ทราบล่วงหน้ามาก่อน
“เพราะไม่คิดว่าจะมีอะไรที่แอบแฝง”รศ.ธีรภัทร กล่าว
ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายมวลชนสัมพันธ์และนักศึกษาเก่าสัมพันธ์ ระบุต่ออีกว่า หลังเกิดเหตุครั้งนี้ มหาวิทยาลัยจะต้องกลับมาทบทวนในเรื่องรายละเอียดต่าง ๆ ให้ชัดเจนมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดกรณีแอบแฝงเช่นนี้อีก ซึ่งหากจะมีคำถามว่าทางมหาวิทยาลัยฯ ได้อะไรจากการให้เข้ามาเช่าพื้นที่ หรือได้ค่าโฆษณาแอบแฝงทำนองนี้นั้น ยืนยันว่าไม่มาก ทางมหาวิทยาลัยฯไม่เคยคิด และไม่เคยต้องการในสิ่งเหล่านี้เลย จะเห็นได้จากรถไฟฟ้าที่นำมาให้บริการนักศึกษา และผู้ปกครองในมหาวิทยาลัยก็ไม่เคยมีการให้ปิดป้ายโฆษณาใด ๆ ทั้งสิ้น
รศ.ธีรภัทร ย้ำอีกว่า ผู้บริหารมหาวิทยาลัยทุกท่านก็ขอแสดงความเสียใจ และขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม้แต่ศิษย์เก่ามากมายก็มีคอมเมนท์ และต่อว่าทางมหาวิทยาลัยฯเหมือนกันว่า ยอมให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร ทางผู้บริหารก็ยอมรับผิด เมื่อทราบเรื่องก็ได้สั่งแก้ไขทันที
“ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญ ที่ทำให้นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปทางมหาวิทยาลัยจะต้องมีการกลั่นกรองอย่างเข้มข้นมากขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้มีการฉวยโอกาสเข้าแสวงหาประโยชน์ทางการค้าของเอกชนหรือสินค้าต่างๆ โดยที่ไม่คำนึงถึงความเหมาะสมและไร้ความรับผิดชอบเกิดขึ้นอีก”
นั่นเป็น “บทเรียน” สำหรับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ถือเป็นปลายเหตุของเรื่องราวที่เกิดขึ้น
แต่สำหรับต้นเหตุ หรือต้นเรื่องอย่าง “อิชิตัน - ตัน ภาสกรนที” เซียนการตลาดขั้นเทพ ดูเหมือนยังคงมีคำถามค้างคาอยู่
เพราะนับจากวันที่เขาต้องสั่งยกเลิกเทศกาล Nimman Snow Festival@Think Park ที่จัดขึ้นเพื่อดึงคนเข้ามาในโครงการธิ้งค์พาร์คของเขาช่วงเทศกาลคริสต์มาส-ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ก่อนกำหนดในวันที่ 2 ม.ค.2558 (เดิมกำหนดจัดระหว่าง 20 ธ.ค.57-4 ม.ค.58) ท่ามกลางข้อครหาเรื่อง “ไอโฟน 6 กับเงินสดอีก 1 หมื่น” ที่กำนัลเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนในเทศบาลนครเชียงใหม่ ผ่านมาเพียงไม่ถึง 20 วัน ก็เกิดกรณีลูกโป่งยักษ์โฆษณาชา “อิชิตัน” กลางงานรับปริญญาดังกล่าวนี้อีก
ประเภทที่ว่า กลิ่นหิมะเทียม หรือหิมะเกลือ ยังไม่ทันจาง “เสี่ยอิชิตัน” ก็ทำเรื่องที่ไม่เหมาะสม-ไม่ถูกกาลเทศะ รวมทั้งดูเหมือนไม่รับผิดชอบต่อเชียงใหม่ และสังคม ซ้ำขึ้นมาอีกครั้ง!!